นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น กล่าวในงานสัมมนา “SynBio Forum2019 ชีวนวัตกรรม ศาสตร์เปลี่ยนโลก” ว่าคนไทยต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะจากข้อมูลของสถาบันทรัพยากรโลกระบุว่า ในปี 2030 ประชากรโลกจะมีมากถึง 9,700 ล้านคน เพิ่มจาก 7,000 ล้านคนในปัจจุบัน ขณะที่ทรัพยากรโลกที่มีจำกัด ไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการของมนุษย์ และเมื่อรวมกับการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยิ่งส่งผลให้เกิดการขาดแคลนพื้นที่ทำกิน และทำให้เกิดวิกฤตทรัพยากรโลกขึ้น การพัฒนา SynBio จึงเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ลดการใช้ทรัพยากรโลก และ สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ที่สำคัญจะเป็นเทคโนโลยี ที่จะเข้ามา Disrupt ชีวิตประจำวันของมนุษย์ให้เปลี่ยนไปสิ้นเชิง ในอีกไม่เกิน 30 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ บางจากฯ ได้ชู BCG Model สอดคล้องกับแนวคิดพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยยึด 3 แนวทางหลัก คือ(B=Bio) เศรษฐกิจชีวภาพ ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า , เศรษฐกิจหมุนเวียน (C=Circular economy) คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และ เศรษฐกิจสีเขียว (G=Green economy) มุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน ทั้งนี้คาดว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดจาก BCG Model ในปี62 จะมีมูลค่าราว 3.4 ล้านล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 4.4 ล้านล้านบาทในปี 65 เพิ่มการจ้างงานไฮสกิล (ทักษะสูง) 10 ล้านตำแหน่ง เพิ่มรายได้เกษตรกรเป็น 2.4 แสนบาท ต่อครัวเรือน / สร้างการเข้าถึงยาชีววัตถุ 300,000 คน/ ปี ภายใน 5 ปีข้างหน้า ที่สำคัญจะช่วยลดใช้ทรัพยากรได้ 2 ใน 3 และลดปริมาณขยะได้ 16.5 ล้านตัน
ปัจจุบัน ไทยมีผลิตภัณฑ์ที่เป็น SynBio ไม่ว่าจะเป็น เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ส่วนในต่างประเทศ ก็มีเนื้อวัวเทียม ที่ผลิตจากพืช ของ Impossible Burger และ Beyond Burger , หรือเส้นใยแมงมุมสังเคราะห์จากโปรตีน ผ่านกระบวนการ SynBio เกิดเป็นเส้นใยที่ทนทานที่สุดที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมา รวมถึงยารักษาโรคมะเร็งออกฤทธิ์ตรงกับเซลล์มะเร็ง และไม่ทำลายเซลล์ดีในร่างกาย เป็นต้น