Money&Investment

กลุ่ม TISCO แจ้งผลประกอบการ 9 เดือน ฟันกำไรสุทธิ 5,521 ล้าน

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 5,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% ขณะที่งวดไตรมาส 3 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 1,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า โดยมีแรงหนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และกลุ่มสินเชื่อรายย่อยที่มีผลตอบแทนสูง ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสามารถเติบโตได้ดี แม้ว่าต้นทุนทางการเงินจะปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในด้านรายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนตัวลงตามภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวยและเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ช้าในส่วนของคุณภาพสินทรัพย์ สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs ratio) เพิ่มเป็น 2.25% จากไตรมาสก่อนที่ 2.20% จากกลยุทธ์การขยายธุรกิจไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง บวกกับแรงกดดันด้านกำลังซื้อในลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ การตั้งสำรองหนี้สูญขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า

“สินเชื่อประเภทดอกเบี้ยคงที่ได้รับผลกระทบจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น ทิสโก้จึงปรับกลยุทธ์โดยมุ่งการเติบโตไปในกลุ่มสินเชื่อรายใหญ่ที่มีโครงสร้างงบดุลแข็งแกร่ง และใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว รวมถึงขยายการเติบโตไปยังสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ผ่านการเร่งขยายสาขา “สมหวัง เงินสั่งได้” เพื่อชดเชยผลกระทบด้านลบจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดยังคงเป็นปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในวงกว้าง ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมา ทิสโก้จึงเพิ่มระดับความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น”

ในระยะข้างหน้า กลุ่มทิสโก้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3% ส่วนหนึ่งจากงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า การลงทุนภาคเอกชนยังเปราะบางจากแรงถ่วงของภาคการส่งออกที่อ่อนแอต่อเนื่อง และผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ในส่วนของต้นทุนทางการเงิน ยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น จากการปรับดอกเบี้ยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นของสถาบันการเงิน ขณะที่การดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ และมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมถึงให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ทั้งผ่านมาตรการที่ทิสโก้ดำเนินการขึ้นเองและมาตรการที่ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ตามความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย รวมถึงเดินหน้าเสริมสร้างทักษะทางการเงินแก่ประชาชนในกลุ่มต่าง ๆ ต่อเนื่อง หวังแก้ปัญหาหนี้เรื้อรังได้อย่างยั่งยืน

สรุปผลประกอบการสำหรับงวดไตรมาส 3 และ 9 เดือนแรกของปี 2566

ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% จากไตรมาส 3 ปี 2565 สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 10.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อจำนำทะเบียน ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาด ในส่วนของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักชะลอตัวลง ทั้งค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่อ่อนตัวลง ตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ชะลอตัว ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์ยังคงซบเซา ตามความผันผวนของตลาดทุนและปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลง ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.6% ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนตามแผนการเติบโตในระยะยาวของบริษัท ในขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย และมีอัตราส่วนเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Loan Loss Coverage Ratio) ที่ 205.8%

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 กำไรสุทธิมีจำนวน 5,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% จาก 9 เดือนแรกของปี 2565 เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโต 9.3% ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 90.8% ผลจากการปรับขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายและการปรับอัตราเงินนำส่ง FIDF สู่ระดับปกติ สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 2.4% จากค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 9.9% จากค่าใช้จ่ายการลงทุนในระยะยาว ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น 6.2% เพื่อรองรับความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นในสภาวะที่เศรษฐกิจยังคงเปราะบาง ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 17.7%

เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 มีจำนวน 231,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากสิ้นปี 2565 จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากการลงทุนภาคเอกชน ประกอบกับสินเชื่อจำนำทะเบียน โดยเฉพาะสินเชื่อ “สมหวัง เงินสั่งได้” เพิ่มขึ้น 17% จากการเปิดเครือข่ายสาขา ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อยังคงชะลอตัวจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถยนต์ ในส่วนของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.25% ของสินเชื่อรวม เป็นไปตามกลยุทธ์การเติบโตไปยังกลุ่มสินเชื่อที่มีอัตราผลตอบแทนสูง ประกอบกับแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทยังคงดำเนินนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง พร้อมติดตามและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ประกอบกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 22.6% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 19.0% และ 3.6% ตามลำดับ


BizTalk NEWS

Recent Posts

แพทย์ รพ.วิมุต แนะเลี่ยงผลิตภัณฑ์แปรรูป หนึ่งปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม

ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ อาหารแปรรูปกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนทุกวัย ด้วยความสะดวก รสชาติอร่อยถูกปาก และหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม หรืออาหารกระป๋อง แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยสารกันบูดและสารเคมี ถ้ากินบ่อย ๆ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง ซึ่งรวมถึง “มะเร็งเต้านม” ได้เช่นกัน…

14 hours ago

รู้ก่อนขาย! ช้อปปี้ เผย 3 ข้อควรรู้ เสริมความปลอดภัยในธุรกิจออนไลน์ สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ ขยายโอกาสให้ผู้ขาย

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเป็นอย่างยิ่ง ช้อปปี้ จึงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจในทุกประสบการณ์การซื้อขายบนแพลตฟอร์ม ช้อปปี้มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือระดับ พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ซื้อ เรามอบประสบการณ์การช้อปที่ปลอดภัย ยุติธรรม และมีคุณภาพสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้ทุกการช้อปปิ้งเป็นไปได้อย่างราบรื่น ด้านผู้ขาย ช้อปปี้มุ่งยกระดับความเชื่อมั่นในด้านการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับกฎหมาย…

14 hours ago

MGallery Residences MontAzure จัดพิธีเทปูนปิดโครงสร้างอาคาร เตรียมเผยโฉม เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ แห่งแรกของเมืองไทย ภายในอาณาจักร มอนท์เอซัวร์

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าจับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์ เมื่อ MGallery Residences MontAzure (เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์) คอนโดมิเนียมสุดหรูริมทะเลสาบพร้อมกรรมสิทธิ์ถือครองอย่างสมบูรณ์ (Freehold) ตั้งอยู่บนทำเลไพร์มโลเคชันในอาณาจักร MontAzure (มอนท์เอซัวร์) ได้จัดพิธีเทปูนปิดโครงสร้างอาคารไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมประกาศเร่งเดินหน้าต่อเพื่อให้โปรเจกต์ระดับเวิลด์คลาสแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานที่วางไว้…

14 hours ago

True รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2567 EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 7 ไตรมาส

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "True" รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เผยมีกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax)…

14 hours ago

BizTalk x Sunny Horo ดวงประจำวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567

BizTalk x Sunny Horo กับคอลลัมน์ ดวงธุรกิจ Weekly ชวนมาอัพเดต ดวงประจำวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567 กัน ใครเกิดตรงกับวันไหน…

14 hours ago

Alstom CRRC ผู้ผลิตโมโนเรลสายสี “ชมพู-เหลือง” ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มแก้ปัญหาล้อประคองหลุด

Biztalk วันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค. 67 พาไปคุยกับ ณัฐภัทริ์ อุณหคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หลังจากไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่เมืองอู๋หู มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งโรงงานนี้เป็นผู้ผลิตโมโนเรล…

18 hours ago