ถอดสมการตัดสินใจ มหาเศรษฐีเซียนหุ้น VI วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทำไมเทขายหุ้น ตุนเงินสด ดุจมีตาทิพย์ ก่อนตลาดหุ้นดิ่งทั่วโลก
หลังสุดสัปดาห์ก่อนมี รายงานข่าวว่า เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ขายหุ้นแอปเปิล ออกไปเกือบครึ่งหนึ่งในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ถึง 49.4% รวมถึงขายหุ้นของแบงก์ ออฟ อเมริกา
ทั้งนี้ จังหวะในการขายหุ้น ช่วงไตรมาส 2 ของเขา เกิดขึ้นท่ามกลางดัชนี S&P 500 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มิหนำซ้ำยังเกิดขึ้นก่อนตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งหนักในศุกร์ที่แล้ว ก่อนที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะดิ่งอย่างหนักในวันนี้ ทำไมบัฟเฟตถึงตัดสินใจแบบนั้น ?
จิม อาวาด ผู้จัดการฝ่ายบริหารอาวุโสของ Clearstead Advisors มองว่า บัฟเฟตต์อาจรู้สึกว่า เศรษฐกิจกำลังจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นการเพิ่มเงินสดในตอนนี้ จะทำให้เขาสามารถซื้อบริษัทในราคาถูกได้ในภายหลัง เขาอาจได้กลิ่นโอกาสที่จะมาถึง
ทั้งนี้จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีคำถามมากยิ่งขึ้นต่อภาวะซอฟท์ แลนดิ้ง ว่าจะเกิดได้จริงหรือไม่ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ออกมาล่าสุดสัปดาห์ก่อน การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 114,000 ตำแหน่งต่อเดือน ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 175,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 4.3% สูงกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 4.1% ทำให้เฟดอาจลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่ ก.ย ขณะที่บางสำนัก มองถึงขั้นที่ว่าจะลดแรงในเดือนกันยายนถึงร้อยละ 0.5 ด้วยซ้ำ
ทีนี้ลองมาดูการตัดสินใจขายหุ้นของบัฟเฟตต์ ในหุ้นขนาดใหญ่ครั้งที่ผ่านมา อย่าง BYD
เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ได้เข้าลงทุนใน BYD เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปี 2008 ด้วยเงินราว 230 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท จำนวน 225 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของหุ้น BYD ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ เริ่มขายหุ้นของ BYD เป็นครั้งแรกในช่วงปี 2022 หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาราว 20 เท่า จากการลงทุนในครั้งแรก จนปัจจุบันนี้ถือครองหุ้นเหลือไม่ถึง 5 % และราคาปัจจุบันราคาหุ้นของ BYD เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 234.78 หยวน ก็ปรับตัวลงมาราว 34% จากจุดสูงสุดที่ 358.86 หยวน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2022 ท่ามกลางการแข่งขันหั่นราคารถยนต์ EV ที่ดุเดือด และการหั่นราคา
หรือจะเป็นเคสของ TSMC ที่เขาจัดการขายหุ้นออกเกลี้ยงพอร์ต ในปีก่อน เพราะกังวลต่อผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างจีน สหรัฐ และไต้หวัน
ซึ่งแม้ว่าหลังจากที่เขาขายราคาจะยังคงเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม แต่ก็สะท้อนปรัชญาการตัดสินใจของเขาได้เป็นอย่างดี ดังที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า
“กฎข้อแรกของการลงทุนคือ อย่าขาดทุนส่วนกฎข้อที่สอง คือ อย่าลืมกฎข้อแรก”
ครั้งนี้ก็เช่นกัน…
บทความโดย ฐิติกร ทิพย์มณเฑียร