ปี 2025 กำลังจะมาถึง ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวน หลังจากเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของธนาคารกลางทั่วโลก Invesco บริษัทจัดการลงทุน ได้เผยแพร่มุมมอง การลงทุนปี 2025 โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงในระยะสั้น ก่อนจะกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2025 ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่ดี แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
เศรษฐกิจโลก: ชะลอตัว ก่อนจะฟื้นตัว
- การเติบโตทางเศรษฐกิจ: Invesco คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงสู่ระดับศักยภาพในช่วงปลายปี 2024 และต้นปี 2025 ก่อนจะกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2025 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก หลังจากประสบความสำเร็จในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
- สหรัฐอเมริกา: แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่คาดว่าจะกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2025 จากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและภาวะการเงินที่ผ่อนคลาย
- ยุโรปและสหราชอาณาจักร: การเติบโตทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในปี 2025 จากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางและการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริงในระดับปานกลาง
- ญี่ปุ่น: การเติบโตของค่าจ้างและการปรับนโยบายของญี่ปุ่นอาจเป็นจุดเด่น แต่ค่าเงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกของญี่ปุ่น
- จีน: คาดว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของจีนจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในประเทศ
- ตลาดเกิดใหม่: จะได้รับประโยชน์จากรอบการลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดพัฒนาแล้ว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง และการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
โอกาสในการลงทุน
- ตราสารทุน:
- Risk-on: Invesco คาดการณ์ว่าตลาดตราสารทุนทั่วโลกจะอยู่ในสภาวะ Risk-on โดยเฉพาะในตลาดพัฒนาแล้วนอกสหรัฐฯ หุ้นขนาดเล็ก และหุ้น Value ในสหรัฐฯ
- ยุโรปน่าสนใจกว่าสหรัฐฯ: สินทรัพย์ในยุโรปมีแนวโน้มเติบโตดีกว่าสหรัฐฯ เนื่องจากการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจและการให้น้ำหนักกลุ่ม Cyclical Sector ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- หุ้น Value และหุ้นขนาดเล็ก: การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง น่าจะส่งผลดีต่อหุ้น Value และหุ้นขนาดเล็ก
- ตราสารหนี้:
- Duration: Duration ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความอ่อนไหวของราคาตราสารหนี้ต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวหรือลดลง
- อัตราผลตอบแทน: อัตราผลตอบแทนในปัจจุบันดูน่าสนใจ แต่ส่วนต่าง (Spread) ซึ่งเป็นส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าและตราสารหนี้รัฐบาล ไม่น่าจะแคบลงมากนัก
- Investment Grade Credit และ High Yield Bond: Invesco มีมุมมองบวกต่อ Investment Grade Credit ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง และ High Yield Bond ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
- เงินดอลลาร์สหรัฐฯ/ค่าเงิน:
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า: ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง แต่อัตราการเติบโตที่แตกต่างกันระหว่างสหรัฐฯ และประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ยังคงสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจจำกัด downside ของเงินดอลลาร์
- ตลาดเกิดใหม่:
- ผลตอบแทนที่ดี: สินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในปี 2025 จากรอบการลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดพัฒนาแล้วส่วนใหญ่และการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- อสังหาริมทรัพย์:
- การลดอัตราดอกเบี้ย: การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางส่งผลบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์
- ต้นทุนหนี้: คาดว่าต้นทุนหนี้ของอสังหาริมทรัพย์จะลดลง และจะช่วยฟื้นฟูกิจกรรมการทำธุรกรรมและผลักดันราคาอสังหาริมทรัพย์ให้สูงขึ้น
- สินทรัพย์ทางเลือก:
- Private Debt และ Hedged Strategies: Invesco ชื่นชอบ Private Debt ซึ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ Hedged Strategies ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อลดความเสี่ยง มากกว่า Private Equity ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากปัจจุบันชอบสินทรัพย์ที่ไม่ต้องพึ่งพา Leverage หรือการกู้ยืมเงิน ในการสร้างผลตอบแทน
ปัจจัยเสี่ยง การลงทุนปี 2025
- นโยบาย:
- รัฐบาลสหรัฐฯ: ความไม่แน่นอนของนโยบายจากรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ นำโดยโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าและการเข้าเมือง
- จีน:
- การกระตุ้นเศรษฐกิจ: การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรืออาจทำให้เกิดปัญหาใหม่ๆ เช่น หนี้สินที่เพิ่มขึ้น
- เงินเฟ้อ:
- เงินเฟ้ออาจกลับมา: แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง แต่ก็มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้ออาจกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง หากเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
- การคลัง:
- แรงกดดันทางการคลัง: แรงกดดันทางการคลัง เช่น การขาดดุลงบประมาณ อาจทำให้รัฐบาลต้องปรับลดงบประมาณ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
มุมมองตลาดในภูมิภาคเอเชีย
- หุ้นเอเชีย:
- อุปสงค์ในประเทศ: คาดว่าอุปสงค์ในประเทศในภูมิภาคจะแข็งแกร่งขึ้น
- การค้าภายในภูมิภาค: การค้าภายในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน จะช่วยเพิ่มการส่งออกและการบริโภค
- มูลค่า: ตลาดหุ้นเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) ซื้อขายในระดับ Forward P/E ที่ 13.1x ซึ่งดูน่าสนใจ
- หุ้นจีน:
- มูลค่า: หุ้นจีนมีมูลค่าที่น่าสนใจ ซื้อขายในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตและตลาดพัฒนาแล้วอื่นๆ
- อุปสงค์ในประเทศ: คาดว่าอุปสงค์ในประเทศจะฟื้นตัวในปี 2025
- ตราสารหนี้เอเชีย:
- Asia IG Credit Spread: Asia IG Credit Spread ค่อนข้างแคบ แต่คาดว่าจะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีในปี 2025
- Asia HY Bond: Invesco ชื่นชอบผู้ออกตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BB-rated
- Asia EM Sovereign Bond: ซื้อขายในระดับราคาที่แพง โดยเฉพาะ Investment Grade Bond
- Asia EM Local Currency Bond: Invesco มองบวกต่อ Asia EM Local Currency Bond ซึ่งเป็นตราสารหนี้รัฐบาลของประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ที่ออกในสกุลเงินท้องถิ่น
สรุป
Invesco คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวในระยะสั้น ก่อนจะกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2025 ซึ่งจะเอื้อต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะในตลาดพัฒนาแล้วนอกสหรัฐฯ หุ้นขนาดเล็ก และหุ้น Value ในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ความไม่แน่นอนของนโยบาย ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และแรงกดดันทางการคลัง ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุน
คำแนะนำ: บทความนี้เป็นเพียงมุมมองของ Invesco นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
#InvestmentOutlook #2025 #Invesco #เศรษฐกิจโลก #การลงทุน #หุ้น #ตราสารหนี้ #ตลาดเกิดใหม่ #อสังหาริมทรัพย์ #สินทรัพย์ทางเลือก
–ทองคำ ปี 2025 จะพุ่งไปถึง 3,000 ดอลลาร์? เจาะลึกปัจจัยและการลงทุน