ทรู คอร์ปอเรชั่น (True) ประกาศแผนการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 5 ชุด มูลค่ารวมหลายพันล้านบาท โดยมีจุดเด่นอยู่ที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง 3.00 – 3.95% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน พร้อมอันดับเครดิต “A+” จากทริสเรทติ้ง สะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงิน เตรียมเปิดให้จองซื้อ 2 และ 6-7 พฤษภาคม 2568 ผ่าน 7 สถาบันการเงินชั้นนำ
ผลตอบแทนโดดเด่น ท่ามกลางดอกเบี้ยขาลง
ท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยขาลงที่ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% และมีแนวโน้มปรับลดลงอีกในช่วงกลางปี 2568 การออกหุ้นกู้ของทรูฯ ในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่ต้องการล็อคผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจ โดยหุ้นกู้ทั้ง 5 ชุด มีรายละเอียดดังนี้:
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.00 – 3.15]% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.30 – 3.45]% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.45 – 3.60]% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.65 – 3.80]% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.80 – 3.95]% ต่อปี
โดยหุ้นกู้ชุดที่ 5 มีเงื่อนไขพิเศษคือ ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดได้ตั้งแต่หุ้นกู้ครบปีที่ 5 เป็นต้นไป
ทรูฯ มั่นใจพื้นฐานแกร่ง พร้อมเดินหน้าเติบโต
ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัทฯ หลังการควบรวมกิจการกับดีแทคครบ 2 ปี ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย) 1.66 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% มี EBITDA 9.81 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% และมีกำไรสุทธิ (ภายหลังการปรับปรุง) 9.9 พันล้านบาท
นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างผู้บริหารครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง 3 ตำแหน่ง ได้แก่ Group CEO, President/CEO – Enterprise & Data Business และ President/CEO – Consumer Business จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
อันดับเครดิต A+ การันตีความน่าเชื่อถือ
ทริสเรทติ้ง บริษัทจัดอันดับเครดิตชั้นนำของประเทศไทย ได้จัดอันดับเครดิตของบริษัทฯ และหุ้นกู้ชุดใหม่ที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ โครงข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ชุดคลื่นความถี่ที่แข็งแกร่ง และแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคย
นักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อหุ้นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 2 และ 6-7 พฤษภาคม 2568 ผ่าน 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่:
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02 888 8888 กด 869 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 777 6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 626 7777 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน แอป CIMB Thai
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 285 1555
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02 680 4004
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02 165 5555 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปฯ Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th
- หรือสอบถามรายละเอียดที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 7 แห่ง และ TrueMoney Wallet
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ
–“ทรัมป์” คัมแบ็กป่วนโลก! การเงินธนาคาร จัดสัมมนาเจาะลึกโอกาสลงทุนปี 68 รับมือความผันผวน