บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศวิสัยทัศน์ภายหลังความสำเร็จของการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring) โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุด (ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565) ของบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้แก่ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลถือหุ้นอยู่ที่ 59.5% และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต ถือหุ้นอยู่ที่ 40.5%
ปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ครองส่วนแบ่งทางการตลาดกองทุนรวมร้อยละ 7 และมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ (AUM) อยู่ที่ 342,390 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565) และติดอันดับ 6 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสุทธิ (AUM) ของกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) โดยรวมกว่า 106,950 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565) รั้งอันดับ 3 ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในไทย (ที่มา: Morningstar)
และมีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์เฉลี่ย 12.5% ต่อปี เทียบกับการเติบโตของอุตสาหกรรมเฉลี่ยที่ 5.2% ต่อปี ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น อีสท์สปริงยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ครอบคลุมและหลากหลาย ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ กว่า 54,389 ล้านบาท และอัตราการเติบโตสูงถึง 18% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (เทียบกับอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ 10%) (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2565)
–ดร.กอบศักดิ์ คาดเศรษฐกิจไทยเผชิญภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤตยาว 2 ปี กนง.จ่อขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 0.75%
–YLG ชี้ทองแกว่งตัวเพิ่มโอกาสเก็งกำไรนักลงทุนตบเท้าเปิดพอร์ตออนไลน์พุ่ง 60%
อดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ การเติบโต และความแข็งแกร่งของเรา วันนี้เราพร้อมแล้วกับการส่งมอบประสบการณ์การลงทุนที่มีคุณภาพแก่นักลงทุนชาวไทย ภายใต้แบรนด์ใหม่อย่าง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ผ่านกลยุทธ์สามเสาหลักที่จะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจจากทีมงานคุณภาพของเรา เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายความมุ่งมั่นของแบรนด์ Eastspring Investments ที่จะดูแลการลงทุนเพื่ออนาคต”
ชูกลยุทธ์ 3 เสาหลัก เดินหน้าสู่ตัวเลือกในการลงทุนอันดับต้นของคนไทย
Global Access with Asia Focus – ปัจจุบันการลงทุนในต่างประเทศถือเป็นแนวโน้มการลงทุนสำคัญที่ผู้ลงทุนชาวไทยไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีและมีตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลายกว่า จากข้อมูลของบลูมเบิร์กระหว่างปี 2558 – 2564 พบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจากการลงทุนต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 11.5 ต่อปี เทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยซึ่งอยู่ที่เพียงร้อยละ 4.7 ต่อปี (ที่มา: บลูมเบิร์ก)
ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการออกกองทุนต่างประเทศที่มีความครอบคลุมและหลากหลาย ยิ่งเมื่อผนึกกำลังกับ Eastspring Investments ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในระดับสากล ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มมุมมองทางเลือกในการคัดสรรกองทุนจากหลากหลายประเภทสินทรัพย์เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้สร้างผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้น
Investment Advisory & Market Insights – บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อว่าการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือ Asset Allocation เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพตลาดและภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ยิ่งทำให้การกระจายการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ
จึงได้ร่วมมือกับอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ สิงคโปร์ ที่เชี่ยวชาญการบริหารพอร์ตการลงทุน Multi-asset ในสินทรัพย์ทั่วโลก และมีระบบที่ช่วยจัดพอร์ตการลงทุนและการตัดสินใจลงทุน โดยมีแผนที่จะร่วมกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนใน Multi-asset ที่จะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ยังได้ร่วมกับทีเอ็มบีธนชาต ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุน ทีทีบี สมาร์ท พอร์ต (ttb smart port ) พอร์ตการลงทุนสำเร็จรูปที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยประกอบด้วย 5 พอร์ตการลงทุนสำเร็จรูป ที่ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้เองตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม
โดยจากการเปิดขายครั้งแรกเมื่อเดือน มิถุนายน 2564 สามารถระดมทุนได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ผ่านมา 1 ปีมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวม 22,936 ล้านบาท (ข้อมูล เดือน มิถุนายน 2565) (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย)) ซึ่งคาดว่ากองทุน ทีทีบี สมาร์ท พอร์ต (ttb smart port) จะเป็นกองทุนหลักอีกหนึ่งกองทุนของบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ในอนาคต
Holistic Health & Wealth – ด้วยการที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อมั่นว่าการผสานกันระหว่างแนวคิดความมั่งคั่งที่มาพร้อมความมั่นคงจะต่อยอดความสำเร็จในโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
ณ ปัจจุบัน ทางบริษัทมีประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) ที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนผ่านพรูเด็นเชียลทั้งหมด 16 กองทุน นอกจากนี้ยังร่วมมือกันเพื่อยกระดับการบริการด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกด้วย ด้วยความเชื่อมั่นว่า สุขภาพกายและสุขภาพการเงินเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกัน
“บริษัทพร้อมที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือกองทุนที่มีคุณภาพและหลากหลายให้นักลงทุนชาวไทยได้เลือกสรร ทั้งกองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ ผ่านทางช่องทางการขายของทีเอ็มบีธนชาต และตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนอีกกว่า 55 แห่ง ทั้งที่เป็นธนาคาร บริษัทประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน รวมถึงทีมขายของบริษัท”