กรมทางหลวงชนบท ทบทวนมาตรการรับมืออุทกภัย พร้อมเตรียมเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด

นายกฤชเทพ สิมลี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ จะเป็นการเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน จึงได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบำรุงทางหลวงชนบทในสังกัด ดำเนินการทำความสะอาดช่องทางระบายน้ำ ตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ ที่อาจล้มทับกีดขวางเส้นทางจราจร รวมทั้งกำจัดวัชพืชที่กีดขวางทางระบายน้ำ ท่อลอด สะพาน ตลอดจนให้ทบทวนแนวทางมาตรการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ดังนี้

1. ก่อนเกิดเหตุ
ให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ สะพานเบลีย์ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดภัย รวมทั้งจัดเตรียมป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนกรณีมีน้ำท่วมสูง ถนนขาด/สะพานขาดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และจัดชุดลาดตระเวนสำรวจตรวจตราในสายทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย

2. ขณะเกิดภัย
ให้ทุกหน่วยบริหารจัดการเส้นทาง อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หรือจัดหาทางเลี่ยง กรณีเส้นทางหลักไม่สามารถสัญจรผ่านได้ พร้อมติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงให้ประชาชนรับทราบ เมื่อกรณีถนน/สะพานขาด จะต้องดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อให้ใช้เส้นทางได้อย่างรวดเร็ว เช่น วางสะพานเบลีย์ ถมดินคอสะพาน เพื่อเชื่อมทาง สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือช่วยเหลือและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมตามนโยบาย One Transport ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้ง บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในการบริจาคสิ่งของ ตลอดจนจัดรถบรรทุก 6 ล้อ สำหรับบริการประชาชนอีกด้วย

3. หลังน้ำลด
หากเส้นทางเกิดชำรุดเสียหายจะเข้าดำเนินการซ่อมแซมชั่วคราวให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ ภายใน 7 วัน
และจะดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา เพื่อเสนอขอสนับสนุนงบประมาณฟื้นฟู ให้ถนนเข้าสู่สภาพปกติ ตลอดจนบูรณาการกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบท ขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนและโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำหรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท ในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ

Scroll to Top