กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 2/50 ณ สปป.ลาว คืบหน้าหลายประเด็น อาทิ การเชื่อมต่อระบบการแลกเปลี่ยนเอกสารนำเข้า/ส่งออกสินค้าระหว่างอาเซียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การจัดทำความตกลงยอมรับร่วม (MRA) ผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน การเตรียมแรงงานและบุคลากรอาเซียนรับมือ 4IR รวมถึงการเพิ่มบทบาทเชิงรุกของอาเซียนในการปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมเตรียมรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ ที่จังหวัดภูเก็ต
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM : ซีออม) ครั้งที่ 2/50 ซึ่งได้เป็นประธานการประชุมระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2562 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ว่ามีความคืบหน้าในหลายประเด็น โดยประเด็นหลักๆ ประกอบด้วย
– การเชื่อมต่อระบบการแลกเปลี่ยนเอกสารนำเข้า/ส่งออกสินค้าระหว่างอาเซียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ASEAN Single Window : ASW) ซึ่งขณะนี้ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ได้เชื่อมต่อระบบดังกล่าวแล้ว ขณะที่บรูไน กัมพูชา และฟิลิปปินส์ อยู่ระหว่างทดสอบระบบ ส่วนเมียนมา และ สปป.ลาว อยู่ระหว่างพัฒนาระบบ ซึ่งได้แจ้งว่าจะดำเนินการเชื่อมต่อระบบกับอาเซียนอื่นให้เสร็จภายในปีนี้ โดยในเดือนเมษายนนี้ สปป.ลาว จะเปิดตัวระบบ National Single Window อย่างเป็นทางการ และในเดือนมิถุนายน 2562 เมียนมาจะเริ่มเชื่อมต่อและทดสอบระบบกับประเทศในอาเซียน
– การจัดทำความตกลงยอมรับร่วม (MRA) ผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน (ASEAN MRA on Type Approval for Automotive Products) ซึ่งเป็นประเด็นที่ค้างมานาน โดยอาเซียนได้ตกลงที่จะจำกัดขอบเขตของสินค้าผลิตภัณฑ์ยานยนต์ในความตกลงดังกล่าว ให้ครอบคลุมเฉพาะผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ผลิตภายในอาเซียนเท่านั้น ทั้งนี้ ได้ยอมรับให้ทบทวนเรื่องนี้ในปีที่ 4 หลังจากความตกลงมีผลใช้บังคับ ว่าจะมีการขยายขอบเขตไปถึงผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ผลิตนอกอาเซียนหรือไม่ โดยมอบให้คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านมาตรฐานคุณภาพของอาเซียนและคณะทำงานด้านผลิตภัณฑ์และยานยนต์จัดทำถ้อยคำทางกฎหมายที่จะปรากฏในเอกสารความตกลงตามแนวทางที่อาเซียนสรุปกันต่อไป และตั้งเป้าให้มีการลงนามในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 51 ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายน 2562 ที่ประเทศไทย
– การรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 (4IR) เพื่อรับมือการเข้ามามีบทบาทในกระบวนการผลิตสินค้าและบริการของระบบออโตเมชั่น หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จะร่วมกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนกำหนดจัดสัมมนาเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หรือ “AHEAD” (ASEAN Human Empowering And Development) ในวันที่ 21 มิถุนายน 2562 ที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนของอาเซียนมาร่วมหารือ โดยผลการหารือจะใช้ประกอบการยกร่างคู่มือการเตรียมทรัพยากรมนุษย์รับมือ 4IR เพื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในเดือนกันยายนนี้
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังเห็นว่า อาเซียนควรมีบทบาทเชิงรุกในการหารือในเวทีองค์การการค้าโลก เรื่องการปฏิรูป WTO โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ที่กลไกการระงับข้อพิพาททางการค้าของ WTO ใกล้จะหยุดชะงัก ซึ่งหากการหารือที่นครเจนีวาเพื่อปฏิรูปการทำงานของ WTO และแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไม่คืบหน้า จะส่งผลกระทบต่อระบบการค้าพหุภาคีที่ช่วยกำกับดูแลการค้าโลกในปัจจุบัน ดังนั้น จึงขอให้อาเซียนหารือในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหากเรื่องใดที่อาเซียนสามารถมีท่าทีหรือจัดทำเอกสารข้อเสนอร่วมกันได้ ก็ให้ผู้แทนของอาเซียนที่นครเจนีวาร่วมกันแสดงบทบาทเชิงรุกของอาเซียนในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนปี 2561 มีมูลค่าการค้ารวม 113,934 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 13 โดยไทยส่งออกไปอาเซียนในปี 2561 มูลค่า 68,437 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 45,497 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเกินดุล 22,940 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันการส่งออกของไทยไปอาเซียน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย