ฟินโนมีนา แนะนักลงทุนทยอยเก็บหุ้นขาลง ไม่ควรกอดเงินสดทั้งหมดแม้ตลาดผันผวน

ฟินโนมีนา แนะนักลงทุนทยอยเก็บหุ้นขาลง ไม่ควรกอดเงินสดทั้งหมดแม้ตลาดผันผวน

ในช่วงที่ตลาดทุนต่างๆ ผันผวนอย่างมาก ทั้งจากปัจจัยเงินเฟ้อ เศรษฐกิจตกต่ำ รวมถึงภาวะสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนไม่เชื่อมั่นในการลงทุน บางส่วนโยกเงินลงทุนไปในสินทรัพย์อื่นๆ ขณะที่บางรายเลือกถอนการลงทุนออกมาเป็นเงินสดเก็บไว้ในบัญชี เพราะยังไม่รู้ว่าทิศทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด

กสิณ สุธรรมนัส CEO & Co-Founder บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ได้ให้มุมมองของการเลือกลงทุนในช่วงตลาดผันผวนว่า “สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในการลงทุน และเลือกจะถือเงินสดเอาไว้ ส่วนตัวแนะนำว่าควรถือไว้มากที่สุดแค่ครึ่งเดียว ไม่แนะนำให้ถือเงินสดไปหมด 100% ถึงแม้ว่าตลาดจะอยู่ในขาลงและราคาตกไปเยอะมาก แต่หลังวิกฤติผ่านไปจะพบว่าตลาดทุนนั้นสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนได้

FINNOMENA เผยอินไซต์คนรุ่นใหม่สนใจลงทุน เตรียมส่ง “Guru Port ลงทุนตามกูรูชั้นนำ” เพิ่มทางเลือกรับมือตลาดผันผวน
SCB WEALTH ยกทัพ ADVISORY TEAM ดูแลความมั่งคั่งให้ลูกค้าในทุกจังหวะการลงทุน

สำหรับการลงทุน กสิณ แนะให้นักลงทุนเลือกลงทุนเป็นไม้ๆ โดยใช้เงินลงทุนแค่ 1 ใน 3 ของพอร์ต และให้ติดตามข่าวอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังแนะให้รอฟังการประกาศงบไตรมาสที่ 3 ของบริษัทต่างๆ ในเดือนพฤศจิกายน ถ้าผลประกอบการออกมาดี ก็สามารถเข้าลงทุนเพิ่มในช่วงนั้นได้

จัดสัดส่วนการลงทุนอย่างไร?

ปัจจุบันรูปแบบการลงทุนจะเน้นเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น เมื่อเทียบกับในยุคก่อนที่เน้นการลงทุนตามเทรนด์ขาขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่นักลงทุนในยุคนี้ควรทำคือการคัดหุ้นหรือกองทุนที่จะทำให้พอร์ตปลอดภัย

กสิณ แนะว่า เราเป็นคนไทยที่มีสินทรัพย์อยู่ในประเทศไทย มีความมั่งคั่งอยู่ในรูปแบบเงินบาท เพราะฉะนั้นควรจะลงทุนสินทรัพย์ในไทยส่วนหนึ่ง ประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุน

ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้นไทย จะต้องเลือกดีๆ เพราะถ้าดูภาพรวมจะพบว่าประเทศไทยสูญเสียการแข่งขันไปในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านนวัตกรรมที่ประเทศไทยไม่มี เพราะฉะนั้นการแข่งขันในระดับประเทศในระยะยาวจะน่าเป็นห่วง

สำหรับหุ้นต่างประเทศ กสิณ แนะนำให้เลือกลงทุนในประเทศเวียดนาม

ด้านตราสารหนี้ (Bond) ในช่วงนี้ซื้อได้ และไม่มีสัดส่วนตายตัวว่าควรจะลงทุนกี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต สิ่งที่น่าสนใจคือตอนนี้ตราสารหนี้กำลังเป็นขาขึ้น เพราะฉะนั้นการลงทุนจะเป็นในลักษณะ Selective หรือการเลือกกระจายการลงทุนไปหลายๆ ตัว

สำหรับสิ่งที่ต้องระวัง คือ เรื่องเครดิต เพราะถ้าตราสารหนี้ตัวนั้นคุณภาพไม่ดี ถึงแม้ว่าผลตอบแทนจะสูง ก็ไม่แนะนำให้ซื้อ ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนไม่ได้เห็นตราสารหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 5-6% มานานมาก จะเห็นว่าราคามันล่อใจ ก็ต้องระวัง โดยเฉพาะตราสารหนี้ในยุโรปค่อนข้างน่ากลัว เพราะประเทศเหล่านี้พึ่งพาแก๊สธรรมชาติจากรัสเซียค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังนี้ กสิณ คาดว่าจะได้เห็นการเปิดกองทุนที่ไปลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น

สำหรับทองคำและน้ำมัน มองว่าเป็นสินทรัพย์มีจังหวะการลงทุน โดยเฉพาะน้ำมันที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ จะต้องดู Demand และ Supply ซึ่งถ้าตอนนี้รัสเซียกับยูเครนเลิกรบกันราคาน้ำมันจะลงแน่นอน ถ้ามองในมุมคนขายน้ำมันอย่างรัสเซีย และ OPEC ก็คงไม่อยากให้ราคาน้ำมันลง เพราะกำลังขายได้ราคาดี

เมื่อถามว่าควรจะลงทุนน้ำมันอยู่ในพอร์ทหรือไม่ กสิณ แนะนำว่าไม่ควรลงทุน เพราะมันเป็นการลงทุนระยะสั้นและมีความเสี่ยงสูงมาก

กสิณ ยังให้คำแนะนำในตอนท้ายว่า “วันนี้คนพูดถึงเทรนด์ EV กันมาก ทุกคนแห่เข้าไปลงทุน ตรงนี้จะมีความน่ากลัว คนที่เข้ามาลงทุนในเทรนด์ที่กำลังเติบโตจะต้องระวังให้ดี ส่วนตัวเป็นคนชอบลงทุนในเทรนด์ที่คนอื่นไม่ลงกัน เช่นหุ้นเทคโนโลยีที่ราคาลงมามาก กลับน่าลงทุนมากกว่า”

Scroll to Top