“รติวัฒน์ สุวรรณไตรย์” เดินหน้าดันอสังหาฯ ไทยสู่ระดับโลกด้วย “ดีไซน์” และ “เทคโนโลยี”

“รติวัฒน์ สุวรรณไตรย์” เดินหน้าดันอสังหาฯ ไทยสู่ระดับโลกด้วย “ดีไซน์” และ “เทคโนโลยี”

จากความหลงใหลในการทำงานออกแบบ ต้องการเปลี่ยนคุณภาพชีวิตที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น จนตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมพื้นที่ส่วนมากไม่มีการพัฒนาการออกแบบที่อยู่อาศัย จนวันที่มีประสบการณ์มากขึ้น ได้รู้จักคนเก่งๆ ในวงการออกแบบมากขึ้น นำความรู้มาแบ่งปันกัน และเห็นว่าสิ่งที่คิดมันมีทางเป็นไปได้ จึงรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนตั้งบริษัท Time and Space Asset และเริ่มโปรเจกต์แรกในชื่อโครงการ “Sol Residence” ที่ “สาทร-เย็นอากาศ, สุขุมวิท 26, อารีย์” โดยชูจุดเด่นด้านดีไซน์การอกแบบที่มีความเป็น “Iconic Residence”

“คนต้องการที่อยู่อาศัยที่ดีเสมอมา ซึ่งวิกฤติโควิด-19 ใน 2 ปีที่ผ่านมาช่วยผลักดันให้คนรู้ตัวชัดขึ้น และกล้าลงทุนกับการอยู่อาศัยที่ดีมากขึ้น” รติวัฒน์ สุวรรณไตรย์ Co-Founder และ Head of Architecture บริษัท ไทม์ แอนด์ สเปซ แอซเซท จำกัด กล่าวกับ Biztalk

รติวัฒน์ มองว่า วัฒนธรรมการทำงานในอนาคตอาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คนอาจจะเลิกเข้าออฟฟิศ เพราะสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ ก็จะลงทุนกับบ้านที่เป็นที่อยู่อาศัยมากขึ้น และการที่คนทำงานจากที่ใดก็ได้ในโลกก็ได้ มีความเป็นไปได้ว่า ผู้บริหารจากต่างประเทศจะเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองไทย เพราะชอบเมืองไทย ชอบอาหารไทย

ในอดีตคนต่างชาติเข้ามาอยู่กันเป็นจำนวนมาก แต่คนกลุ่มนี้ทำงานอยู่ในประเทศไทย ถ้าเทรนด์ในอนาคตเปลี่ยนไปเป็นการทำงานออนไลน์เต็มตัว เข้ามาทำงานผ่านออนไลน์จากประเทศไทย ก็จะสามารถทำพื้นที่รองรับคนกลุ่มนี้ และสนับสนุนให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์รวมแห่งการทำงานข้ามประเทศได้

ดันไทยเป็นเมืองออกแบบที่อยู่อาศัยระดับโลก

รติวัฒน์ มองว่า ประเทศไทยมีมุมที่ดีสำหรับการอยู่อาศัย หากเพิ่มการออกแบบที่ดีเข้าไปด้วยจะทำให้คนใช้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น เมื่อมีคนเห็นและทำตาม ออกแบบบ้านให้ดี ประเทศไทยก็จะเป็นที่รู้จักในความโดดเด่นด้านดีไซน์ และคนต่างชาติก็จะอยากนำเงินเข้ามาลงทุน อยากย้ายที่อยู่เข้ามาในประเทศไทย

นอกจากนี้ รติวัฒน์ ยังอยากเห็นผู้พัฒนาอสังหาฯรายอื่นเข้ามาช่วยกันพัฒนาด้านดีไซน์มากขึ้น เข้ามาแชร์ความรู้และพัฒนาทุกอย่างไปด้วยกัน เป็นคอมมูนิตี้ของการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

“เราเชื่อว่าไม่นานนี้โครงการของเราจะเป็นที่สนใจในระดับโลก เพราะเรามีความตั้งใจ และจะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า เป็นต้นแบบให้คนทำตาม เพราะตลาดยังมีความต้องการอยู่อีกมาก”

ซึ่งการออกแบบในแต่ละโครงการของ Time and Space Asset จะทำเพียงครั้งเดียวและไม่ทำซ้ำเดิมอีก และในแต่ละโครงการจะมีการเก็บข้อมูลทางดีไซน์ และประวัติการได้รับรางวัลต่างๆ อีกด้วย

“เราทำงานในด้านของดีไซเนอร์ และ ดีเวลลอปเปอร์ เราเคยตั้งคำถามว่าเวลาเราออกแบบบ้านให้คนอื่น ทำไมเราไม่ลงทุนกับการให้คนเข้ามาเก็บข้อมูลทางดีไซน์ของบ้าน ที่ส่งมอบไปว่า บ้านหลังนี้ได้รับรางวัลอะไรมาบ้าง ซึ่งผมตัดสินใจว่าเราจะทำสิ่งนี้ด้วยตัวเอง”

ดึงงานออกแบบ เข้าสู่ Metaverse

Metaverse ถึงแม้จะเป็นแพลตฟอร์มในโลกที่จับต้องไม่ได้ แต่ก็มีประโยชน์ในการดึงความคิดสร้างสรรค์ของคนนำไปใส่เอาไว้

รติวัฒน์ กล่าวว่า ถึงแม้จะยังเห็นภาพไม่ชัด แต่ Time and Space Asset ตั้งใจว่าจะสร้างบ้านเสมือนจริง เหมือนกับบ้านที่ส่งมอบไปเข้าสู่โลก Metaverse และจะสร้างคอมมูนิตี้ของคนที่ซื้อบ้านไป ให้ลูกบ้านแต่ละคนสามารถเชื่อมโยงหากันได้ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้กัน ก็จะทำให้คนที่สนใจดีไซน์แบบเดียวกัน ใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันมาอยู่ในที่เดียวกัน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Metaverse เข้ามา Backup การออกแบบ เช่น เมื่อต้องการจะซ่อมแซมบ้าน ก็สามารถให้ช่างใส่แว่น VR  เข้าไปเดินในโลก Metaverse และสามารถชี้จุดที่จะซ่อมแซมได้

“มันยังมีอะไรสนุกๆ ที่เราคิดและวางแผนเอาไว้ ซึ่งเทคโนโลยีก็จะตามมาสนับสนุนเรา”

รติวัฒน์ สุวรรณไตรย์ กล่าวในตอนท้ายว่า “เราอยากให้องค์กรของเราเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด อยากทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในแง่ของการมีดีไซน์ที่ดี มีการต้อนรับที่ดี ถ้าเราใช้แบรนด์ของเราไปสร้างบ้านในต่างประเทศ เป็นตัวแทนของประเทศไทย และเป็นจุดขาย ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศไหนก็ตาม และประสบความสำเร็จ คนอื่นก็สามารถทำสิ่งเดียวกันและเติบโตไปพร้อมกับเราได้ หรือจะเข้ามาลงทุนร่วมกับเรา ทำให้เราแข็งแรงเติบโตไปด้วยกันได้ ซึ่งเราอยากเห็นโครงการของเราเติบโตในต่างประเทศ เป็นบริษัทระดับโลกที่เริ่มต้นจากประเทศไทย ส่งมอบดีไซน์และชีวิตที่ดี ส่งมอบความภูมิใจที่ได้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ดี ให้กับทุกคนในโลก”

Scroll to Top