สุดยอด 5 บริษัทเทคโนโลยีแดนมังกรที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
เสี่ยวหมี่ (Xiaomi)
.
ขอเริ่มต้นด้วยบริษัทจีนที่คนไทยคุ้มเคยยิ่งกว่าบริษัทใดๆ นั่นคือ “เสี่ยวหมี่” ที่หลายคนรู้จักจากมือถือ บางคนรู้จักจากเครื่องฟอกอากาศในยุคฝุ่น PM2.5 คลุมกรุงเทพ หลังๆก็ยิ่งเห็นชัดถึงสารพัดอุปกรณ์อัจฉริยะ
.
โดย เสี่ยวหมี่ เริ่มก่อตั้งในเดือนเมษายนปี 2010 มีพนักงาน 8 คน แต่ไม่ได้มาในฐานะผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์แบบที่เราเห็นกัน โดยเริ่มต้นจากซอฟต์แวร์ แล้วก็ไปแอปพลิเคชัน สู่ผลิตสมาร์ทโฟน จนติดลมบนทุกอย่างตั้งแต่ไม้แคะหูอัจฉริยะไปจนถึงรถยนต์ โดดเด่นสุดคือสมาร์ทโฟน เพราะ Mi ได้รับฉายาว่าเป็น “แอปเปิลแห่งแดนมังกร” และเหลน จุน ก็ได้ฉายา สตีฟจ็อบส์แห่งเอเชีย
.
ส่วนมูลค่าบริษัทของเสี่ยวหมี่มีการประเมินกันไว้ที่ 56,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเงินไทยราว 1.77 ล้านล้านบาท
เทนเซ็นต์ (Tencent)
.
ชื่อนี้ไม่ต้องพูดกันเยอะ! เพราะ Tencent Holdings Ltd. ถือเป็นบริษัทโฮลดิงส์ข้ามชาติที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2541 โดยในประเทศไทยเองก็เข้ามาเป็นเจ้าของแอปดังที่เราใช้กันอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็นสตรีมมิ่งมิวสิคอย่าง Joox เว็บไซต์ยอดฮิตอย่าง Sanook แอปดูหนังซีรีย์ยอดฮิต WeTV ไปจนถึงเกมขวัญใจมหาชน PubG Mobile และอีกเพียบ
.
แต่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะนอกจากเทนเซ็นต์ จะเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบริการด้านเนื้อหา เอนเตอร์เทนเมนต์แล้ว ก็ยังทำเรื่องของโซลูชันด้านเทคโนโลยีด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI)และคลาวด์ (Cloud) พร้อมเป็นผู้พัฒนาศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์ในประเทศไทยด้วย
.
สำหรับมูลค่าของบริษัท เทนเซ็นต์ ถูกประเมินกันไว้ว่าอยู่ที่ราว 534,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยก็ราว 16.82 ล้านล้านบาท
.
อาลีบาบา (Alibaba)
.
แจ็ค หม่า ชื่อนี้ใครๆก็รู้จัก เพราะเฮียหม่าเป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจในเครือ Alibaba Group Holding Ltd. แต่แจ็ค หม่า ไม่ได้บริหารโดนตรงแล้วนะ แกเปิดทางให้ซีอีโอมืออาชีพเข้ามาสานต่อแล้ว
.
เข้าเรื่องอาลีบาบากันต่อ บริษัทนี้เริ่มต้นเมื่อปี 1999 ด้วยพนักงานเพียง 18 คน จนาวันนี้ที่ก้าวขึ้นเป็นอีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติยักษ์ใหญ่ ที่จับธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก และยังถูกจัดเป็นบริษัทค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่โตที่สุดในโลก โดยแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าก็ไม่ได้มีแค่อาลีบาบาเท่านั้น เพราะยังมี Lazada / 1688 / TMALL และอื่นๆอีกเพียบ
.
แต่ธุรกิจในอาณาจักรอาลีบาบาก็ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะได้ขยายไปหลายธุรกิจ ว่าจะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ แพลตฟอร์มดิจิทัล Youku / UC News บริษัทภาพยนตร์ บริษัทเทคโนโลยี ไปจนถึงธุรกิจการเงิน การธนาคาร อย่าง แอนท์ กรุ๊ป ที่ยังเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพชื่อดังทั่วโลก
.
สำหรับมูลค่ของอาลีบาบา มีการประเมินไว้ที่ราว 481,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดีดลูกคิดเป็นไงไทยก็ราว 15.15ล้านล้านบาท
.
ไชน่า โมบาย (China Mobile)
.
ไชน่า โมบาย จัดเป็นบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลจีน ซึ่งมีธุรกิจหลัก คือ ให้บริการโทรคมนาคมครบวงจร เรียกว่าเป็นพี่ใหญ่สุดของอุตสาหกรรมของจีนเนื่องจากมีลูกค้ากว่า 925 ล้านคน เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมด 1,397 ล้านคน กินสัดส่วนกว่า 70% เลยทีเดียว
.
โดยไชน่า โมบาย มีจำนวนพนักงานกว่าในองค์กรกว่า 240,000 คน สำหรับธุรกิจที่เป็นหลักทรัพย์หลักๆ ของ ไชน่า โมบาย นั้นมีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน คือ China Mobile Ltd. กับ China Mobile Communications Group Co.,Ltd. แถมยังเป็นผู้นำด้าน 5G /ระบบ AI / Big Data / Cloud / IoT ของโลกอีกด้วย
.
สำหรับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 195,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยก็กรุบกริบประมาณ 6.16 ล้านล้านบาท
.
ไป่ตู้ (Baidu)
.
หากคุณมองว่ากูเกิ้ลยิ่งใหญ่ฉันใด ไป่ตู้ก็ยิ่งใหญ่ฉันนั้น คำนี้คงจะไม่ผิดนัก เพราะบริษัท Baidu Inc. ถูกก่อตั้งโดยนายโรบิน หลี่ ในปี 2000 ซึ่งถือเป็นบริษัทไอทียักษ์ใหญ่จากแดนมังกร ที่ให้บริการเกี่ยวกับเว็บค้นหา หรือ Search Engine ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของจีนดั่งกูเกิ้ลนั่นเอง
.
สำหรับควายิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ต้องบอกว่าเปิดมาเพียง 5 ปีหลังจากก่อตั้ง ก็สามารถพาบริษัททะยานเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐได้สำเร็จในชื่อ BIDU รวมถึงมีการขยายบริการไปยังธุรกิจการให้บริการซอฟ์แวร์ด้วย
.
ทั้งนี้ มูลค่าของไป่ตู้ มีการประเมินไว้ว่าอยู่ที่ประมาณ 59,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเงินไทยก็ราวๆ 1.88 ล้านล้านบาท
