ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ต่อยอดพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในเฟสที่สอง

ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ต่อยอดพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในเฟสที่สอง

บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเฟสที่สอง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเพิ่มประสิทธิผลและความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน รวมทั้งเสริมความร่วมมือของทีมงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยในเฟสที่สองที่ดำเนินการมาตลอดปี 2564 นี้ได้มีการติดตั้งระบบอัตโนมัติและการปรับปรุงการบริหารเพื่อพัฒนาระบบการทำงานให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเอื้อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง

การยกระดับระบบปฏิบัติการในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ (e-invoice) การคัดเลือกและประเมินซัพพลายเออร์อิเล็กทรอนิกส์ (e-supplier evaluation) และความรวดเร็วให้กับส่วนงานปฏิบัติการท่าเรือให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การพัฒนาระบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นนั้น ประกอบด้วย การติดตั้งระบบการปฏิบัติงานที่ควบคุมจากระยะไกลสำหรับปั้นจั่นยกตู้สินค้าที่ท่าเทียบเรือ D ในท่าเรือแหลมฉบัง การใช้รถบรรทุกระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และกระบวนการปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้การออกคำสั่งแบบอิเล็กทรอนิกส์บนแพลตฟอร์ม Global Shipping Business Network  นอกจากนี้ ยังรวมถึงการจัดส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่จดบันทึกด้วยระบบอาร์เอสไอดีแบบติดตั้งภายในรถบรรทุก (in-truck RFID) และบริการรับชำระบิลข้ามธนาคาร ที่ช่วยให้การชำระเงินเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

เยาวชนในภูมิภาคอาเซียนวิตกกังวลเรื่องการหางานมากขึ้น
การใช้ระบบ Automation จะช่วยประหยัดเวลาและเงินได้จริงหรือไม่

สตีเฟ้นท์ อาร์ชเวิรท กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทย และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญในการลงทุนเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่นี้ และเห็นได้ว่าผลที่ได้นั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ช่วยให้เราเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับลูกค้าและผู้ใช้บริการท่าเรือรายอื่น ๆ และเราจะเดินหน้าลงทุนพัฒนาระบบที่ทันสมัยต่อไปเพื่อยกระดับศักยภาพการดำเนินงานของเรา และสิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถขนถ่ายสินค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น อันถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก”

แพลตฟอร์มดิจิทัลของ Hutchison Ports Thailand Digital Platform หรือ HPTDP นับเป็นหนึ่งในระบบการทำงานที่ทันสมัยที่นำเข้ามาช่วยในการดำเนินงานของบริษัทไม่ว่าจะเป็นงานของฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายการเงิน ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล และฝ่ายกิจการองค์กร รวมถึงงานต่าง ๆ ในลานและหน้าท่า

ระบบแพลตฟอร์มยังเอื้อประโยชน์ในด้านสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ สามารถรถลดปริมาณการใช้กระดาษลงได้มากถึง 11% หรืออย่างการใช้ปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าและรถบรรทุกระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใช้พลังงานไฟฟ้ายังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงสิบเดือนแรกของปี 2564 ได้ถึง 12% เมื่อเทียบกับปริมาณการปล่อยก๊าซในปี 2563 ตลอดทั้งปี

ลูกค้าเองยังสามารถติดต่อประสานงานผ่านระบบดิจิทัลได้ไม่ว่าอยู่ที่ใด ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถตรวจสอบสถานะสินค้าหรือโอนชำระเงินได้อย่างสะดวกสบายผ่านสมาร์ทโฟน

“ในโลกดิจิทัลยุคใหม่ ความคาดหวังของลูกค้ากำลังเปลี่ยนไป และสิ่งสำคัญในฐานะของผู้นำในธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าคือเราต้องสามารถนำส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำตรงตามที่พวกเขาต้องการ เราเองมีการวางแผนเพื่อเพิ่มศักยภาพของเราให้ดียิ่งขึ้น โดยในปี 2565 นี้เรามีแผนที่จะนำระบบช่องทางผ่านเข้า-ออกท่าเทียบเรืออัตโนมัติ และใบผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้งานในเฟสแรก เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงเป็นระบบดิจิทัลในอนาคต ตลอดจนประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับกับการพัฒนานั้น ๆ” สตีเฟ้นท์ กล่าวเสริม

Scroll to Top