แสนสิริประกาศแผนคอนโดฯ ปี 65 เปิด 18 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 11,000 ลบ. ไฮไลท์ “เดอะ เบส” 5 โครงการใหม่ พร้อมสานต่อคอนโดฯ ราคาเข้าถึงง่าย วางเป้าระยะยาว 3 ปี เปิดคอนโดฯใหม่ มูลค่ารวม 70,000 ล้านบาท เป้ายอดขายคอนโดมิเนียมรวม 58,000 ล้านบาท
องอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริแข็งแกร่งจากความเชื่อมั่นของลูกค้าและการให้การตอบรับที่ดีในคอนโดมิเนียมในปีที่ผ่านมา จากการพัฒนาโปรดักส์ที่ตอบรับการมีบ้านได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่มโดยเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบรับ Real Demand และการเปิดตัวโครงการ Affordable Segment ราคาเข้าถึงง่าย
ไฮไลท์ความสำเร็จด้วยคอนโดมิเนียม 2 แบรนด์ใหม่ที่ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ได้แก่ “คอนโด มี” แบรนด์คอนโดราคาต่ำล้าน ที่ปิดการขายทันทีที่เปิดจองโครงการแรก “คอนโด มี นวนคร” และ “เดอะ มูฟ” แบรนด์คอนโดแนวคิดใหม่ ราคาล้านต้นของแสนสิริ และเป็นแบรนด์คอนโดไฮไลท์ในปีที่ผ่านมา จากการเปิดตัวไปถึง 5 โครงการ ที่ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้ง เดอะ มูฟ เกษตรและเดอะ มูฟ ราม 22 ที่ปิดการขายในทุกยูนิตที่เปิดขาย, เดอะ มูฟ ประดิพัทธิ์ ที่โอนจองสิทธิ์ได้ตามเป้าหมาย รวมทั้ง เดอะ มูฟ บางนาและเดอะ มูฟ บางแค ที่โกยยอดขายตามเป้าทุกรอบการขาย
นอกจากนี้แสนสิริยังประสบความสำเร็จจากไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ในซีรีส์ XT โครงการล่าสุด XT ห้วยขวาง ด้วยยอดขายและยอดโอนแล้ว 60% รวมถึงคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ภายใต้แนวคิด “Green Condominium” ทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียว “ห้าแยกลาดพร้าว” ด้วยยอดโอนกว่า 90% ของยอดขาย
–หัวเว่ยเผยเทคโนโลยี Super Device ก้าวกระโดดสู่ยุคใหม่แห่งการทำงานข้ามดีไวซ์
–Rabbit Digital Group รีแบรนด์สู่ “Rabbit’s Tale” เดินหน้ากลยุทธ์ Creativity X Technology” ตอบโจทย์ลูกค้า
และความสำเร็จของคอนโดมิเนียม “คาวะ เฮาส์” รีสอร์ทคอนโดริมน้ำกลางสุขุมวิท ที่ปิดยอดโอน 100% ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดขายรวมคอนโดมิเนียมในปีที่ผ่านมาถึง 11,100 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย และยอดโอนคอนโดมิเนียมรวม 14,200 ล้านบาท สูงกว่าเป้าประมาณ 10% จากเป้าโอนคอนโดมิเนียม 13,000 ล้านบาทที่วางไว้ จากการปิดการขายคอนโดมิเนียม 5 โครงการ อาทิ คาวะ เฮาส์, ดีคอนโด ริน เชียงใหม่, ดีคอนโด ธาร จรัญฯ, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 และเดอะ เบส ไฮท์ อุดรธานี
สำหรับแผนธุรกิจในการพัฒนาคอนโดมิเนียมในปี 2565 แสนสิริบริษัทวางแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่จำนวน 18 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท ครอบคลุมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 14 โครงการ และต่างจังหวัดอีก 4 โครงการ โดยไฮไลท์การพัฒนาคอนโดมิเนียมในปีนี้ แสนสิริจะสานต่อความสำเร็จของการพัฒนาคอนโดมิเนียมในระดับราคาเข้าถึงได้ เพื่อให้แสนสิริเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย ใน Affordable เซกเมนต์ สัดส่วน 60% โดยสานต่อความสำเร็จของคอนโดมิเนียมแบรนด์ Condo ME (คอนโด มี) ไฮไลท์ 5 โครงการใหม่ 5 ทำเลในปีนี้
รวมทั้งเปิดตัว เดอะ มูฟ อีก 2 โครงการใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวแบรนด์ ดีคอนโด ต่อเนื่อง และไฮไลท์รุกเปิดตัวแบรนด์ เดอะ เบส รวมทั้งต่อยอดความสำเร็จของ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ด้วยการเดินหน้าเปิดขาย เดอะ ไลน์ เดอะ ไลน์ ไวบ์ คอนโดมิเนียมใหม่ ใจกลางห้าแยกลาดพร้าว เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย เพียง 300 เมตรจาก BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว และ 700 เมตรจาก MRT พหลโยธิน ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท*
นอกจากนี้ในปี 2565 แสนสิริยังไฮไลท์การพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แนวคิด “YOU-Centric” ปลุกกระแสแบรนด์ “เดอะ เบส” ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “BASE ON YOU” “ให้คนรุ่นใหม่ได้ทำสิ่งชอบได้มากขึ้น ใช้ชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่งไปข้างหน้าได้มากกว่า และมีพื้นที่ที่ต่อยอดในทุกด้านของไลฟ์สไตล์ และใช้ชีวิตเต็มที่ในแบบของตัวเอง เดอะ เบส ทั้ง 5 โครงการใหม่จากแสนสิริได้ถูกออกแบบผ่านการสร้างพื้นที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Historical & Local Context ของแต่ละทำเล ผสมผสานให้ร่วมสมัย พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครันและปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้
โดยเตรียมเปิดตัวทั้ง 5 โครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพทั้งอยู่อาศัยและลงทุน มูลค่ารวม 7,230 ล้านบาท อาทิ เดอะ เบส ริเวอร์วิว, เดอะ เบส สุขุมวิท 71 โดยจะเปิดตัว “เดอะ เบส ไฮท์ – เชียงใหม่” คอนโดตึกสูงแห่งแรกจากแสนสิริในเชียงใหม่ เป็นโครงการการแรก โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งโครงการกลางเมืองเชียงใหม่ เพียง 3 นาทีจากเซ็นทรัล เฟสติวัล ราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 19 – 20 มีนาคมนี้
แสนสิริยังมองเห็นสัญญาณที่ดี ในตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยว ที่ยังมีดีมานต์ความต้องการในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง จากความสำเร็จจากการ Sold out ปิดการขายโครงการ “1517 NIMMAN” (1517 นิมมาน) เชียงใหม่ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา จึงมีแผนรุกตลาดต่างจังหวัดในปีนี้ ด้วยการเปิด Holiday Home คอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยว อาทิ หัวหิน เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ รวมทั้งรุกสร้างยอดขายและยอดโอนต่อเนื่องในคอนโดมิเนียมเอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีคใจกลางพัทยา ที่มียอดขายแล้ว 60% และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปีนี้ โดยจ่อคิวเปิดการขายคอนโดมิเนียม “เดอะ เบส ไฮท์ – เชียงใหม่” และ “HAY Hua Hin” ในไตรมาสแรก
“แสนสิริตั้งเป้าหมายยอดขายคอนโดมิเนียมในปีนี้ไว้ที่ 14,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 30% พร้อมวางเป้ายอดโอนคอนโดมิเนียมในปีนี้ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท นอกจากนี้แสนสิริยังมองถึงความแข็งแกร่งระยะยาวในช่วง 3 ปี ที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแผนการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่มูลค่ารวม 70,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายคอนโดมิเนียมรวม 58,000 ล้านบาท สอดคล้องแผนธุรกิจระยะยาวที่เคยประกาศไว้ โดยผลงานในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากแผนการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ รวมทั้งการเตรียมโอนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ถึง 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,300 ล้านบาท ได้แก่ คอนโด มี นวนคร ที่ปิดการขายและมียอดโอนแล้วกว่า 90%, คอนโดมี สมุทรสาคร, คอนโด มี บางพลี คอนโด มี อ่อนนุช และ XT พญาไท ที่มียอดขายแล้ว 50% นอกจากนี้ ล่าสุดแสนสิริยังได้เตรียมเปิดโอนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่โครงการแรกของปี “เดอะ เบส เพชรบุรี – ทองหล่อ” คอนโดพร้อมอยู่ 2 นาทีจากทองหล่อ ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท ที่มียอดขายแล้ว 60% อีกด้วย” องอาจ กล่าว