นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การสยายปีกขยายธุรกิจในเวลานี้ของแอร์เอเชียถือเป็นจังหวะที่ดีมาก เรามีพนักงานและฝูงบินที่พร้อมกลับมาให้บริการ อีกทั้งประเทศต่างๆ เริ่มมีนโยบายเปิดประเทศต่อเนื่อง เดินทางได้เเบบไม่ต้องกักตัว สอดคล้องกับมาตรการ Test&Go ขาเข้าของประเทศไทย ทำให้เราตัดสินใจเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศได้มากที่สุด ถึง 7 ประเทศ เชื่อมต่อสู่มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา อินเดีย และมัลดีฟส์ ตั้งเเต่เดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี หลังจากที่ทุกคนอัดอั้นในการเดินทางต่างประเทศมายาวนานกว่า 2 ปีจากสถานการณ์โควิด-19
“กลยุทธ์ในปี 2565 ของเราคือการขยายการเติบโตแบบต่อเนื่องมั่นคง เน้นคุณภาพเเละการสร้างโอกาสเป็นสำคัญ โดยจะค่อยๆ เพิ่มเส้นทางเเละความถี่เที่ยวบินตามความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้โดยสารผ่านคุณภาพบริการที่ดีที่สุด โดยเฉพาะมาตรฐานความปลอดภัย และความตรงต่อเวลา ที่เป็นจุดเด่นบริการของเรา หลังไทยแอร์เอเชียได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 สายการบินราคาประหยัดที่ตรงเวลาที่ดีที่สุดในโลกจาก Cirium ในต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา” นายสันติสุขกล่าว
สำหรับแผนการขยาย “เส้นทางบินภายในประเทศ” ไทยแอร์เอเชียตั้งเป้ากลับมาบินด้วยปริมาณที่นั่ง (Capacity) 100% เมื่อเทียบกับก่อนสถานการณ์โควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ “เส้นทางบินระหว่างประเทศ” มีแผนทยอยเปิดบินเพิ่มขึ้นเช่นกันหากประเทศใดมีนโยบายเปิดประเทศเเบบไม่ต้องกักตัว โดยคาดว่าจะสามารถกลับมาบินได้ ด้วยปริมาณที่นั่ง (Capacity) มากกว่า 60% ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งนี้ตลอดปี 2565 ไทยแอร์เอเชียตั้งเป้ามีอัตราขนส่งผู้โดยสาร 78% ความตรงต่อเวลาสูงกว่า 90% ให้บริการด้วยฝูงบิน 53 ลำ เพิ่มอัตราการใช้เครื่องบินต่อลำ เป็น 10.5 ชั่วโมงต่อวัน