กฟผ. ชูนวัตกรรมด้านพลังงานในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ในงาน Future Energy Asia 2018

กฟผ. โชว์นวัตกรรมพลังงานรองรับการผลิตไฟฟ้าในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศและรับมือกระแสพลังงานทดแทน ขานรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ในงาน Future Energy Asia 2018 ระหว่างวันที่ 12 – 14 ธันวาคม นี้ ณ ศูนย์การประชุมไบเทค กรุงเทพฯ

วันนี้ (12 ธันวาคม 2561) ดร. ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Future Energy Asia 2018 โดยมีผู้บริหารจากกระทรวงพลังงานและบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมพลังงานให้การต้อนรับ ในโอกาสนี้ นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมเป็นองค์ปาฐก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 14 ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคตจะมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป เนื่องจากการใช้พลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น (Electrification) การกระจายตัวออกของแหล่งพลังงาน (Decentralization) ทำให้มีแหล่งพลังงานทางเลือกกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ และการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล (Digitalization) ซึ่งเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมไฟฟ้า

กฟผ. ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคง เชื่อถือได้ ได้เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับนวัตกรรมพลังงานที่ทันทันสมัยและการเพิ่มขึ้นของพลังงานทดแทน สำหรับในปีนี้ กฟผ. ยังคงเดินหน้าลงทุนสร้างโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น พร้อมส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. อาทิ โครงการนำร่องพัฒนาสมาร์ทกริดแม่ฮ่องสอน การพัฒนาระบบแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้า การติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี รวมถึงแนวทางการรับมือพลังงานทดแทนที่จะเข้ามาในระบบไฟฟ้าของประเทศไทยในอนาคต เช่น การจัดตั้งศูนย์สั่งการการดำเนินการตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้า (Demand Response Control Center : DRCC) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้า

“กฟผ. มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมพลังงานด้วยเทคโนโลยที่ทันสมัย เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า เชื่อถือได้ มีราคาที่เหมาะสม เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งอุตสาหกรรมไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่บทบาทสำคุญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล”

ภายในงานนี้ กฟผ. ได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการในหัวข้อ “Be My Partner, Co – Create The Future” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวทางการก้าวสู่ธุรกิจการจัดหาเชื้อเพลิงของ กฟผ. โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนที่ 1 Exhibition Zone จัดแสดงเกี่ยวกับการพัฒนาของ กฟผ. สู่ธุรกิจพลังงาน อาทิ โครงการสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซแบบลอยน้ำ (FSRU) ที่ กฟผ. พร้อมเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติรายใหม่ของประเทศ การบริหารจัดการระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โซนที่ 2 Business Zone เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสในการหาพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างบริษัทชั้นนำต่าง ๆ กับ กฟผ. และบริษัทในเครือ และ โซนที่ 3 Talk Zone ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นในหัวข้อที่น่าสนใจตลอด 3 วัน อาทิ เปิดประสบการณ์ในฐานะผู้จัดหา LNG รายใหม่ของประเทศ การบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้า ระบบสมาร์ทกริดที่แม่ฮ่องสอน

สำหรับการจัดงาน Future Energy Asia 2018 ถือเป็นการรวมตัวของอุตสาหกรรมด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียเพื่อเป็นเวทีพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ด้านนวัตกรรม การพัฒนาด้านพลังงาน น้ำมันและก๊าซ พร้อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางพลังงานที่ยั่งยืนของเอเชี

Scroll to Top