นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก กฟผ. ขอส่งความห่วงใยและกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบภัยธรรมชาติในครั้งนี้ โดยในวันนี้ กฟผ. ได้เข้าพื้นที่นำถุงยังชีพ 1,000 ชุด และน้ำดื่ม 6,000 ขวด ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราชแล้ว พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ที่จำเป็น ประกอบด้วย เครื่องดูดโคลน (Screw Pump) จำนวน 1 เครื่อง เครื่องสูบน้ำดีเซล จำนวน 60 ตัว และเครื่องสูบน้ำชนิดจุ่มใต้น้ำ (Submerged Pump) จำนวน 16 ตัว เสริมทีมกู้ภัยเฉพาะกิจ กฟผ. ในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมทีมกู้วิกฤตระบบสื่อสาร เข้าประจำการ ณ กฟผ.สำนักงานบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุขัดข้องกับระบบสื่อสาร กฟผ. ด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนรัชชประภา และเขื่อนบางลาง ปัจจุบันปริมาณน้ำยังอยู่ในระดับการควบคุม โดยเขื่อนรัชชประภา มีปริมาณน้ำ คิดเป็นร้อยละ 83.22 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 945.95 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนบางลาง มีปริมาณน้ำ คิดเป็นร้อยละ 75.63 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 354.36 ล้านลูกบาศก์เมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ม.ค. 62 เวลา 14.00 น.) ปัจจุบันเขื่อนทั้งสองแห่ง ยังคงหยุดเดินเครื่อง เพื่อบรรเทาสถานการณ์ระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นบริเวณท้ายเขื่อน