กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เดินหน้าตามพันธกิจพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยด้วยการยกระดับมาตรฐานสินค้าส่งออกทั้งในระดับภูมิภาคและเวทีโลก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและตอบสนองความต้องการของประเทศคู่ค้า ตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันโดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-ก.ย.) ประเทศไทยสามารถส่งออกสินค้ามาตรฐานสำคัญทั้งข้าวหอมมะลิไทย แป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นมูลค่า 70,336 ล้านบาท ทั้งนี้สำหรับการส่งออกสินค้ามาตรฐาน “ข้าวหอมมะลิไทย” มีตลาดที่น่าสนใจ คือ สหภาพยุโรป เซเนกัล สหรัฐฯ แคนาดา จีน ฮ่องกง ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ซึ่งในภาพรวมมีการขยายตัวของการส่งออกร้อยละ 1.16 YoY
ส่วนแป้งมันสำปะหลังมีตลาดส่งออกสำคัญ คือ จีน อินโดนีเซีย ไต้หวัน มาเลเซีย และญี่ปุ่น นอกจากนี้ “จีน” ยังคงเป็นตลาดส่งออกมันสำปะหลังเจ้าสำคัญของไทย โดยในปี 2563 (ม.ค.-ก.ย.) มีอัตราการขยายตัวการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดจีนถึงร้อยละ 56 YoY ขณะที่ “ญี่ปุ่น” เป็นตลาดสำคัญในการส่งออกมันสำปะหลังอัดเม็ดของไทย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวถึงร้อยละ 13.31 YoY
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มสูงขึ้นแม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คือ ปรากฏการณ์ Panic Buying ของผู้บริโภคที่กักตุนอาหารไว้เพื่อให้เพียงพอกับการบริโภคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ที่เกิดขึ้น ประกอบกับเวียดนามที่เป็นคู่แข่งทางการค้าข้าวของไทยระงับการส่งออกข้าวเพื่อสต็อกข้าวให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถขยายการส่งออกข้าวหอมมะลิตามมาตรฐานคุณภาพ “ข้าวหอมมะลิไทย” ตอบสนองความต้องการของประเทศคู่ค้าได้มากขึ้น และจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ดีขึ้นในจีนส่งผลให้ภาคธุรกิจสามารถเดินเครื่องธุรกิจได้เป็นปกติ ซึ่งรวมถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิตแอลกอฮอล์จึงส่งผลให้จีนนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทยเพิ่มสูงขึ้นเพื่อทดแทนข้าวโพดที่ผลิตได้ในประเทศแต่มีราคาสูง เนื่องจากปริมาณสต็อกข้าวโพดในประเทศลดต่ำลง
เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพมาตรฐานให้กับสินค้าส่งออกจากภาคการเกษตรของไทยกรมการค้าต่างประเทศจึงได้มีการกำกับดูแลการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าให้ได้คุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดก่อนการส่งออกอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการค้าในปัจจุบันกรมการค้าต่างประเทศจึงมุ่งยกระดับการอำนวยความสะดวกและสร้างความเป็นธรรมทางการค้าให้กับผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจที่ดีในการส่งออกสินค้ามาตรฐานด้วยการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อเตรียมพร้อมยกระดับการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าสู่สากลภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล เหมาะสมกับยุค New Normal ในปัจจุบันตลอดจนการจัดทำมาตรฐานสินค้าภาคสมัครใจสำหรับสินค้า “ข้าวนุ่ม” เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการซื้อขายระหว่างผู้ส่งออก-ผู้นำเข้า รองรับความต้องการของตลาดสร้างความสามารถในการแข่งขันการส่งออกสินค้าข้าวของไทยอีกทางหนึ่ง
ผู้สนใจข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า และสินค้ามาตรฐานสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dft.go.th หัวข้อ บริการจากกรม หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1385 หรือสายตรง 0 2547 4747
ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ต่างๆ และหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบันก็คือ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ที่เกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2012 พวกเขาเติบโตมากับโลกดิจิทัล มีมุมมองที่แตกต่าง และให้ความสำคัญกับคุณค่าที่หลากหลาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึง Gen Z…
"ฟอร์ติเน็ต" เผยรายงานช่องว่างด้านทักษะไซเบอร์ ชี้ 92% ขององค์กรในไทยเผชิญภัยคุกคามจากปัญหาขาดแคลนบุคลากร แนะ 3 แนวทางรับมือ ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน สร้าง "กองทัพไซเบอร์" ปกป้องเศรษฐกิจดิจิทัล ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยรายงานช่องว่างด้านทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกประจำปี 2024…
FUJIFILM Business Innovation (Thailand) Co., Ltd., a leading provider of office solutions and innovative printing…
FUJIFILM Business Innovation ผู้ให้บริการโซลูชันสำนักงานและเครื่องพิมพ์ ประกาศทิศทางกลยุทธ์ไตรมาส 3 ปี 2024 ภายใต้แนวคิด "Make a Leap to the New…
Solar D เปิดตัว “หุ่นยนต์ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์” นวัตกรรมสุดล้ำ Light Speed ติดตั้งเร็วกว่าแรงงานคนถึง 10 เท่า! ชูจุดเด่นลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ หนุนเป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2569…
วันนี้ (26 พฤศจิกายน 2567) นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม…