ช่วงเช้าวันนี้ตัวแทนผู้ประกอบการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้เดินทางไปเข้ายืนหนังสือ ต่อนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อทวงถามความคืบหน้าการขอปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซองจาก 6 บาท เป็น 8 บาท
โดยบริษัทที่รวมตัวกันเดินทางเข้าไปในวันนี้ ได้แก่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) บริษัท โชคชัยพิบูล จำกัด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด บริษัท วันไทย อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด และ บริษัท นิสชินฟูดส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้นำหนังสือมายื่นในวันนี้
ขณะที่นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักอำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต “มาม่า” เป็นตัวแทนเข้ายื่น พร้อมบอกว่า การมาวันนี้เพื่อขอให้เร่งรัดพิจารณาการปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซอง เพื่อไม่ให้สินค้าขาดแคลนจนกระทบต่อผู้บริโภค เพราะทุกวันนี้ยิ่งขายยิ่งขาดทุนเนื่องจากปัจจุบันต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นแบบปรับฐาน ไม่ใช่ขึ้นแบบหวือหวา และไม่ใช่การขาดทุนกำไร ดังนั้นหากไม่ได้รับการอนุมัติ ก็พร้อมจะยื่นขอปรับราคาอีกครั้ง
ด้ายนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังรับหนังสือจาก 5 ตัวแทนผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อขอให้พิจารณาเร่งรัดการปรับขึ้นราคาบะหมี่ว่า ตนได้ติดตามต้นทุนวัตถุดิบการผลิตบะหมี่มาตลอด ยอมรับปัจจัยการผลิตหลายตัวมีการปรับขึ้นราคา แต่ผู้ผลิตก็ยังให้ความร่วมมือในการช่วยตรึงราคามาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 และยังไม่ได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยกรมจะติดตามดูแลราคาสินค้าในตลาดอย่างใกล้ชิด หากพบการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าขายแพงเกินจริง จะถูกดำเนินคดีมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท