กรมทางหลวงชี้แจงกรณีประชาชนร้องเรียนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวชี้แจงกรณีประชาชนร้องเรียนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก ตามที่ปรากฏในข่าวว่ามีตัวแทนภาคประชาชนจากจังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา จำนวนมากเดินทางไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สตง. ขอให้ตรวจสอบกรณีกรมทางหลวง มีแผนจะก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ รอบที่ 3 ฝั่งตะวันตก ในประเด็น

(1) โครงการดังกล่าว ซึ่งทางขึ้น-ลงอยู่ใจกลางหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ถนนบรมราชชนนี หมู่ที่ 1 ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม แต่ไม่เคยเปิดประชาพิจารณ์ และให้ข้อมูลกับประชาชนไม่ชัดเจน
(2) เส้นทางที่มอเตอร์เวย์ผ่านเป็นแหล่งชุมชนจำนวนมาก อาทิ โรงพยาบาล โรงงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย ทำให้ทุกภาคส่วนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
(3) ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปทบทวนรูปแบบการก่อสร้างใหม่ และขอให้กรมทางหลวง หามาตรการป้องกันแก้ไข และรองรับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
(4) ขอให้ สตง.ตรวจสอบการใช้งบประมาณว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ และหากโครงการนี้ไม่ยกเลิก หรือหาทางแก้ไขไม่ได้ ประชาชนก็จะรวมตัวกันคัดค้านแบบนี้ตลอดไป นั้นว่าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก (ระยะทาง 98 กม.) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (ระยะทาง 254 กม.) ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 โดยกรมทางหลวงได้เคยทำการศึกษาความเหมาะสมของโครงการแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2552 ปัจจุบัน เนื่องจากเมืองมีการเจริญเติบโตและขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 หรือ ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 2 เริ่มมีปัญหาการจราจรติดขัด กรมทางหลวงจึงได้ทำการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยมีการศึกษาทบทวนแนวเส้นทางและรูปแบบการก่อสร้างให้เหมาะสมกับสภาพในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเหมาะสมฯ ของโครงการ ผลการศึกษาเบื้องต้นระบุว่า โครงการฯ มีความคุ้มค่าในการลงทุน โดยมีค่า EIRR ประมาณ 15.8%

ในขั้นตอนของการศึกษาความเหมาะสมฯ ของโครงการ กรมทางหลวง ได้ร่วมกับที่ปรึกษาโครงการ จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามวิธีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมทั้งได้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 มาใช้ประกอบการพิจารณา และได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง (จากทั้งหมด 5 ครั้ง) โดยครั้งที่ 1 เป็นการปฐมนิเทศโครงการ มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 336 คน ครั้งที่ 2 เป็นการประชุมหารือแนวเส้นทางเลือกที่เหมาะสมของโครงการ มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 1,054 คน ครั้งที่ 3 เป็นการประชุมสรุปผลการศึกษาแนวเส้นทางและรูปแบบการพัฒนาโครงการ มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 892 คน และครั้งที่ 4 เป็นการประชุมหารือมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบของโครงการ ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยในแต่ละครั้งจะเชิญกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ อาทิเช่น กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน กลุ่มผู้นำชุมชนในพื้นที่ กลุ่มพื้นที่อ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมรับฟัง และให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการดำเนินโครงการ สำหรับการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งที่ 4 นั้น เนื่องจากการออกแบบเบื้องต้นมีแนวเส้นทางที่มีความชัดเจนแล้ว จึงมีการเชิญเจ้าของที่ดินแปลงที่อยู่ในแนวเวนคืนเบื้องต้นเข้าร่วมประชุมโดยตรงด้วย

ในส่วนของแนวเส้นทางที่มีการร้องเรียนว่าผ่านแหล่งชุมชมจำนวนมาก อาทิเช่น โรงพยาบาล โรงงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย ทำให้ทุกภาคส่วนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักนั้น ในขั้นตอนของการพิจารณากำหนดแนวเส้นทาง กรมทางหลวงและที่ปรึกษาได้พิจารณาหลีกเลี่ยงพื้นที่อ่อนไหวทางด้านสิ่งแวดล้อมบริเวณแนวเส้นทางโครงการ และได้ทำการคัดเลือกแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสมโดยใช้เกณฑ์การศึกษาทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยผลการคัดเลือกแนวเส้นทาง ไม่ผ่านโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด ส่วนกรณีโรงพยาบาลนั้น มีแนวเส้นทางผ่าน รพ. ศาลายาบริเวณที่จอดรถในระยะประชิด ซึ่งที่ปรึกษาได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับ รพ.ศาลายาแล้วเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา สำหรับกรณีผ่านโรงงานและชุมชุนนั้น ได้พิจารณาลดผลกระทบอย่างสูงสุดเพื่อให้แนวเส้นทางมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ทาง แต่เนื่องจากแนวเส้นทางมีความยาว 98 กม. บางตำแหน่งจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งในการดำเนินงาน กรมทางหลวงและที่ปรึกษาได้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และได้มีการกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามและตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทั้งในระหว่างการเตรียมการก่อสร้าง ระหว่างการก่อสร้าง และระยะดำเนินการแล้ว

ในส่วนของทางแยกต่างระดับที่เป็นทางเข้าออกโครงการฯ บริเวณหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ที่มีการร้องเรียนนั้น ที่ปรึกษาได้มีการพิจารณาเปรียบเทียบรูปแบบทางเลือกของทางแยกต่างระดับ 3 รูปแบบ โดยมีการให้คะแนนทั้งในด้านวิศวกรรมและจราจร ด้านการลงทุน และด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม และได้คัดเลือกรูปแบบที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ประชาชนหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ได้เข้ามายื่นข้อร้องเรียนที่กรมทางหลวง ซึ่งกรมทางหลวงได้รับทราบปัญหาแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาลดผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ และจะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องเรียนทราบภายในวันที่ 19 เมษายน 2562

อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวต่อไปอีกว่า กรมทางหลวงขอเรียนว่า การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษ มีความจำเป็น และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ เนื่องจากทางหลวงพิเศษ จะเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งหลักของประเทศ เป็นทางหลวงที่มีมาตรฐานสูง มีการควบคุมจุดเข้า-ออก ส่งผลให้ประชาชนสามารถใช้เดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ดำเนินโครงการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และได้พยายามลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด หากท่านต้องการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ หรือมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักแผนงาน กรมทางหลวง หรือ เว็บไซต์ http://www.ring3west.com

BizTalk NEWS

Recent Posts

vivo V50 เปิดตัวแล้ว มาพร้อมกล้อง ZEISS 50MP ในราคาเริ่มต้น 15,999 บาท

เปิดตัว vivo V50 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล V Series ที่มาพร้อมคอนเซปต์ "ถ่ายที่รักอย่างโปร" ชูจุดเด่นกล้อง ZEISS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลรอบด้าน อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI…

5 hours ago

LINE MAN เผยเทรนด์ “ชาไทย Specialty” แรงจัด! ยอดสั่งพุ่ง 81% ร้านใหม่ผุด 205%

กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…

8 hours ago

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

10 hours ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

10 hours ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

10 hours ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

10 hours ago