Categories: IndustrialNews Update

กรมโรงงานฯ เดินหน้าผลักดันโรงงานกำจัด-รีไซเคิลคุณภาพรองรับกากอุตสาหกรรม 30 ล้านตันต่อปี

กรมโรงงานอุตสาหกรรมคุมเข้มแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากโรงงานพร้อมทั้งผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาโรงงานกำจัด บำบัด และรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพให้เพียงในทุกภูมิภาค เน้นนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ และเข้มงวดกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิด

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรอ.มีแผนที่จะผลักดันส่งเสริมให้มีการจัดตั้งโรงงานที่รับกำจัด /บำบัด/รีไซเคิลกากอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับลักษณะกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นกว่า 30 ล้านตันต่อปี เน้นส่งเสริมให้มีการจัดการกากอุตสาหกรรมในพื้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น เนื่องจากปัจจุบันในบางพื้นที่มีโรงงานรับกำจัดหรือบำบัดไม่เพียงพอที่จะรองรับกากอุตสาหกรรมในพื้นที่นั้นๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องส่งกากอุตสาหกรรมไปกำจัดหรือบำบัดนอกพื้นที่ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูงมาก เช่น สัดส่วนโรงงานผู้ก่อกำเนิดต่อโรงงานผู้รับกำจัด/บำบัดในภาคเหนือ คือ 102 : 1 , ภาคใต้ 121 : 1 , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 101 : 1 ซึ่งต่างจากภาคตะวันออกที่มีสัดส่วน 12 : 1

“จากข้อมูลการกระจายตัวเชิงปริมาณของโรงงานรับกำจัด/บำบัดในแต่ละภูมิภาค ดังนั้นการส่งเสริมการจัดตั้งอุตสาหกรรมที่รับกำจัด/บำบัด/รีไซเคิลกากอุตสาหกรรม ต้องมีการนำข้อมูลเชิงคุณภาพมาประกอบการพิจารณา เพื่อส่งเสริมให้มีการจัดการกากอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับลักษณะกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ เช่น ภาคใต้ โรงงานส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร แปรรูปยางธรรมชาติ และอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ภาคตะวันออก โรงงานส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมหนัก และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งมีกากของเสียอันตรายในปริมาณค่อนข้างมาก เป็นต้น โดยต้องมีการนำเทคโนโลยีในการบริหารจัดการเข้ามาช่วยให้เกิดประสิทธิภาพด้วย” นายทองชัย กล่าว

ทั้งนี้ข้อมูลสิ้นเดือนมิ.ย.62 พบว่า มีโรงงานบำบัดน้ำเสียที่ได้รับอนุญาตรวม 133 ราย ส่วนใหญ่เป็นระบบบำบัดน้ำเสียของบริษัทในเครือ, โรงงานเผาร่วมในการผลิตปูนซิเมนต์/ปูนขาว 12 ราย, โรงงานเตาเผาขยะติดเชื้อ 5 ราย, โรงงานเตาเผาของเสียอันตราย 4 ราย, โรงงานเตาเผาของเสียไม่อันตราย 10 ราย, โรงงานคัดแยกของเสียไม่อันตราย 1,609 ราย, โรงงานฝังกลบของเสียไม่อันตราย 20 ราย, โรงงานฝังกลบของเสียอันตรายและไม่อันตราย 3 ราย และโรงงานรีไซเคิล 960 ราย โดยภาพรวมโรงงานดังกล่าวมีทั้งดำเนินกิจการ รวมถึงยังไม่แจ้งประกอบกิจการ และมีการหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว เป็นต้น

นายทองชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรอ.ยังให้ความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมและมีนโยบายที่เข้มงวดเพื่อให้โรงงานมีการจัดกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้อง และถูกกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประสานกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดให้เร่งรัดโรงงานเป้าหมายเข้าสู่ระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้อง 100%  ทั้งนี้ล่าสุดกรอ. สามารถผลักดันให้โรงงานที่เข้าระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องแล้วจำนวน 32,986 ราย จากโรงงานทั้งหมด 67,989 ราย หรือคิดเป็น 48.52% ของโรงงานทั้งหมด แบ่งเป็นโรงงานที่เข้าระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม 2,813 ราย หรือคิดเป็น 78.95% ของโรงงานที่อยู่ในนิคมฯ 3,563 ราย และโรงงานที่อยู่นอกนิคมฯที่เข้าระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมมีจำนวน 30,173 รายหรือคิดเป็น 46.83% ของโรงงานที่อยู่นอกนิคมฯ 64,426 ราย

ส่วนแนวทางในการคุมเข้มและตรวจสอบกากของเสียที่เกิดขึ้นจากโรงงานในประเทศนั้น ทางกรอ.มีกฎหมายที่ควบคุม และดูแลการจัดการของเสียที่เกิดขึ้นจากโรงงานในประเทศจากต้นทางไปถึงปลายทางอย่างเข้มงวด เช่นโรงงานที่จะนำของเสียออกไปกำจัด บำบัด หรือรีไซเคิลนอกโรงงาน ต้องขออนุญาตจากกรอ.ก่อน ส่วนโรงงานที่มีการกักเก็บของเสียไว้ภายในโรงงานเกิน 90 วัน ต้องขออนุญาตขยายระยะเวลากักเก็บของเสียไว้ภายในโรงงานเช่นกันแต่หากดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษตามมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท

“กรอ.ยังจัดโครงการยกระดับมาตรฐานการจัดการกากของเสียของโรงงานผู้รับกำจัด/บำบัด/รีไซเคิล เพื่อส่งเสริมให้โรงงานมีมาตรฐานการจัดการของเสียที่ดี พร้อมทั้งมีการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Auto E-License เข้ามาเชื่อมโยงกับระบบติดตามรถขนส่งของเสียอันตรายด้วยการติดจีพีเอส ซึ่งจะช่วยในการกำกับดูแลการขนส่งของเสียอันตรายแบบเรียลไทม์และมีการแจ้งเตือนหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่ง” นายทองชัย กล่าว

นอกจากนี้ยังได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานคัดแยกและรีไซเคิลซากผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้งบประมาณปี พ.ศ. 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้โรงงานที่ประกอบกิจการคัดแยก ถอดประกอบ บดย่อย และรีไซเคิลซากผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้มีศักยภาพในการประกอบกิจการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศ ให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ….

สำหรับการคาดการณ์ปริมาณกากขยะวัตถุอันตรายและของเสียอื่นๆ มีปริมาณ 30.94 ล้านตันต่อปี แบ่งเป็นกากอันตราย 1.74 ล้านตัน และไม่อันตราย 29.2 ล้านตัน โดยใน 9 เดือนของปีงบประมาณ 62 (ต.ค.61- มิ.ย. 62) มีปริมาณกากที่เข้าระบบแล้ว 13.184 ล้านตัน แบ่งเป็นกากอันตราย 925,000 ตัน และไม่อันตราย 12.259 ล้านตัน

BizTalk NEWS

Recent Posts

vivo V50 เปิดตัวแล้ว มาพร้อมกล้อง ZEISS 50MP ในราคาเริ่มต้น 15,999 บาท

เปิดตัว vivo V50 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล V Series ที่มาพร้อมคอนเซปต์ "ถ่ายที่รักอย่างโปร" ชูจุดเด่นกล้อง ZEISS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลรอบด้าน อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI…

5 hours ago

LINE MAN เผยเทรนด์ “ชาไทย Specialty” แรงจัด! ยอดสั่งพุ่ง 81% ร้านใหม่ผุด 205%

กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…

8 hours ago

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

10 hours ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

10 hours ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

10 hours ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

10 hours ago