“กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งเครื่องผลักดันขยายผลนวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิล ดึงเครือข่ายผู้ประกอบการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Circular Economy ด้วย Innovation และ New Business Model”
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมหารือร่วมระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับเครือข่ายผู้ประกอบการ เพื่อขับเคลื่อนสู่ Circular Economy ด้วย Innovation และ New Business Model ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยกล่าวว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างเป็นรูปธรรมด้วยนวัตกรรม (Innovation) และรูปแบบธุรกิจใหม่ (New Business Model) เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรของประเทศ โดยการเปลี่ยนขยะหรือของเสียที่ถูกมองว่าเป็นปัญหากลับมาใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบทดแทน เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ หรือ “Waste to Resource”
ตามแนวคิด Circular Economy ซึ่งปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลที่เป็นเทคโนโลยีต้นแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับการพิสูจน์ความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีรวม 49 ชนิด โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต (Industry Transformation Center: ITC) ด้านเทคโนโลยีรีไซเคิลและนวัตกรรมวัตถุดิบของกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ในส่วนของภาคเอกชน ยังมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสีย อีกหลายชนิด ซึ่งหากกระทรวงอุตสาหกรรมและเครือข่ายผู้ประกอบการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน และ ปลดล็อกข้อจำกัดทางกฎระเบียบที่เป็นปัญหาและอุปสรรค จะสามารถสร้างผู้ประกอบการใหม่ (Start-up) และยกระดับผู้ประกอบการ (Level-up) เดิม เพื่อขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ในวงกว้าง ร่วมกันเปลี่ยนขยะหรือของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ Circular Economy ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมหารือในวันนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเครือข่ายผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ประกอบการรวบรวมคัดแยกของเสีย ผู้ประกอบการรีไซเคิล ผู้ประกอบการกำจัดบำบัดของเสีย ไปจนถึงผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการนำของเสียไปใช้ประโยชน์ โดยทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องและมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ จากการหารือในครั้งนี้ สามารถระดมความเห็นแนวทางการผลักดันสู่ Circular Economy ด้วย Innovation และ News Business Model ได้หลายแนวทาง
ซึ่งจะก่อให้เกิดรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ (Start-up) การยกระดับผู้ประกอบการ (Level-up) อาทิ การให้บริการ Waste Pre-treatment ที่แหล่งกำเนิดของเสีย เพื่อให้ง่ายต่อกระบวนการรีไซเคิลในขั้นตอนต่อไป การให้บริการเช่า เช่น สารเคมีแทนการขายขาด โดยบริษัทผู้ผลิต/จำหน่ายเป็นผู้รับสารเคมีที่เหลือใช้และภาชนะที่บรรจุไป Reuse หรือ Recycle หรือจัดการตามหลักวิชาการต่อไป หรือการให้บริการเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตหรือรีไซเคิล ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน การออกแบบหรือปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงกระบวนการบำบัดของเสีย เพื่อเอื้อต่อการนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด การนำของเสียที่มีศักยภาพสูงในการีไซเคิล เช่น โลหะมีค่า ที่อยู่ในหลุมฝังกลบที่มีอยู่เดิมกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เป็นต้น
“ความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม โดย กพร. กับเครือข่ายผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถ เร่งดำเนินการได้อย่างทันที คือ การต่อยอดและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่ทั้งของ กพร. และเครือข่ายผู้ประกอบการ โดยเน้นการใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถรีไซเคิลขยะหรือของเสีย ประเภทอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ผมเชื่อว่าตอนนี้มุมมองเราได้เปลี่ยนไปแล้ว คือ เราต้องเพิ่มมูลค่าทรัพย์บนดิน สินในเมืองที่เป็นวัตถุดิบ ที่อยู่ในรูปขยะหรือของเสีย ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองหลักขับเคลื่อนสู่ Zero Waste Society และ Circular Economy” นายวิษณุ กล่าวทิ้งท้าย
ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โทรศัพท์ 0 2202 3897 วันนี้ พร้อมให้บริการแก่ภาคอุตสาหกรรมแล้ว
ออเนอร์ (HONOR) ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ HONOR X7c และ HONOR 200 Smart 5G โดยชูจุดเด่นด้านความแข็งแกร่งทนทาน ภายใต้คอนเซ็ปต์…
เจแอลแอล ประเทศไทย (JLL) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ฉลองครบรอบ 35 ปี แห่งการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เจแอลแอลได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของโครงการอสังหาฯ รูปแบบการใช้งานเดียว…
AIS คว้ารางวัล Creative Equality Award ประเภท Social Impact Awards จากเวที Creative Excellence Awards 2024 โดยรางวัลนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จของโครงการ…
ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance Center: AIGC) ภายใต้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) จัดงานเสวนาออนไลน์ AI Governance Webinar 2024…
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับศิลปินและชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ผลงานคราฟต์ต้นคริสต์มาสที่ผสานเสน่ห์ของ 2 วัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก ถ่ายทอดผ่าน ต้นคริสต์มาส Local Pride ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละภูมิภาคในประเทศไทย ผลงานเหล่านี้ถูกนำเสนออย่างงดงามในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Place for All” ที่มุ่งยกระดับให้พื้นที่ศูนย์การค้าเป็นเดสติเนชั่นที่เชื่อมโยงเมือง ผู้คนในชุมชน และศิลปินท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาผลงานศิลปะที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อัตลักษณ์ไทยให้โดดเด่น นำเสนอสู่สายตาของคนทั่วประเทศและทั่วโลก ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่…
ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ต่างๆ และหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบันก็คือ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ที่เกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2012 พวกเขาเติบโตมากับโลกดิจิทัล มีมุมมองที่แตกต่าง และให้ความสำคัญกับคุณค่าที่หลากหลาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึง Gen Z…