กสทช. พบมิจฉาชีพเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงโดยใช้การโทรศัพท์แทนการส่ง SMS

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า หลังจากที่สำนักงาน กสทช. ร่วมกับโอเปอเรเตอร์ทุกราย ได้แก่ AIS TRUE DTAC NT และ 3BB ร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา SMS หลอกลวง โดยตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช. ได้ให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายทำการบล็อก SMS ที่มีเนื้อหาชัดเจนว่าเป็นการ หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจาร ทันที นั้น จากการติดตามสถานการณ์ของสำนักงาน กสทช. พบว่า ปัญหาเรื่อง SMS หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจาร ลดลง แต่พวกมิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีการจากการใช้ SMS เป็นการโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของประชาชนเพื่อหลอกลวงโดยตรง โดยเนื้อหาข้อความที่มิจฉาชีพใช้เป็นข้อความ เช่น อ้างว่าโทรมาจากหน่วยงานภาครัฐ บอกว่าประชาชนที่รับสายได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล 2,000 บาท แล้วขอข้อมูลของประชาชนเพื่อประกอบการรับเงินช่วยเหลือ หรือรัฐบาลประเมินแล้วคุณมีสิทธิได้รับเงินกู้ 200,000 บาท หรือโทรชวนเล่นพนัน เป็นต้น สำนักงาน กสทช. ขอให้ประชาชนอย่าหลงกลมิจฉาชีพพวกนี้ และให้ข้อมูลส่วนตัวไปจนอาจทำให้สูญเสียทรัพย์

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการที่มิจฉาชีพเปลี่ยนมาใช้วิธีการโทรศัพท์เพื่อหลอกลวงประชาชนโดยตรงนั้นเป็น ทำให้สำนักงานฯ กับโอเปอเรเตอร์ทุกราย สามารถตรวจสอบการกระทำความผิดได้ชัดเจนเนื่องจากเบอร์โทรศัพท์มือถือที่มิจฉาชีพใช้สามารถตรวจสอบจากการลงทะเบียนได้ว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์นั้น ถือเป็นหลักฐานที่ระบุต้นทางที่มา สำนักงานฯ จึงใคร่ขอความร่วมมือจากประชาชนที่มีโทรศัพท์หลอกลวงเข้ามา ให้โทรแจ้ง ร้องเรียนมาที่ Call Center ของสำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 (โทรฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) หรือโทรแจ้ง Call Center ของค่ายมือถือที่ท่านใช้อยู่ หากมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงของมิจฉาชีพที่โทรเข้ามาหลอกลวงยิ่งเป็นการดี ทำให้สำนักงาน กสทช. สามารถดำเนินการตามกฎหมาย และประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพเหล่านั้นได้

สำหรับปัญหา SMS หลอกลวง สำนักงาน กสทช. กับโอเปอเรเตอร์ทุกรายยังคงดำเนินการตามแนวทางที่ได้แจ้งไว้กับประชาชนก่อนหน้านี้ โดยให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายทำการบล็อก SMS ที่มีเนื้อหาชัดเจนว่าเป็นการ หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจาร ทันที และให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายเร่งตรวจสอบและกำกับดูแลกันเองอย่างเคร่งครัด ให้มีการแชร์ข้อมูล SMS หลอกลวงระหว่างกัน และกำหนดเป็น Blacklist เพื่อให้ทุกค่ายดำเนินการบล็อก SMS ดังกล่าวจากผู้ส่งรายเดียวกันได้ ซึ่งแนวทางการดำเนินการดังกล่าวนับว่าได้ผล เห็นได้จากการที่มิจฉาชีพเปลี่ยนวิธีการโดยการใช้วิธีการโทรศัพท์เพื่อหลอกลวงประชาชนโดยตรง

“สำนักงาน กสทช. ขอให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อ กดลิงค์ที่มากับ SMS ที่มีข้อความหลอกลวง อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลสำคัญ ไปกับใครง่ายๆ ขอให้ตรวจสอบที่มาของ SMS หรือต้นสายของโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาหลอกลวงอ้างว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ ก่อน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวของท่านไปใช้ ทำให้สูญเสียทรัพย์” นายไตรรัตน์ กล่าว

Related Posts

Scroll to Top