กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยหรือ Thailand Future Fund (TFFIF) นำหน่วยลงทุนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 31 ต.ค. ชูศักยภาพทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งเป็นทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่ TFFIF เข้าลงทุนครั้งแรกในส่วนแบ่งรายได้จากค่าผ่านทาง โดยทางพิเศษทั้ง 2 สายทางมีรายได้จากค่าผ่านทางและปริมาณการจราจรในช่วง 3 ปีงบประมาณย้อนหลัง (2558 – 2560) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยหนุนโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี พร้อมประมาณการอัตราการปันส่วนแบ่งให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในปีแรก เท่ากับร้อยละ 4.75(1)
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนบริษัทจัดการ เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยหรือ TFFIF นำหน่วยลงทุนเข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 31 ตุลาคม โดยใช้ชื่อย่อ ‘TFFIF’ ในการซื้อขายบนกระดานหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการเข้าลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่มีโอกาสได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ หลังจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยต่างให้การตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงที่เปิดจองซื้อหน่วยลงทุนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ TFFIF จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยเข้าลงทุนครั้งแรกในสิทธิในการรับส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิ(2) ที่จัดเก็บได้จากทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถี ระยะทางรวม 83.2 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 30 ปีนับจากวันโอนสิทธิตามสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ (Revenue Transfer Agreement หรือ RTA) นอกจากนี้ ทางพิเศษทั้ง 2 สายทางดังกล่าว มีแนวโน้มจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆ อาทิ ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ที่ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ทางพิเศษในการเดินทาง ปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขยายโครงข่ายทางพิเศษและทางเชื่อมต่อในอนาคต ตลอดจนนโยบายการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงการเติบโตของที่อยู่อาศัยในพื้นที่แถบชานเมืองและพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ที่จะส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน
ตัวแทนบริษัทจัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนมีกำไรสะสมเพียงพอ และโดยรวมแล้วในแต่ละรอบปีบัญชีจะจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว โดยนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีจากเงินปันผลที่ได้รับจากกองทุนเป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี รวมถึงมีโอกาสที่ TFFIF จะเติบโตจากการเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของภาครัฐในอนาคต
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะตัวแทนภาครัฐ เปิดเผยว่า การจัดตั้ง TFFIF ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนให้แก่หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศ โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณแผ่นดินหรือเงินกู้ยืมที่มีรัฐบาลค้ำประกัน
ทั้งนี้ หลังจาก TFFIF เข้าลงทุนครั้งแรกในส่วนแบ่งรายได้ของทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถีแล้ว ในอนาคตกองทุนยังมีโอกาสเข้าลงทุนเพิ่มเติมในกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพของหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนากิจการโครงสร้างพื้นฐาน โดยก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการนำทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (สายกรุงเทพมหานคร – บ้านฉาง) และหมายเลข 9 (สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร) ซึ่งเป็นทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงที่มีการจัดเก็บรายได้จากค่าผ่านทาง เข้าระดมทุนเพิ่มเติมผ่าน TFFIF ในอนาคต
ดร.สุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินที่กองทุน TFFIF เข้าลงทุนครั้งแรก กล่าวว่า กทพ.ยังคงเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถีตามปกติ โดยจะจัดให้มีตู้เก็บค่าผ่านทางแบบเงินสดและตู้เก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทางพิเศษได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกในการใช้บริการและลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง
ส่วนเงินที่ได้รับจากการโอนสิทธิในรายได้ของทางพิเศษดังกล่าว กทพ. คาดว่าจะนำไปใช้ลงทุนพัฒนาทางพิเศษ 2 สายทาง ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกและส่วนต่อขยายทดแทนตอน N1 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ กทพ. ที่มุ่งมั่นพัฒนาทางพิเศษ เพื่อให้บริการที่ดี มีความคุ้มค่า สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การเสนอขายหน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุนในครั้งนี้ของ TFFIF มีจำนวนหน่วยลงทุนเสนอขายสุดท้ายเท่ากับ 4,470 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายหน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุนทั้งหมดเท่ากับ 44,700 ล้านบาท (ประมาณการอัตราการปันส่วนแบ่งให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในปีแรก เท่ากับร้อยละ 4.75(1)) นับเป็นการเสนอขายที่มีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2561
วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรม Cold Chain Logistics หรือการจัดการขนส่งและจัดเก็บสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิ กำลังกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุคในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั่วโลก ด้วยมูลค่าตลาดที่คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 1,122 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033 พร้อมอัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้นต่อปี…
ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมผู้บริโภคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด แบรนด์เครื่องประดับเพชรอย่าง Jubilee Diamond กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการปรับตัวเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่นี้ ด้วยสินค้าที่มีราคาสูงและภาพลักษณ์ที่เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีฐานะ Jubilee จึงต้องพลิกกลยุทธ์เพื่อเข้าถึง Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต…
เคซีจี คอร์ปอเรชั่น หรือ KCG จับมือ กรุงเทพมหานคร เปิดตัวโครงการ "จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2" อย่างเป็นทางการ ต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา โครงการนี้มุ่งเน้นการเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อยในแวดวงอาหารและเบเกอรี่ ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในยุคโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ และร่วมกันขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน…
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 20 (20th NSTDA Annual Conference: NAC2025)…
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เตรียมจัดงาน Thailand Digital IP Forum 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด Cracking IP Challenges in the…
ไปรษณีย์ไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบริการขนส่ง พัฒนาบริการใหม่ล่าสุด "EMS ส่งด่วนผลไม้" ราคาเริ่มต้น 60 บาท เอาใจคนรักผลไม้และผู้ประกอบการที่ต้องการส่งผลไม้สดใหม่ถึงมือผู้รับทั่วประเทศอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด…