การ์ทเนอร์ เผยสามแนวโน้มเทคโนโลยีที่ได้รับแรงหนุนสำคัญจากบริการธนาคารและการลงทุนในปี 2565 ประกอบด้วย เทคโนโลยี Generative Artificial Intelligence (AI), Automatic Systems และ Privacy-Enhancing Computation ซึ่งเทคโนโลยีทั้งสามกลุ่มนี้จะยังเติบโตต่อเนื่องในสองหรือสามปีจากนี้ โดยมีส่วนสนับสนุนการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงขององค์กรธุรกิจที่ให้บริการทางการเงิน
มูตูซี เซา รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ขณะที่การเติบโตมีความสำคัญสูงสุดต่อธุรกิจ ความจำเป็นในการจัดการความเสี่ยง การเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและการดำเนินงานต่างต้องการนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ Generative AI ช่วยให้ผู้บริหารไอทีของธนาคารสามารถนำเสนอเทคโนโลยีโซลูชั่นให้กับธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตได้ ขณะที่ Autonomic Systems และ Privacy-Enhancing Computation จะเป็นโซลูชันดำเนินการระยะยาวที่นำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในด้านบริการทางการเงิน”
การ์ทเนอร์คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของธุรกิจธนาคารและการลงทุนทั่วโลกในปี 2565 จะเติบโตขึ้น 6.1% หรือคิดเป็น 623 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหมวดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุดคือ บริการด้านไอที ประกอบไปด้วย บริการให้คำปรึกษาและบริการด้านการจัดการ คิดเป็น 42% ของมูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมดในหมวดนี้อยู่ที่ 264 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับหมวดที่เติบโตเร็วที่สุดคือซอฟต์แวร์ ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 11.5% หรือประมาณ 149 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
–LINE จัดงาน NFT for Business: The Future of Marketing with LINE CREATORS ชวนนักการตลาดไทยเกาะติดเทรนด์โลก เจาะลึกการทำการตลาดด้วย NFT
–หัวเว่ย เผย 5 เทรนด์ ตอบโจทย์เศรษฐกิจดิจิทัล และความเป็นกลางทางคาร์บอนไปพร้อมกัน
เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่การ์ทเนอร์คาดว่ามูลค่าใช้จ่ายไอทีของธุรกิจธนาคารและการลงทุนในปี 2565 จะเติบโต 6.5% หรือ 82.2 พันล้านบาท โดยหมวดที่มีมูลค่าการใช้จ่ายมากที่สุด คือ “บริการด้านไอที” ที่ประกอบด้วย บริการให้คำปรึกษาและบริการด้านการจัดการ และหมวดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดคือ ซอฟต์แวร์ คาดว่าจะเติบโตขึ้น 14% หรือ 13.5 พันล้านบาท
เทรนด์เทคโนโลยีเกิดใหม่สามกลุ่มที่การ์ทเนอร์ระบุมีส่วนช่วยธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายในการดำเนินการ สร้างการเติบโต และเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และแสดงให้เห็นกรณีตัวอย่างการใช้งานในอุตสาหกรรมการธนาคารและการลงทุน ได้แก่
เทรนด์ที่ 1: Generative AI
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า 20% ของข้อมูลทดสอบจากการใช้งานของผู้บริโภคจะถูกสังเคราะห์ขึ้นภายในปี 2568 ทั้งนี้ Generative AI จะเรียนรู้การเป็นตัวแทนดิจิทัลของสิ่งประดิษฐ์จากข้อมูลและสร้างนวัตกรรมที่คล้ายกับต้นฉบับแต่จะไม่ทำซ้ำ
ในส่วนบริการด้านการธนาคารและการลงทุน จะพบแอปพลิเคชันของเทคโนโลยี Deep Learning แบบ Generative Adversarial Networks – GAN และการสร้างภาษาธรรมชาติ (Natural Language Generation – NLG) เป็นส่วนใหญ่ได้ในสถานการณ์การตรวจจับการฉ้อโกง การคาดการณ์การซื้อขาย การสร้างข้อมูลแบบสังเคราะห์ และการสร้างแบบจำลองปัจจัยเสี่ยง ซึ่ง Generative AI มีศักยภาพเนื่องจากความสามารถปรับเปลี่ยนในแบบเฉพาะบุคคลไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
เทรนด์ที่ 2: ระบบอัตโนมัติ (Autonomic Systems)
ระบบอัตโนมัติเป็นระบบที่จัดการได้ทั้งแบบกายภาพหรือจากซอฟต์แวร์ ซึ่งเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมและปรับเปลี่ยนอัลกอริธึมของมันเองได้แบบไดนามิกแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้พฤติกรรมของระบบในสภาวะระบบนิเวศที่ซับซ้อน ระบบอัตโนมัติจะสร้างชุดความสามารถทางเทคโนโลยีที่คล่องตัวสนับสนุนความต้องการและสถานการณ์ใหม่ ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและป้องกันการโจมตีโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์
ปัจจุบันระบบอัตโนมัติส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในรูปแบบซอฟต์แวร์ในบริบทของธุรกิจธนาคาร อย่างไรก็ตามก็มีหุ่นยนต์แบบฮิวแมนนอยด์ในสาขาธนาคารอัจฉริยะซึ่งเป็นตัวอย่างของระบบอัตโนมัติที่ทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการแก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการ สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้ในการจัดการหนี้แบบอัตโนมัติ เป็นผู้ช่วยด้านการเงินส่วนบุคคลและการให้กู้ยืมอัตโนมัติ Roboadvisors จัดเป็นระบบอัตโนมัติระดับพื้นฐานแม้ว่ายังมีความกังวลเรื่องความน่าเชื่อถืออยู่ในความเป็นระบบอัตโนมัติในระดับสูง
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าภายในปี 2567 20% ขององค์กรที่จำหน่ายระบบหรืออุปกรณ์อัตโนมัติจะขอให้ลูกค้าละเว้นการชดใช้ค่าเสียหายตามข้อกำหนดเรื่องความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้พฤติกรรมจากผลิตภัณฑ์ของตน
เทรนด์ที่ 3: การประมวลผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นส่วนตัว (Privacy-Enhancing Computation)
การประมวลผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นส่วนตัว (Privacy-Enhancing Computation หรือ PEC) นั้นช่วยให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากกฎหมายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้นรวมถึงความกังวลของผู้บริโภค ซึ่ง PEC ใช้เทคนิคการป้องกันความเป็นส่วนตัวที่หลากหลายเพื่อให้สามารถดึงข้อมูลออกมาใช้ได้อย่างมีคุณค่าและยังปฏิบัติตามข้อกำหนด
การ์ทเนอร์คาดว่า ภายในปี 2568 องค์กรขนาดใหญ่ 60% จะใช้เทคนิคของ Privacy-Enhancing Computation อย่างน้อยหนึ่งเทคนิคเพื่อการวิเคราะห์ หรือใช้ในธุรกิจอัจฉริยะ หรือเพื่อการประมวลผลบนคลาวด์ สำหรับภาคบริการทางการเงินที่ข้อมูลถือว่ามีบทบาทอย่างมากในการวิเคราะห์ การคำนวณ และการสร้างรายได้ จึงมีการนำเทคนิค PEC มาใช้เพิ่มขึ้น อาทิ ใช้วิเคราะห์การฉ้อโกง ดำเนินการด้านข่าวกรอง แบ่งปันข้อมูล และต่อต้านการฟอกเงิน
AIS จับมือ OPPO เปิดตัว OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิป รุ่นล่าสุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 18,999 บาท พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้า AIS…
ออเนอร์ กรุ๊ป เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู "Once Wongamat" บนทำเลทองวงศ์อมาตย์ ชูจุดเด่นการออกแบบที่ผสานความหรูหรา และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ออเนอร์ กรุ๊ป (Honour Group)…
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มอบประกันอุบัติเหตุจากกรุงไทย แอกซ่า ฟรี 30 ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม - 31 ธันวาคม 2567…
พฤกษา โฮลดิ้ง ไม่หยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์สังคมแห่งโอกาสที่เท่าเทียม เดินหน้าสู่ปีที่ 6 ของโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” โดยผนึกกำลังร่วมกับ โรงพยาบาลวิมุต และ อินโนโฮม คอนสตรัคชัน ในเครือ…
บาร์บีคิวพลาซ่า จับมือ วิตอะเดย์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการน้ำดื่มผสมวิตามิน ส่ง "วิตอะเดย์ กะหล่ำปลี วอเตอร์" รสชาติสุดว้าว พร้อมดึงพี่ GON ร่วมสร้างสีสัน เอาใจสายเฮลท์ตี้ แถมโปรโมชั่นสุดคุ้มชุดประหยัดหมู 2…
เคยไหม? เลื่อนฟีดโซเชียลมีเดียแล้วเจอคลิปโป๊ ๆ ของคนดัง หรือแม้แต่คนรู้จัก แต่เอะใจว่า...มันดูแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ตัวจริง นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังเผชิญหน้ากับ "Deepfake Porn" ภัยร้ายยุค AI ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ Deepfake…