Categories: News UpdateWorld News

กูรูทิสโก้ประเมินสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ส่งผลจำกัดต่อเศรษฐกิจไทย ระบุกระทบGDPมากสุดไม่เกิน 0.3% มูลค่าส่งออกลดไม่เกิน 3,000 ล้านดอลลาร์

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobpol, Head of Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกสินค้าไปยังประเทศสหรัฐฯ และจีน ประมาณ 1 ใน 4 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มเห็นภาพชัดมากขึ้น โดยสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเตรียมเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประเด็นนี้สร้างความกังวลว่าการส่งออกรวมไปถึงเศรษฐกิจไทยจะถูกกระทบไปด้วย

“สหรัฐฯ เริ่มเรียกเก็บภาษีนำเข้าโซลาร์เซลล์ เครื่องซักผ้า เหล็กและอะลูมิเนียมกับทุกประเทศทั่วโลกตั้งแต่เดือน ม.ค. 2561 (ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมให้กับอาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, บราซิลและเกาหลี) ต่อมาสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้บางส่วนตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ทำเนียบขาวประกาศจะเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้านำเข้าจากจีนรวมมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้มาตรการดังกล่าวจะอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นสาธารณะซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน หรือ สามารถเริ่มบังคับใช้ได้อย่างเร็วสุดในเดือนก.ย. แต่ผลกระทบได้ขยายขอบเขตไปสู่สินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นผลกระทบในวงกว้าง”นายคมศรกล่าว

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อไทยทั้งในทางตรงและทางอ้อม โดยผลกระทบทางตรง มาจากมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าในกลุ่มโซลาร์เซลล์ เครื่องซักผ้า เหล็กและอะลูมิเนียม ส่งผลโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยไปยังสหรัฐฯ จากข้อมูลปี 2560 ไทยส่งออกสินค้า ในกลุ่มโซลาร์เซลล์ เครื่องซักผ้า เหล็กและอะลูมิเนียม ไปยังสหรัฐฯ รวมเป็นมูลค่า 885 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 0.4% ของมูลค่าส่งออกรวมของไทย

ส่วนผลกระทบทางอ้อม เกิดจากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ทำให้จีนส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ลดลง ส่งผลต่อเนื่องมายังการส่งออกสินค้าขั้นต้นและสินค้าขั้นกลางของไทยไปยังจีนลดลงตามไปด้วย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ได้นำรายการสินค้าที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศขึ้นภาษีระยะแรกมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและระยะที่สองมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประเมินจากมูลค่าสินค้าส่งออกของไทยไปยังจีนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด และลดทอนด้วยสัดส่วนที่จีนจะนำไปผลิตและส่งออกต่อไปยังสหรัฐฯ ซึ่งจะได้มูลค่าสินค้าส่งจากไทยไปยังจีนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงประมาณ 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 0.9% ของมูลค่าส่งออกรวมของไทยในปี 2560

นายคมศร กล่าวว่า เมื่อรวมผลกระทบจากทั้งทางตรงและทางอ้อม ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO Economic Strategy Unit) ประเมินว่า มาตรการภาษีที่สหรัฐฯ ประกาศออกมาทั้งหมดในปัจจุบัน จะส่งผลจำกัดต่อเศรษฐกิจไทย โดยจะกระทบต่อมูลค่าการส่งออกไทยอย่างมากที่สุดไม่เกิน 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.2% ของมูลค่าการส่งออกในปี 2560 ซึ่งหากคำนวณมูลค่าเพิ่มของสินค้าส่งออกในแต่ละรายการ เราประเมินว่าผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทยไม่เกิน 0.3% และคาดว่าทั้งปี 2561 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ที่ระดับ 4.4%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและ GDP ของไทยค่อนข้างจำกัด แต่สถานการณ์ด้านสงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอนสูง และอาจบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกผ่านทางช่องทางอื่นๆ เช่น ความผันผวนของราคาสินทรัพย์และอัตราแลกเปลี่ยน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน รวมถึงการตัดสินใจลงทุนขยายกิจการของภาคเอกชน ซึ่งอาจล่าช้าออกไปจากความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป

BizTalk NEWS

Recent Posts

AIS-True เปิดฉากระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ทั่วไทย พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อรัฐบาลสั่งการ

AIS และ True Corporation สองผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ได้ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast และ SMS ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อหน่วยงานภาครัฐสั่งการ AIS: ระบบ Cell…

3 hours ago

ดีพร้อม-บางจากฯ ผนึก 5 พันธมิตรธุรกิจ ผลิต “น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน” 1 ล้านลิตรต่อวัน ดันไทยสู่ฮับการบินพลังงานสะอาด ชิงความได้เปรียบเศรษฐกิจโลก

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5 องค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)…

5 hours ago

ก.อุตฯ ผนึก World Bank เปิดเกมรุก “Industrial Decarbonization” ดันไทยสู่ Hub ลงทุนสีเขียว

“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เปิดเวที CEO Forum ชูแนวทาง Industrial Decarbonization ภายใต้โครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการไทยลดคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน…

8 hours ago

Tops เขย่าตลาด FMCG ปี 68 ทุ่ม 5,000 รายการ Own Brand ชูคุณภาพพรีเมียม ราคาโดนใจ ผนึกชุมชนโกอินเตอร์

ท็อปส์ (Tops) ประกาศศักดาผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ปี 2568 ทุ่มงบไม่อั้น พัฒนาพอร์ตสินค้า Own Brand ทะลุ 5,000 รายการ ชูจุดแข็งด้านคุณภาพระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้…

9 hours ago

รฟม. แจ้งรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เปิดให้บริการเดินรถ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) – สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) และจัด Feeder รับ – ส่ง สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) – สถานีมีนบุรี (PK30)

ตามที่ เกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนได้ส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) ต้องงดให้บริการชั่วคราว เพื่อแก้ไขรางจ่ายไฟเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายที่แผ่นปิดรอยต่อคานทางวิ่ง จำเป็นต้องซ่อมแซม ซึ่ง กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางราง…

9 hours ago

“แสตมป์ กระจกเกรียบ” ศิลปะล้ำค่าแห่งสยาม ไปรษณีย์ไทยเปิดตัวแสตมป์ที่ระลึก วันอนุรักษ์มรดกไทย 2568 ดันไทยสู่สายตาโลก

ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดตัวแสตมป์ที่ระลึกชุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568 ด้วยการนำเสนอศิลปกรรมอันทรงคุณค่าที่กำลังจะเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ "กระจกเกรียบ" ศิลปะแห่งสยามประเทศที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์แต่กลับหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยมีกำหนดการเปิดจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2568 เป็นต้นไป ในราคาดวงละ…

10 hours ago

This website uses cookies.