ความท้าทายของวัยเกษียณเมื่ออยากได้บ้าน บทความ โดย DD Property

สังคมผู้สูงวัยกำลังจะเป็นส่วนใหญ่ของสังคมโลกที่มีความหมายมากกว่าอายุขัยหรือจำนวนของสมาชิกผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยส่งผลกระทบถึงกลุ่มวัยแรงงานที่จะมีจำนวนลดน้อยถอยลงไปตามอายุขัย ขณะที่อัตราการเกิดเพื่อเติบโตเป็นวัยแรงงานทดแทนกลับลดลง ซึ่งรัฐบาลก็จำเป็นต้องเก็บภาษีเพิ่มเติมเพื่อมาดูแลจำนวนผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบัน ไทยมีผู้สูงอายุจำนวน 9.5 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงสามารถพึ่งพาตนเองได้อยู่ที่ 8.55 ล้านคน โดย World Bank คาดการณ์ว่าในอีก 30 ปีข้างหน้า ไทยจะมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 37.1% หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด โดยผู้สูงวัยที่สามารถพึ่งพาตนเองได้เป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ “Retirement Community” หรือโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัย ซึ่งปัจจุบันมีแผนการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่าแผนการลงทุนพัฒนาโครงการ Retirement Community ขนาดใหญ่ ในทำเลที่กระจายตัวในชานเมือง และต่างจังหวัด น่าจะส่งผลให้มูลค่าการลงทุนโครงการ Retirement Community ระหว่างปี 2561-2563 คิดเป็น 6,000 ล้านบาท และหนุนให้มูลค่าการลงทุนโครงการ Retirement Community สะสมในประเทศไทยแตะระดับ 27,000 ล้านบาทได้ในปี 2563 จากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 21,000 ล้านบาท

จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty Consumer Sentiment Survey) รอบล่าสุด ในหัวข้อความต้องการด้านที่พักอาศัยเมื่อยามสูงวัย พบว่า…

รอบล่าสุด 42% ของผู้ตอบแบบสอบถามยังไม่ได้ตระหนักถึงการเตรียมตัวในวัยเกษียณ แม้ว่าจะยังเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างมาก แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นและเพิ่มขึ้นจากรอบก่อนหน้าถึง 8%
50% คือ จำนวนคนที่มองหา Nursing Home และ Retirement Community ในรอบล่าสุด ขณะที่รอบก่อนหน้าอยู่ที่ 40% จึงเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นสำหรับการมองหาทางเลือกที่พักอาศัยในวัยเกษียณ
มีเพียง 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้น ที่ต้องการอาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยวเมื่อถึงวัยเกษียณ
67% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการอาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยวหรือที่พักอาศัยสำหรับคนสูงวัย เมื่อถึงวัยเกษียณ
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย DDproperty.com เผยว่า แม้ภาครัฐและภาคเอกชนจะพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุจนทำให้เกิด Retirement Community จำนวนมาก แต่ยังมีราคาและตำแหน่งการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน สวนทางกับกำลังซื้อของผู้สูงอายุไทยที่ส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพารายได้หลักจากลูกหลาน มีเงินออมค่อนข้างน้อย และส่วนมากต้องการพักอาศัยกับครอบครัวตนเองมากกว่าสถานพักฟื้น, Home Care หรือบ้านพักพิงสำหรับผู้สุูงอายุ โดยมีทัศนคติเกี่ยวกับการเป็นภาระของลูกหลานหรือคนดูแล (ที่มา: ไทยพร้อมแล้วหรือไม่? กับสังคมผู้สูงอายุ)

สอดคล้องกับรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย ปี 2560 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของผู้สูงอายุ ที่แม้ว่าในปี 2560 จะมีผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 8.2 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ได้รับเบี้ยยังชีพในปี 2552 กว่า 1.5 เท่า แต่ยังพบว่าจำนวน 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุไทยยังมีรายได้อยู่ใต้เส้นความยากจน ซึ่งมีรายได้หลักจากบุตรลดน้อยลงเหลือเพียง 35% รายได้จากการทำงานลดลงเหลือ 31% รายได้จากคู่สมรสเพียง 20% และรายได้จากเงินออมมีเพียงแค่ 2% เท่านั้น ขณะที่ปี 2560 มีตัวเลขนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงจำนวนผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงรายได้ทางเศรษฐกิจของผู้สูงวัยที่ลดน้อยถอยลงไปอีกด้วย ประกอบกับแนวโน้มของครอบครัวยุคใหม่ที่มีจำนวนสมาชิกลดลง ส่งผลให้อัตราผู้สูงอายุที่อาศัยคนเดียวค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ

โดยผู้สูงวัยจำนวน 41% อาศัยร่วมกับครอบครัวลูกหลาน จำนวน 11.5% เป็นครัวเรือนที่มีเฉพาะผู้สูงวัย มี 21% ที่พักอาศัยกับคู่สมรส และอีก 11% คือผู้สูงอายุที่พักอาศัยคนเดียว

ด้วยเหตุนี้ เรื่องรายได้และเงินออมจึงเป็นทั้งอุปสรรคและความท้าทายของผู้สูงวัยที่ต้องการซื้อบ้านของตนเอง ซึ่งทางภาครัฐเองก็ได้ออก 4 มาตรการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ คือ

1) การจ้างงานผู้สูงอายุ เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นคงในเรื่องรายได้ของผู้สูงอายุให้สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ยาวนานขึ้น

2) การสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้มีการสร้างที่พักอาศัยทั้งในรูปแบบมีความเหมาะสม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นการเฉพาะให้กับผู้สูงอายุ

3) สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse mortgage) เป็นการให้เงินกู้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80 ปี ไม่ได้เป็นข้าราชการบำนาญ ไม่มีเงินสำรอง

4) การบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญ เป็นการสนับสนุนการออมภาคบังคับเพื่อสร้างหลักประกันรายได้ที่มั่นคงยามสูงวัย

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ Retirement Community เองก็มีความท้าทายไม่แพ้กัน เพราะต้องพัฒนารูปแบบที่พักให้ตอบโจทย์ความต้องการทั้งเรื่องดีไซน์ การใช้งาน และบริการอื่น ๆ ของผู้สูงวัย ซึ่งมีความต่างจากที่พักอาศัยทั่วไปค่อนข้างมาก อีกทั้งยังต้องทำราคาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการด้วย

โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม อิงตามงบประมาณ ดังนี้ 1) รายได้ปานกลางระดับต่ำ กำลังซื้อไม่เกิน 2 ล้านบาท 2) รายได้ปานกลางระดับสูง กำลังซื้อ 2-10 ล้านบาท และ 3) รายได้สูง+กลุ่มชาวต่างชาติที่พักอาศัยในไทย กำลังซื้อ 10 ล้านบาทขึ้นไป (ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

ซึ่งปัจจุบันทางหน่วยงานภาครัฐและเอกชนก็เริ่มให้ความสนใจในธุรกิจนี้มากขึ้น โดยปล่อยหลายโครงการที่รองรับประชากรสูงวัยเข้าสู่ท้องตลาด

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยี Smart Home เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้สูงวัย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ระดับบนเพราะมีกำลังซื้อสูง

โอกาสใหม่ของสถาบันการเงินนำเสนอผลิตภัณฑ์เจาะตลาดเอจจิ้ง ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบ้านบุพเพสันนิวาส ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ให้ผู้กู้อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป สามารถกู้เงินเพื่อไปซื้อที่ดินพร้อมอสังหาริมทรัพย์ หรือซื้อที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเคหะ กตัญญูดูแลบุพการี ของธนาคารออมสิน สำหรับกลุ่มคนที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงวัย เช่น บุตรหลานหรือญาติ ที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี ให้สามารถกู้เงินเพื่อไปซื้อที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ เพื่อใช้พำนักอาศัยร่วมกับบุพการี

ส่วนนโยบายสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) ของรัฐบาลนั้นออกมาเพื่อรองรับผู้สูงอายุที่มีที่พักอาศัยเป็นของตนเองสามารถนำมาสร้างกระแสเงินสดไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในวัยหลังเกษียณได้ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งให้ผู้สูงอายุมีเงินไว้สำรองใช้แทนรายได้จากการทำงานที่หายไป

สำหรับผู้สูงวัยหรือผู้ที่ต้องการเตรียมความพร้อมด้านที่พักอาศัยในวัยเกษียณ สามารถค้นหาที่อยู่อาศัยให้ตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ทำเล ราคา ขนาดพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวกและรายละเอียดต่าง ๆ ของที่พักอาศัย สามารถดูรูป วิดีโอ หรือ Visual Reality (VR) ของสถานที่จริงเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ที่ DDproperty.com ที่มีรีวิวโครงการ พร้อมทั้งฟีเจอร์คำนวณยอดเงินกู้สูงสุดเพื่อที่อยู่อาศัยโดยประมาณได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสค้นหาและเลือกสรรที่พักที่ตรงใจได้อย่างแท้จริง

BizTalk NEWS

Recent Posts

บขส. – ขบ. ตรวจติดตามรถโดยสารที่ใช้ก๊าซ CNG – LPG ย้ำต้องนำรถโดยสารเข้าตรวจสภาพภายในวันที่ 2 ธ.ค.นี้

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และนายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ…

18 minutes ago

BSRC เปิดบ้านโชว์ศักยภาพโรงกลั่น A New Horizon เผยความสำเร็จตลอดปี 2567

บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เปิดบ้านต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากหลากหลายสำนักที่เดินทางมาเยี่ยมชมโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Press Visit “BSRC:…

20 minutes ago

ปังไม่หยุด! เอพี ไทยแลนด์ คว้า RISING STAR AWARD 2024 “แบรนด์อสังหาฯ ที่โดดเด่นอย่างก้าวกระโดด”

บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้คำมั่นสัญญา “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” โดย นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ รับรางวัล…

23 minutes ago

วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไทย 3 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากยอดขายต่ำสุดในรอบ 15 ปี

Krungthai COMPASS มีมุมมองต่อยอดขายรถยนต์ไทยในปี 2567-68 อาจอยู่ในระดับต่ำที่ปีละ 0.6-0.61 ล้านคัน ลดลงจากค่าเฉลี่ยในอดีต (ปี 2564-66) เกือบ 25% โดยมีแรงกดดันหลักจาก 1) กำลังซื้อของผู้บริโภคที่แผ่วลง…

25 minutes ago

Huawei Cloud ครองแชมป์ ผู้ให้บริการ Container อันดับ 1 ด้วยกลยุทธ์ Cloud Native 2.0

Huawei Cloud ผงาดขึ้นแท่นผู้นำระดับโลกในบริการคอนเทนเนอร์ คว้าอันดับ 1 ในรายงาน Omdia Universe: Cloud Container Management & Services, 2024-25 ตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี…

47 minutes ago

เจาะลึกกลยุทธ์ Lifestyle Brand สร้างแบรนด์ให้ปัง ดึงลูกค้าให้ตรึงใจ

ในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจในแบรนด์ที่สะท้อนรสนิยมและความสนใจของตัวเองมากขึ้น "Lifestyle Brand" หรือ "แบรนด์ไลฟ์สไตล์" จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสร้างความผูกพันอันแข็งแกร่งกับลูกค้า โดยนำเสนอมากกว่าแค่สินค้าหรือบริการ แต่เป็นการนำเสนอ "วิถีชีวิต" ที่ลูกค้าใฝ่ฝัน จากรายงาน Business of Fashion (BoF)…

2 hours ago