Categories: FinanceNews Update

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.25 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.32 บาทต่อดอลลาร์

ผู้เล่นในตลาดการเงินเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น โดยในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ แรงซื้อหุ้นเทคฯ รวมถึงหุ้นสไตล์ Growth ที่ปรับตัวลงแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ Tesla +9.4%, Alphabet (Google) +4.1%, Apple +3.3% ได้ช่วยหนุนให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq พุ่งขึ้น +2.51% เช่นเดียวกันกับ ดัชนี S&P500 ที่ปรับตัวขึ้นราว +2.45% นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามการรีบาวด์ของราคาน้ำมันและการปรับมุมมองการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีขึ้นของนักวิเคราะห์ อาทิ Exxon Mobil +6.2%, Chevron +4.2% ก็ได้ช่วยหนุนการรีบาวด์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป เดินหน้าปรับตัวขึ้นราว +0.35% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคฯ รวมถึงหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ ASML +2.7%, Adyen +2.2%, Dior +2.1%

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับ 3.28% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟดในวันนี้ เพื่อประเมินมุมมองของเฟดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางนโยบายการเงิน ทั้งนี้ เราคงมุมมองว่า ผู้เล่นบางส่วนอาจเริ่มทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวมากขึ้น หลังจากที่บอนด์ยีลด์ระยะยาวได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก และหากมีมุมมองว่า การขึ้นดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยในกรณีเลวร้ายสุด บอนด์ยีลด์ระยะยาวก็จะสามารถทยอยปรับตัวลดลงได้

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 104.4 จุด โดยปัจจัยหนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ยังคงเป็นการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุดได้อ่อนค่าแตะระดับ 136.5 เยนต่อดอลลาร์ ตามแนวโน้มนโยบายการเงินที่สวนทางกันระหว่างธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กับเฟด ส่วนแรงกดดันเงินดอลลาร์นั้นมาจากภาพตลาดที่เริ่มกลับมาทยอยเปิดรับความเสี่ยง รวมถึงการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินฝั่งยุโรป อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์อาจยังคงมีทิศทางผันผวนและแกว่งตัว sideways เนื่องจากผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสก่อนในวันนี้ ทั้งนี้ แม้เงินดอลลาร์จะยังทรงตัวใกล้ระดับเดิม แต่ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดยังคงกดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงใกล้ระดับ 1,832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราคาดว่า ราคาทองคำอาจปรับตัวเป็นขาขึ้นได้ยาก และมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways จนกว่าตลาดจะมีความมั่นใจในแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟดก่อน

สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก โดยในฝั่งของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด นั้น ผู้เล่นในตลาดจะจับตาการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด (Powell’s Testimony) โดยเฉพาะผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นของเฟด รวมถึงความจำเป็นหรือโอกาสที่เฟดจะต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ หลังจากที่ ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอลงหนักและเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ หากเฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot ล่าสุด

ส่วนในฝั่งไทย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า ดุลการค้าในเดือนพฤษภาคมอาจขาดดุลราว -1.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นและปัญหาเงินบาทอ่อนค่าจะยิ่งหนุนให้ยอดการนำเข้าโตกว่า +18%y/y ในขณะที่ยอดการส่งออกอาจโตเพียง +8%y/y

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า แม้เงินบาทจะพอได้แรงหนุนในฝั่งแข็งค่า ตามภาพตลาดการเงินที่ทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น แต่โดยรวมเงินบาทยังคงมีแนวโน้มผันผวนและมีโอกาสอ่อนค่าในช่วงระหว่างวันไปทดสอบโซนแนวต้านแถว 35.40 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้งได้ โดยแรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่านั้น ยังคงมาจากแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ โดยล่าสุด นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิหุ้นและบอนด์ไทยรวมกันกว่า -7.1 พันล้านบาท ซึ่งเราประเมินว่า ความผันผวนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติจะมีส่วนทำให้เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่าต่อได้ในช่วงนี้

นอกจากนี้ ยังต้องระมัดระวังความผันผวนจากเงินดอลลาร์ในช่วงระหว่างตลาดรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ซึ่งหากประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงต่อเนื่อง หรือ แสดงความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ก็อาจกดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงได้บ้าง อนึ่ง เราประเมินว่า การทยอยปรับลดสถานะถือครองเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด (Net Long USD positions) แม้ว่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในช่วงที่ผ่านมา อาจสะท้อนว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้มองว่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปได้มาก และเริ่มมีการทยอยขายทำกำไร ทำให้เรามองว่า เงินดอลลาร์จะเริ่มกลับตัวเป็นขาลงได้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง หรือ จุด Peak Hawkishness ของเฟดได้มาถึงแล้ว ซึ่งเราคาดว่าอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงการประชุมเฟดเดือนกรกฎาคม

อนึ่ง ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง เราคงแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.20-35.45 บาท/ดอลลาร์

BizTalk NEWS

Recent Posts

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึก Edutainment และ Playland จัดแคมเปญ “The Little Campus 2024” ดันทราฟฟิกกลุ่มครอบครัว

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำด้าน Edutainment กว่า 300 สถาบัน รวมถึง Playland สุดฮิต จัดแคมเปญ The Little Campus 2024 เปลี่ยนศูนย์การค้าเซ็นทรัลให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้…

11 hours ago

เดนทิสเต้พาลิซ่าจัดงานในไทยอีกครั้ง กับ 3 กิจกรรมในงาน DENTISTE’ x LISA Exclusive After Party

เดนทิสเต้ เดินหน้านำ 3 กิจกรรมสุดยิ่งใหญ่เหนือใคร พาศิลปินระดับโลกชาวไทยอย่าง “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวเดนทิสเต้ ในฐานะ Brand Ambassador ของประเทศไทย มาสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับแฟนๆ ชาวไทยผ่าน…

11 hours ago

เพอร์เฟค ปิดดีลขายที่ดิน 2 แปลง พร้อมออกหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ยสูง 7% และ 7.25%

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ปิดดีลขายที่ดิน 2 แปลง รับ 700 ล้านบาท พร้อมออกหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ยสูง 7% และ 7.25%…

12 hours ago

กทม. x สวทช. สสวท พัฒนาเยาวชน ในโรงเรียนภาษาที่สาม สู่นวัตกรยุค 4.0 ด้วย Digital Innovation Maker space นำร่องพื้นที่กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่ชาติ (เนคเทค สวทช.) และ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติ Digital…

12 hours ago

รฟม. เผยครบรอบ 1 ปี นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผลดีเกินคาด ทำยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT และผู้ใช้บริการอาคารจอดแล้วจรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายวิทยา พันธุ์มงคล รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ รฟม. ได้ดำเนินการตามนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบาย Quick Win “คมนาคม…

15 hours ago

เป็นเจ้าของสถานีชาร์จฯ ง่ายนิดเดียว ชมแพคเกจสุดพิเศษจาก กฟผ.ในงาน Bangkok EV Expo 2024 ที่บูท EV3/2

กฟผ. ร่วมออกบูท EGAT EV Business Solutions (บูท EV3/2) ในงาน Bangkok EV Expo 2024 เพื่อส่งต่อความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการพัฒนาและการบริหารจัดการเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า…

15 hours ago