นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกมีผู้ใช้บริการกว่า 10 ล้านคน โดยมีการสมัครงานมากกว่า 6 ล้านครั้ง เติบโตขึ้น 11% และมีจำนวนคนสมัครงานกว่า 9 แสนคน เติบโตขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561
ขณะที่ภาพรวมความต้องการแรงงานทั่วประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 พบว่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีความต้องการแรงงานสูงสุด และ งานขาย เป็นอาชีพที่เปิดรับสมัครมากที่สุด ขณะที่งานที่มีอัตราการแข่งขันสูงที่สุด ได้แก่ งานนำเข้า-ส่งออก และงานทรัพยากรบุคคล
นอกจากนี้พบว่า 5 กลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด
1.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 76,204 อัตรา เนื่องมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
2.ธุรกิจยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 58,481 อัตรา ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี ซึ่งกลุ่มยานยนต์รวมอยู่ด้วย ด้านทรัพยากรบุคคลจึงมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของแรงงาน เช่น กลุ่มวิศวกร และช่างเทคนิคให้มีความพร้อมมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของการลงทุนนี้
3.ธุรกิจบริการ จำนวน 56,893 อัตรา เนื่องจากการขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยว
4.ธุรกิจก่อสร้าง จำนวน 49,631 อัตรา เป็นผลจากการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
5.ธุรกิจค้าปลีก จำนวน 49,365 อัตรา การบริโภคยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
ขณะที่ 5 สายงานที่มีผู้สมัครมากที่สุด พบว่า งานธุรการ/จัดซื้อ มีการสมัครสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 13.22% อันดับสอง งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น 10.50% อันดับสาม งานขาย คิดเป็น 8.12% อันดับสี่ งานทรัพยากรบุคคล คิดเป็น 7.10% อันดับห้า งานวิศวกรรม คิดเป็น 6.48% ของผู้สมัครทั้งหมด
ส่วนงานที่มีอัตราการแข่งขันสูงที่สุด คือ นำเข้า-ส่งออกและทรัพยากรบุคคล มีการแข่งขันสูงเป็นอันดับ 1 เท่ากัน โดยมีการแข่งขันอยู่ที่ 4.79 คน ต่อ 1 อัตรา อันดับสอง วิทยาศาสตร์/วิจัยพัฒนามีอัตราการแข่งขันอยู่ที่ 4.44 คน ต่อ 1 อัตรา อันดับสาม สิ่งแวดล้อม มีอัตราการแข่งขันอยู่ที่ 3.12 คน ต่อ 1 อัตรา และอันดับสี่ เลขานุการ อัตราการแข่งขัน 3.05 คน ต่อ 1 อัตรา
