ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผย 3 ตัวแปร ปั๊มชีพจรอสังหาฯ หลังโควิด-19

 ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เผยตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องอาศัยตัวแปรหลักเพื่อฟื้นเข้าสู่สภาวะปกติ สภาพตลาดที่ถดถอยต่อเนื่องผนวกกับโควิด-19 ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยโดยรวมลดลง ทั้งนี้ปัจจัยที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายนำมาพิจารณาจะครอบคลุมทั้งปัจจัยด้านราคา ด้านประเภทของที่อยู่อาศัย เช่น แนวราบ แนวสูง ไปจนถึงประโยชน์ใช้สอยที่ตอบโจทย์ในรูปแบบของความจำเป็นใหม่สู่ความปกติใหม่หรือ New Necessities to New Normal โดยบ้านเดี่ยวได้รับความสนใจแทนที่คอนโดมิเนียม ในขณะเดียวกันการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บริโภคจะเป็นเทรนด์ที่มีความชัดเจนและแพร่หลายมากขึ้นทั้งในระดับนักพัฒนาไปจนถึงนายหน้าขายบ้าน

ภายใต้มาตรการผ่อนปรนที่เริ่มรีสตาร์ทเศรษฐกิจประเทศระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้เผยมุมมองเศรษฐกิจประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 พร้อมทั้งประมาณการเศรษฐกิจไทยหดตัวจากเดิมที่ -5% มาเป็น -6% โดย 3 อุตสาหกรรมสำคัญที่จะใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าอุตสาหกรรมอื่น ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ โดยต้องยอมรับว่าธุรกิจหลักของไทยอาจใช้เวลามากกว่า 1 ปีในการฟื้นตัวให้กลับสู่ระดับก่อนเกิดเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 

อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์โควิด-19 พบว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ในไตรมาสแรกของปีนี้ ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความซบเซาของธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ลากยาวตั้งแต่ปีที่แล้วจนไตรมาสแรกของปีนี้ที่โดนซ้ำเติมด้วยการระบาดของไวรัสโควิด-19 

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า “จากสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวและกำลังซื้อที่ยังไม่กลับมา ประกอบกับความไม่มั่นใจในการนำเงินก้อนใหญ่มาลงทุนซื้อที่อยู่อาศัย คาดว่าจะทำให้ดัชนีราคาจะยังคงทรงตัวตลอดทั้งปี 2563 ในขณะที่ผู้ประกอบการพยายามที่จะระบายสินค้าคงค้างของตนเอง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่จะมีการปรับลดการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งในปี 2563 จะยังเป็นตลาดของผู้ซื้อที่มีความพร้อมเนื่องจากการปรับลดราคาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับโปรโมชันและส่วนลดที่น่าสนใจ”

ภายใต้เกมการแข่งขันของผู้ประกอบการค่ายต่าง ๆ ที่จัดโปรโมชันระบายสต๊อกเพื่อเร่งเครื่องการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ดีดีพร็อพเพอร์ตี้แชร์มุมมองเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถฟื้นตัวได้ในยุคโควิด-19 ผ่าน 3 ตัวแปรหลัก ดังนี้

“ราคา” ตัวเร่งการตัดสินใจหลักของผู้บริโภค

จากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Index ฉบับล่าสุด พบว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมีเนียมในระดับราคา 8-15 ล้านบาท มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นถึง 5% และระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ราคาเพิ่มขึ้น 15%

แนวโน้มราคาอสังหาริมทรัพย์ตามระดับราคา ในช่วง Q4 2559 ถึง Q1 2563

สำหรับราคาคอนโดมิเนียมไตรมาสแรกปี 2563 ลดลง 6% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มผู้ซื้อเพื่อลงทุนสนใจเข้ามาซื้อเพื่อขยายพอร์ตการลงทุนในทำเลที่มีศักยภาพเพื่อจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนทาวน์เฮ้าส์ปรับราคาลดลง 2% ขณะที่บ้านเดี่ยวปรับราคาเพิ่มขึ้น 2% เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอยู่อาศัยจริงและมีกำลังซื้อ 

โดยระดับราคาต่ำกว่า 3.5 ล้านบาท ปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 3% เทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2562 จากตัวเลขดังกล่าวถือเป็นนาทีทองของกลุ่มนักลงทุนและผู้ซื้อที่มีความพร้อม (เรียลดีมานด์) เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แข่งขันกันออกแคมเปญและโปรโมชันลด แลก แจก แถม ระบายสินค้าคงค้างโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมเพื่อจูงใจผู้ซื้อ ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง

นอกจากนี้จากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Index ฉบับล่าสุด ยังระบุถึงทำเลที่มีดัชนีราคาเติบโตสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (เพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อน) เขตดินแดง (เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน) เขตจตุจักร (เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน) เขตบางคอแหลม (เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน) เขตพระโขนง (เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน)

สำหรับแนวโน้มอุปทาน เขตวัฒนายังคงเป็นพื้นที่ที่มีอุปทานคอนโดมิเนียมสูงที่สุด โดยคิดเป็น 20% ของอุปทานคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ในขณะที่เขตประเวศมีสัดส่วนจำนวนอุปทานบ้านเดี่ยวสูงที่สุดต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 9% ของอุปทานบ้านเดี่ยวทั้งหมดในกรุงเทพฯ โดย 56% อยู่ในแขวงประเวศ ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com พบว่า ในเดือนพฤษภาคม 2563 มีผู้สนใจที่เยี่ยมชมและทำการติดต่อกับผู้ที่ลงประกาศขายในกรุงเทพฯ มีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 16.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกว่าตลาดอสังหาฯ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

กรุงเทพฯ ยังคงเป็นเมืองที่มีกิจกรรมการซื้อขายที่อยู่อาศัยมากที่สุด อย่างไรก็ตาม จันทบุรีและเชียงใหม่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่น่าจับตามอง เนื่องจากดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 15% และ 6% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 2 จังหวัดนี้มีแนวโน้มเติบโตคือ โครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่าง ๆ อาทิ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รถไฟความเร็วสูงในภาคตะวันออกและภาคเหนือ สนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่าง ๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก 

ความสนใจใน “โครงการแนวราบ” เติบโตขึ้น มากกว่าแนวสูง

เนื่องจากมาตรการ Physical Distancing ทำให้ผู้คนเล็งเห็นความสำคัญของสุขอนามัย ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สอดคล้องกับการที่บ้านแนวราบกลับมาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อีกทั้งด้วยสภาพการใช้ชีวิตในช่วงที่ผ่านมา จึงมีแนวโน้มว่า คนจะพิจารณาซื้อบ้านในทำเลใจกลางเมืองลดลง เพราะอนาคตการทำงานจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ความจำเป็นในการเดินทางไปเช้า เย็นกลับ ตามเวลาทำงานปกติอาจลดน้อยลง ส่งผลให้ทำเลชานเมืองได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ดี ระบบขนส่งที่เอื้อต่อการเดินทางยังคงเป็นความต้องการหลัก ๆ ซึ่งปัจจุบันการขยายโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่มีโครงการในเขตรอบนอกใจกลางเมือง

รายงาน DDproperty Thailand Property Market Index ฉบับล่าสุด ได้รายงานว่าดัชนีราคาของอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 (นับจากช่วงไตรมาสที่ 1 ปี2562)  ส่วนใหญ่ดัชนีราคาที่ปรับลดลงจะเป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์ ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว เป็นที่อยู่อาศัยประเภทเดียวที่มีระดับราคาเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 9% ในรอบ 2 ปี เนื่องจากเจาะกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าซื้อเพื่อลงทุน

“ความจำเป็นใหม่” สู่ความปกติใหม่ภายในบ้าน (New Necessities to New Normal)

แน่นอนว่า ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราได้เห็นพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย รวมกับความต้องการที่พักอาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังชันภายในให้เหมาะสมตามความต้องการได้ แม้จะมีพื้นที่จำกัด เพื่อรองรับการใช้ชีวิตประจำวันรวมทั้งการทำงานจากที่บ้าน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการที่จะต้องพัฒนาการออกแบบมาให้เอื้อต่อการทำงานที่บ้านมากขึ้น จากเดิมที่อาจจะเน้นเพื่อประโยชน์ของการเป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลัก บ้านถูกออกแบบให้เป็น Smart Home Automation ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถจัดการด้านพลังงาน สุขอนามัย รวมทั้งความบันเทิง ที่รองรับระบบควบคุมระยะไกลพร้อมกับการออกแบบให้เอื้อต่อ Internet of things (IoT) Face Recognition เพื่อลดการสัมผัส ระบบการเชื่อมต่อ เพื่อรองรับการทำงานและเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินการได้จากที่บ้าน เช่น ผู้ค้าขายออนไลน์ และ เอสเอ็มอี โดยจะให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์และสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานและลูกค้าได้อย่างไม่ติดขัด รวมทั้งต้องนำมาปรับใช้ให้ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันในอนาคตอันใกล้นี้ได้อีกด้วย ประกอบกับราคาของผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ตโฮมที่มีราคาจับต้องได้ และสินค้าหลายชนิดสามารถติดตั้งได้ด้วยผู้อาศัยเองโดยไม่ต้องรื้อระบบ

โอกาสสำหรับนายหน้าช่วงหลังโควิด-19?

ปัจจัยบวกในปีนี้คือ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลงทำให้ผู้กู้ซื้อบ้าน หรือรีไฟแนนซ์บ้านได้รับประโยชน์จากการผ่อนสินเชื่อบ้านน้อยลง นอกจากนี้การที่กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่เลื่อนเก็บภาษีไปเป็นเดือนสิงหาคม 2563 และปรับเกณฑ์ให้ผู้ซื้อเพื่อปล่อยเช่าเสียอัตราภาษีเท่ากับที่อยู่อาศัยล้วนเอื้อต่อการซื้ออสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัย และลงทุนมากขึ้น จากข้อมูลต่าง ๆ เราจะเห็นว่าตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยดีดีพร็อพเพอร์ตี้ขอส่งต่อคำแนะนำให้นายหน้าเตรียมตัวให้พร้อมและสร้างฐานลูกค้าไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนี้

  1. การตลาดออนไลน์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในปัจจุบัน เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียจึงเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก
  2. สำหรับนายหน้าอสังหาฯ เองการนำเสนอ ออกแบบรูปภาพ วิดีโอ และเนื้อหาที่ถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้อาศัย โดยเฉพาะคอนเทนต์ประเภท 360 องศาจะยิ่งดึงดูดสายตากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
  3. เรียนรู้การใช้ข้อมูลเชิงลึก สถิติ และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มาสร้างเป็นข้อมูลที่สามารถส่งต่อประสบการณ์ที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้

นางกมลภัทรกล่าวสรุปว่า “ภาคอสังหาฯ ยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายอย่างต่อเนื่องในปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งต้องรอลุ้นทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และนโยบายภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่กำลังจะซื้อบ้านโดยที่มีเวลาทำการบ้านเพื่อพิจารณาตัวเลือกทั้งประเภทโครงการ ผู้ประกอบการ ราคา ทำเลและสำคัญที่สุดด้านการเงินที่มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากสถาบันการเงินต่าง ๆ มากมายสำหรับผู้ซื้อที่มีความพร้อม โดยตลาดยังคาดหวังความเป็นไปได้ของกำลังซื้อจากชาวต่างชาติที่กำลังจะกลับมาหลังจากสถานการณ์คลี่คลายจะช่วยเร่งเครื่องธุรกิจกลุ่มอสังหาฯ ให้โตเร็วกว่าที่คาดการณ์หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป”

BizTalk NEWS

Recent Posts

ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง กทม. และภาคีเครือข่าย รื้อสายสื่อสาร บนเสาไฟฟ้าลงใต้ดิน ปักหมุด ถนนวิทยุเส้นแรกปี 68

วิทยุไร้สาย ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นายกนกศักดิ์ นิ่มนวลรัตน์ หัวหน้าฝ่ายส่วนราชการและสาธารณูปโภค นำทีมวิศวกรพื้นที่ร่วมปฏิบัติการสนับสนุน การไฟฟ้านครหลวง (MEA) โดย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการฯ พร้อมด้วย…

2 hours ago

HMD เปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ “HMD CREST 5G” และ “HMD AURA2” ชูจุดเด่นสเปคคุ้มค่า ราคาเข้าถึงได้

HMD ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ได้แก่ HMD CREST 5G และ HMD AURA2 ที่มาพร้อมสเปคจัดเต็ม ในราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้…

3 hours ago

LINE ALERT ขยายบริการแจ้งเตือนค่าฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์ ครอบคลุมทั่วประเทศ

ท่ามกลางสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวไทย LINE ประเทศไทย ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้าถึงผู้คนกว่า 56 ล้านรายทั่วประเทศ ได้ประกาศความร่วมมือกับกรมควบคุมมลพิษ ในการยกระดับบริการแจ้งเตือนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่าน LINE ALERT Official…

3 hours ago

Xiaomi 15 Series เตรียมเปิดตัวในไทย 3 มีนาคม 68 นี้

เสียวหมี่ประกาศวันเปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นใหม่ ‘Xiaomi 15 Series’ โดยเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลก (Global Launch) ในวันที่ 2 มีนาคม 2568 และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (Thailand Launch) ในวันที่ 3 มีนาคม 2568 แฟนๆ เสียวหมี่และผู้ที่สนใจห้ามพลาด สำหรับสเปค Xiaomi 15 Ultra ที่ถูกเปิดเผยผ่าน gsmarena…

3 hours ago

realme เปิดตัวสมาร์ทโฟนกล้องเทพ เซ็นเซอร์ใหญ่พิเศษที่ MWC 2025

เรียลมี (realme) เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพสุดล้ำที่งาน "Mobile World Congress 2025 (MWC 2025)" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคม นี้ ณ กรุงบาร์เซโลนา…

5 hours ago

CENTEL เผยผลประกอบการปี 67 กำไรพุ่ง 40% ธุรกิจโรงแรมโกอินเตอร์ อาหารในประเทศแกร่ง

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ผู้ให้โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา "Centara" หรือ (CENTEL) เผยประกาศผลประกอบการปี 2567 ธุรกิจโรงแรมหรูโกอินเตอร์ ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ อาหารไทยรสเลิศครองใจคนทั่วโลก ดันกำไรพุ่งทะยาน 40%…

6 hours ago