นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษีใน ฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การบังคับใช้มาตรการจัดเก็บภาษีตามปริมาณน้ำตาล โดยเสนอปรับอัตราภาษีเป็นขั้นบันไดทุกๆ 2 ปี ล่าสุดพบว่า มาตรการนี้ส่งผลให้ภาคเอกชนเริ่มปรับตัวในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ให้ลดปริมาณมากขึ้น โดยบางรายเลือกไม่ลดภาษีแล้วปรับขึ้นราคา กับการออกเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ที่เป็นทางเลือกสุขภาพเข้ามาทดแทน เพิ่มขึ้น 200% จากราว 60 รายการ เป็น 200-300 รายการ ทั้งนี้การตอบรับของประชาชนยังมีอยู่น้อย
สำหรับอัตราภาษีขั้นบันใดที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 จะปรับขึ้นทุก 2 ปี จะทำให้มีอัตราภาษีความหวานที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว คือในปี 2564 2566 ทำให้เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลจำนวน 10-14 กรัม จะถูกจัดเก็บ 1 บาท/ลิตร จากเดิม 50 สตางค์/ลิตร, ปริมาณน้ำตาล 14-18 กรัม/ลิตร จะถูกจัดเก็บในอัตรา 3 บาท/ลิตร จาก หากมากกว่า 18 กรัม จะถูกจัดเก็บ 5 บาท/ลิตร ซึ่งเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการหันมาตื่นตัวในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคมากขึ้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการน้ำอัดลมบางรายก็ปรับราคาขึ้นไปแล้ว โดยให้เหตุผลถึงต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมาตรการภาษีเป็นเพียงส่วนหนึ่ง โดยโฆษกสรรพสามิตร เน้นย้ำว่าหากต้องการจ่ายอัตราภาษีความหวานลดลง ก็ต้องลดปริมาณน้ำตาลลงราว 10%
