ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBS เปิดเผยหลังการลงนาม ร่วมกับ Unicapital Group ประเทศฟิลิปปินส์ ในข้อตกลงทางธุรกิจ ขยายโอกาสการลงทุนในตลาดทุนให้กับนักลงทุนไทยและฟิลิปปินส์ ว่า แม้ในขณะนี้ตลาดเงินทุนทั่วโลก จะแสดงความวิตกกังวลจากสงครามการค้า แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ตามเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จะทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่บ้าง ซึ่งไทยและฟิลิปปินส์ก็นับรวมอยู่ในกลุ่มดังกล่าวเช่นกัน แต่เชื่อว่าปัญหาจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น ในระยะกลางถึงระยะยาวพื้นฐานเศรษฐกิจไทย และฟิลิปปินส์ยังแกร่ง
โดยเศรษฐกิจไทยนั้นมีการฟื้นตัวชัดเจน
จากการบริโภคภาคเอกขนที่ขยายตัว +4.5% ในไตรมาส 2 การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนไทยที่ฟื้นตัว โดยคาดว่าปีนี้การลงทุนภาคเอกชนจะเติบโต 3 %YoY ตามด้วย Roadmap การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีจะเติบโตอย่างน้อย 9-10% ส่วนภาคการส่งออกยังคงขยายตัวสูงต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,800 จุด และหากเงินทุนไหลกลับก็ยังมีโอกาสที่จะโตได้แตะ 1,850-1,880 จุด ด้วย
ดังนั้นในวันนี้ บริษัทจึงได้ลงนามและแสดงเจตจำนงความร่วมมือทางธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์กับ บริษัท Unicaptal, Inc. กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านการลงทุนครบวงจรชั้นนำของฟิลิปปินส์ โดยความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ครอบคลุม 3 กิจกรรมทางธุรกิจ ได้แก่ 1. การแนะนำให้ผู้ลงทุนสถาบันของประเทศไทยกับฟิลิปปินส์มาลงทุนในสินทรัพย์ตลาดทุนต่าง ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และกองทุน 2. ความร่วมมือในการทำ Dual-listing หรือการนำบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในฟิลิปปินส์เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย และนำบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และ 3. การร่วมมือจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่น่าสนใจจากสินทรัพย์หรือโปรเจคใน 2 ประเทศ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ
ด้านนายเจม เจ %E