ถึงเวลาฉีดวัคซีนเศรษฐกิจ – วัคซีนโนมิกส์ โดย ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

โคโรนาโนมิกส์พ่นพิษ

เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะการถดถอยทางเทคนิค คือการที่ GDP หดตัวเทียบไตรมาสต่อไตรมาสหลังปรับฤดูกาล (quarter on quarter after seasonal adjustment) สองไตรมาสติดต่อกันขึ้นไป จากปัญหาไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ที่กระทบภาคการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง จำนวนนักท่องเที่ยวอาจหดตัวมากกว่า 50% ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ภาคการส่งออกมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและจากการที่ผู้ผลิตไม่สามารถนำเข้าสินค้าขั้นกลางและวัตถุดิบจากจีนได้เนื่องจากภาคธุรกิจในจีนยังไม่เปิดทำการเต็มที่และทำให้ผู้ประกอบการไทยจำต้องลดกำลังการผลิตหรืออาจถึงขั้นปิดกิจการชั่วคราว

เมื่อภาคการผลิต การส่งออกและการท่องเที่ยวไทยเสี่ยงหดตัว การจ้างงานในกลุ่มนี้และรายได้นอกภาคเกษตรมีโอกาสหดหาย ซ้ำเติมปัญหาภัยแล้งที่มีผลเสียต่อรายได้ภาคเกษตร กำลังซื้อครัวเรือนกำลังอ่อนแอและจะกระทบภาคการบริโภคอีกทอดหนึ่ง อย่าลืมว่าการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโตได้ดีในช่วงไตรมาส 4 มาจากกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และขนส่ง แต่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับคนไทยทั่วไปกลับโตช้าหรือหดตัว เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า และรถยนต์

ขณะที่ภาคเอกชนกำลังมีปัญหา ภาครัฐก็เผชิญความท้าทายจากงบประมาณที่ล่าช้า และอาจไม่สามารถนำเงินมากระตุ้นการลงทุนและบรรเทาปัญหาการตกต่ำของกำลังซื้อในช่วงนี้ได้ การบริโภคภาครัฐและการลงทุนภาครัฐเสี่ยงหดตัวต่อเนื่องอย่างน้อยก็ช่วงไตรมาสแรกนี้

ในภาวะเช่นนี้คงเหลือเพียงมาตรการทางการเงินในการพยุงเศรษฐกิจ โดยทางคณะกรรมการทางการเงิน (กนง.) ได้เห็นแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.00% ต่อปีในเดือนก.พ.63 สำนักวิจัยฯคาดว่า กนง. มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งสู่ระดับ0.75% ต่อปี ภายใน 3 เดือนข้างหน้า เร็วที่สุดอาจเป็นการประชุมรอบหน้าวันที่ 25 มี.ค. 63 เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ตลาดการเงิน และลดต้นทุนผู้ประกอบการ อีกทั้งคงพยายามให้เงินบาทอ่อนค่าเทียบสกุลอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก เราเชื่อว่าการลดดอกเบี้ยช่วยประคองเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัวแรง แต่ยากที่จะเปลี่ยนทิศเศรษฐกิจขาลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จึงมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะการถดถอยทางเทคนิคในช่วงครึ่งปีแรกนี้ แต่ภาวะนี้ไม่ใช่วิกฤติเศรษฐกิจที่ GDP หดตัวแรงจนเกิดปัญหาต่อสถาบันการเงินหรือภาคธุรกิจจริง เพราะยังเชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีจากงบประมาณที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและจากการคลี่คลายของปัญหาไวรัสโควิด-19 ที่นักท่องเที่ยวและการส่งออกจะกลับมาเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง

ฟื้นเป็นรูปตัว V

ในภาวะความไม่แน่นอนเช่นนี้ประกอบกับยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่ชี้ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 ได้ชัดเจน ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ต้องอาศัยสมมติฐาน การสัมภาษณ์และการสังเกตภาวะตลาดโดยรวมในการประเมินทิศทางเศรษฐกิจ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ตัวเลข GDP ปีนี้ได้บ่อยครั้ง

สำนักวิจัยฯปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลงอีกครั้งจาก 2.3% เหลือ 1.7% จากปัจจัยกดดันเพิ่มเติมคือผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่กระทบการท่องเที่ยวและจะลามมาสู่ภาคการผลิตที่จะหดตัวจากการขาดวัตถุดิบจากจีนอีกทอด
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะการถดถอยทางเทคนิคช่วงครึ่งปีแรก แต่จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเป็นรูปตัว V ในช่วงครึ่งปีหลัง การฟื้นตัวในมุมที่เรามองนี้ ไม่สามารถรอฟ้าฝนให้เป็นใจ จีนหายป่วย การส่งออกและท่องเที่ยวขยายตัวแล้วจะฟื้นได้ แต่ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องสามัคคีกันหาหนทางกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม หาไม่แล้ว เศรษฐกิจไทยอาจฟื้นตัวในรูปตัว U หรือเติบโตทั้งปีนี้ได้เพียง 0.7%

ถึงเวลาฉีดวัคซีนเศรษฐกิจ – วัคซีนโนมิกส์ เมื่อเศรษฐกิจชะลอจากปัจจัยรุมเร้า ในมุมของนักเศรษฐศาสตร์จะช่วยหาทางปรุงวัคซีนเพื่อมาฟื้นฟูและช่วยให้เศรษฐกิจสามารถเลี่ยงภาวะวิกฤติที่อาจจะเกิดได้อย่างไรบ้าง เราขอเสนอวัคซีนวินส์ (WINS)

1. งานแลกเงิน (Workfare) – ภาครัฐอาจเพิ่มเงินโอนด้านสวัสดิการแห่งรัฐหรือการแจกเงินผู้มีรายได้น้อยชั่วคราว ซึ่งจำเป็นในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มภาคเกษตรโดนผลกระทบจากภัยแล้ง คนมีรายได้น้อยกำลังซื้อต่ำ แต่เงินดังกล่าวอาจได้รับการส่งเสริมให้คนเหล่านี้มีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว เช่น การจ้างงานคนในพื้นที่เพื่อสร้างสาธารณูปโภคเพื่อพัฒนาท้องถิ่น โดยให้ค่าจ้างรายวันแลกกับการทำงานเพื่อจะเป็นประโยชน์กับพื้นที่ในระยะยาว เช่น การขุดบ่อในหมู่บ้านเพื่อรับมือภัยแล้งและน้ำท่วม การสร้างถนนเข้าหมู่บ้านเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง หรือ การร่วมกันของคนในหมู่บ้านในการผลิตสินค้าชุมชนเพื่อรัฐจะได้ส่งเสริมช่องทางในการจำหน่าย หรือการต่อยอดสินค้าโอทอป

2. ประคองให้ผ่านวิกฤติ (Inject liquidity) – ในช่วงที่นักท่องเที่ยวหาย ยอดขายตก ผู้ประกอบการมีปัญหาสภาพคล่อง ลูกจ้างถูกลดชั่วโมงทำงานหรือให้พักงานชั่วคราวโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ทางภาครัฐอาจจะหามาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำไปบ้างแล้ว เช่น การให้สินเชื่อพิเศษในลักษณะเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้และมีเงินจ่ายค่าจ้างพนักงาน และอาจครอบคลุมถึงการเสริมสินเชื่อพิเศษให้แก่พนักงานหรือธุรกิจค้าขายอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ นอกจากสินเชื่อ รัฐอาจเพิ่มมาตรการช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนนอกกลุ่มบัตรคนจนด้วย

3. ท่องเที่ยวพลิกโฉม (New Tourism) – ไทยยังพึ่งการท่องเที่ยวได้อยู่ แต่ต้องปรับตัว ที่ผ่านมาประเทศไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวเพียงไม่กี่จังหวัด และเน้นนักท่องเที่ยวจีนมากราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ส่วนชาติยุโรปก็มาเป็นฤดูกาลซึ่งทำให้ธุรกิจเงียบเหงาในช่วงอื่น เราน่าจะใช้โอกาสนี้ปรับตัวสร้างแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ในแต่ละภูมิภาค สร้างตลาดคนไทยให้ท่องเที่ยวในประเทศ ทุกพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้จุดแข็งดึงดูดการท่องเที่ยวเป็นตัวเสริมเพิ่มรายได้ชุมชนนอกจากภาคเกษตร แต่อุปสรรคสำคัญคือความลำบากในการเดินทาง ซึ่งหากพื้นที่แต่ละแห่งสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทาง จัดรูปแบบการท่องเที่ยวแบบกลุ่มให้สะดวก ผมเชื่อว่าจะช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวและช่วยกระจายรายได้ลงพื้นที่ต่างๆ ได้

4. หวังพึ่งมนุษย์เงินเดือน (Salaryman) – เวลานี้เหลือกำลังซื้อระดับกลาง-กลางบน โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยิ่งดูดีๆ อาจมีเพียง 3-4 ล้านคนที่มีกำลังซื้อมากพอจะหวังพึ่งเขาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มนี้คือผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมร่วม 15 ล้านคน (คนที่เหลือในระบบมีรายได้พึงประเมินไม่มากพอจะต้องเสียภาษี) น่าใช้โอกาสนี้ดึงเขามาใช้เงินด้วยการลดอัตราภาษี ไม่ใช่เพียงเพิ่มค่าลดหย่อนในการซื้อสินค้าหรือท่องเที่ยว และอาจทำชั่วคราวในปีนี้

นอกจากตัวยาทั้ง 4 เพื่อผลิตวัคซีนต้านไวรัสแล้ว เราต้องปฏิรูปตัวเอง ผู้ประกอบการหรือผู้ลงทุนควรเตรียมทำอะไรใหม่ๆ ใช้จังหวะนี้มองหาโอกาสในการเพิ่มมูลค่าสินค้า และถึงเวลาเพิ่มประสิทธิภาพตัวเอง เมื่อรายได้หดหาย ก็ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ถึงเวลาที่คนไทยต้องเรียนรู้วินัยทางการเงิน นอกจากนี้ เราน่าจะหาโอกาสเรียนรู้ใช้เครื่องจักร หรือเทคโนโลยีในการทำงาน เพราะนี่คือแนวโน้มการปรับตัวของโลกในระยะยาวอยู่ดี คิดเสียว่าไวรัสทำให้เราต้องปรับตัวเร็วขึ้น อีกทั้งภาวะการชะลอตัวหรือการถดถอยทางเทคนิคก็เป็นสภาวะชั่วคราว ไม่ใช่วิกฤติเศรษฐกิจ อีกสักพักก็จะผ่านพ้นไปได้ ขอเพียงเราใช้เวลานี้รับมือให้ดีแล้วเราจะวิ่งทะยานไปข้างหน้าพร้อมกันในวันที่เศรษฐกิจฟื้นตัว

BizTalk NEWS

Recent Posts

เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่ม 600 ล้านบาท เปิดแคมเปญ ‘Summer Invitation 2025’ จับมือ Snoopy ร่วมฉลอง 45 ปี พร้อมดึง “ฟรีน สโรชา และ เบ็คกี้ รีเบคก้า” เป็น “นางสงกรานต์ของเซ็นทรัลเวิลด์”

เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศเปิดตัวแคมเปญ "Summer Invitation 2025" อย่างเป็นทางการ ด้วยงบประมาณลงทุนกว่า 600 ล้านบาท เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์การท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย จับมือกับ Peanuts Worldwide เพื่อนำ Snoopy…

2 minutes ago

“วีริศ” ผู้ว่าการรถไฟฯ เผย รถไฟความเร็วสูงไทยจีน ระยะ 2 คืบหน้าไปตามขั้นตอน ตั้งเป้าเปลี่ยนภาพลักษณ์ รฟท. เป็นองค์กรที่โปร่งใส

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ระยะที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้การรถไฟฯ ศึกษารูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการ และเสนอขออนุมัติพร้อมกันกับการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้ทบทวนและปรับปรุงสมมติฐานที่ใช้ในการศึกษาให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าไปตามขั้นตอน ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีนระยะที่ 1…

7 hours ago

เอพี ไทยแลนด์ เปิดโครงการใหม่มูลค่า 65,000 ล้านบาทจัดเต็มที่สุดทุกมิติในอุตสาหกรรม

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า บริษัทฯ​ ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” และในปี 2568 นี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีของความท้าทายด้วยปัจจัยต่างๆ…

7 hours ago

กาตาร์ แอร์เวย์ส ติดตั้ง Starlink ลำที่ 30 ปักหมุดให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครื่องบิน

กาตาร์ แอร์เวย์ส ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมการบินอีกครั้ง ด้วยการประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในการติดตั้งบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง Starlink บนเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำที่ 30 ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับให้กับผู้โดยสารทุกคน ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าแผนที่วางไว้ถึง 70% โดยใช้เวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้นนับตั้งแต่การเปิดตัวเที่ยวบินโบอิ้ง…

8 hours ago

SAWAD เผยปี 67 ฟันรายได้ 2.1 หมื่นล้าน เตรียมลุยประกันออนไลน์-ขยายฐานสินเชื่อ พร้อมจ่ายปันผล 27 พ.ค. นี้

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ด้วยผลประกอบการประจำปี 2567 ที่น่าประทับใจ โดยมีรายได้รวมสูงถึง 21,046 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,246…

9 hours ago

จับตาปี 68 อสังหาฯ ไทยระอุ “China+1” ดึงดูดทุนโลก, ออฟฟิศพรีเมียมบูม, โรงแรมหรูโกยไมซ์

เจแอลแอล (JLL) ฟันธง 4 เทรนด์สำคัญ เปลี่ยนโฉมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: "China+1" ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาล, ออฟฟิศพรีเมียมในเมืองฮิต, ปรับปรุงทรัพย์สินเพิ่มมูลค่า, โรงแรมหรูรับทรัพย์ไมซ์ ปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเตรียมพลิกโฉมหน้าครั้งใหญ่!…

11 hours ago