นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ไม่เป็นไปตามแผนแม่บท นั้น ทอท.ขอชี้แจงว่า ทอท.ได้จัดทำแผนแม่บท (Master Plan) ทสภ. ตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งผ่านมา 26 ปีแล้ว
ปัจจุบันสถานการณ์ของอุตสาหกรรมทางการบินได้เปลี่ยนไปมาก ทั้งเชิงคุณภาพได้แก่ ขนาดและคุณสมบัติของเครื่องบิน และเชิงปริมาณ คือ จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ทอท.จึงมีการปรับปรุง Master Plan ใหม่ โดยตามข้อเสนอแนะของ ICAO แผนแม่บทท่าอากาศยานควรปรับปรุงทุกๆ 5 ปี หรือเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญ ทั้งนี้ แผนแม่บทฉบับปัจจุบันยังคงสอดคล้องตาม Master Plan เดิม แต่มีการปรับในสาระสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ (1) ปรับระยะเวลาการก่อสร้างให้สอดคล้องกับความเป็นจริง กล่าวคือ โครงการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1) ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสาร ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ส่วนต่อขยายอุโมงค์เชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เดิมวางแผนที่จะสร้างระหว่างปี 2554 – 2560 แต่เนื่องจากโครงการมีความล่าช้าเกี่ยวกับการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) จึงสามารถเริ่มก่อสร้างได้เมื่อเดือนกันยายน 2559 ทอท.จึงได้ปรับกรอบระยะเวลาการก่อสร้างใหม่เป็นระหว่างปี 2559 – 2563 (2) ในระหว่างที่การก่อสร้างอาคาร Satellite 1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 2 จะแล้วเสร็จในปี 2563 และจะมีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (Satellite 2) ต่อเนื่องไปทางทิศใต้ระหว่างปี 2564 – 2569 ตามโครงการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 4 นั้น เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวนผู้โดยสารของ ทสภ. จะเกินศักยภาพที่ ทสภ.รองรับได้
ดังนั้น ทอท.จึงต้องหาพื้นที่เพื่อขยายศักยภาพของ ทสภ.คู่ขนานกันไป โดยไม่ต้องรอการก่อสร้างอาคาร Satellite 1 แล้วเสร็จ อันนำมาซึ่งการเพิ่มการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Terminal 2) เพิ่มเติมในโครงการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 3 ตาม Master Plan ปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามที่ ICAO และ IATA ได้ดำเนินการศึกษาไว้ในการจัดทำแผนแม่บท เมื่อปี 2554 สำหรับงานก่อสร้างอาคาร Satellite 1 และส่วนต่อขยายทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก ทิศใดทิศหนึ่ง จะช่วยเพิ่มศักยภาพของ ทสภ. ขี้นอีก 15 ล้านคนต่อปี โดยใช้กรอบวงเงินงบประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท ในขณะที่การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะใช้กรอบวงเงินงบประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 30 ล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทั้ง 2 ฝั่ง จะช่วยเพิ่มศักยภาพได้อีกฝั่งละ 15 ล้านคน แต่การก่อสร้างส่วนต่อขยายทั้ง 2 ฝั่งพร้อมกันนั้น จะทำให้เสียพื้นที่บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินไปราวครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการอย่างมากและเป็นระยะเวลายาวนาน
นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ทสภ.รองรับผู้โดยสารประมาณปีละ 60 ล้านคน ซึ่งเกินศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารที่ 45 ล้านคนต่อปี และคาดว่าเมื่อโครงการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 2 แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการในปี 2563 จะทำให้ศักยภาพ ทสภ.ในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี ซึ่ง ณ ขณะนั้น คาดว่าจะมีผู้โดยสารมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 70 ล้านคนต่อปี และหาก ทอท.ยังคงใช้ Master Plan เดิม ซึ่งจะก่อสร้างอาคาร Satellite 2 และส่วนต่อขยายอาคารหลักที่เหลืออีกด้านหนึ่งแล้วเสร็จในปี 2569 ซึ่งก่อนที่จะสร้างแล้วเสร็จตาม Master Plan เดิมนั้น จะมีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการ ทสภ.ประมาณ 100 ล้านคน ในขณะที่ ทสภ.มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้เพียง 60 ล้านคนเท่านั้น ดังนั้น หาก ทอท.ไม่ปรับ Master Plan ใหม่โดยเพิ่มอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ตามคำแนะนำของ ICAO เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการผู้โดยสารแล้วจะต้องประสบปัญหาความแออัดที่จะต้องดำเนินการแก้ไขไปตลอด
ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ต่างๆ และหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบันก็คือ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ที่เกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2012 พวกเขาเติบโตมากับโลกดิจิทัล มีมุมมองที่แตกต่าง และให้ความสำคัญกับคุณค่าที่หลากหลาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึง Gen Z…
"ฟอร์ติเน็ต" เผยรายงานช่องว่างด้านทักษะไซเบอร์ ชี้ 92% ขององค์กรในไทยเผชิญภัยคุกคามจากปัญหาขาดแคลนบุคลากร แนะ 3 แนวทางรับมือ ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน สร้าง "กองทัพไซเบอร์" ปกป้องเศรษฐกิจดิจิทัล ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยรายงานช่องว่างด้านทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกประจำปี 2024…
FUJIFILM Business Innovation (Thailand) Co., Ltd., a leading provider of office solutions and innovative printing…
FUJIFILM Business Innovation ผู้ให้บริการโซลูชันสำนักงานและเครื่องพิมพ์ ประกาศทิศทางกลยุทธ์ไตรมาส 3 ปี 2024 ภายใต้แนวคิด "Make a Leap to the New…
Solar D เปิดตัว “หุ่นยนต์ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์” นวัตกรรมสุดล้ำ Light Speed ติดตั้งเร็วกว่าแรงงานคนถึง 10 เท่า! ชูจุดเด่นลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ หนุนเป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2569…
วันนี้ (26 พฤศจิกายน 2567) นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม…