ธนาคารโลกเตือนสงครามการค้ากระเทือนประเทศกำลังพัฒนา

ธนาคารโลก เตือนสงครามการค้ากระเทือนการเติบโตเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โตต่ำที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังเชื่อว่า พื้นฐานเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก ยังแกร่ง แม้เศรษฐกิจโลกจะผันผวนมากขึ้น

นางวิคตอเรีย กวากวา รองประธานธนาคารโลก ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก ฉบับล่าสุด ประจำเดือนตุลาคม 2561 โดยชี้ว่า ภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจประเทศกลุ่มกำลังพัฒนายังเป็นบวก ที่ 6.3 % อย่างไรก็ตามถือเป็นระดับการเติบโตที่ลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ในปีก่อน เนื่องจากผลกระทบ หลายประการ ทั้งความตึงเครียดทางการค้า การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า

ทั้งนี้นโยบายกีดกันการค้า และความผันผวนของตลาดเงิน กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะกลาง และจะส่งผลต่อกลุ่มคนยากจนที่สุด และกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นผู้ที่กำหนดนโยบายจึงควรระมัดระวัง เตรียมความพร้อม และสร้างความยืดหยุ่นล่วงหน้า เพื่อให้ประเทศสามารถรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจให้ได้

โดยส่วนของไทยปีนี้น่าจะเติบโตได้ดีที่ 4.5 % สูงกว่าเดิมที่เคยคาดไว้ในเดือนเมษายน ที่ 4.1 % แต่ในปี 2562-2563 น่าจะมีการเติบโตลดลงเหลือ 3.9 % เนื่องจากการบริโภค และการจับจ่ายใช้สอยในประเทศเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถชดเชย การชะลอตัวของการส่งออก ที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าได้ ซึ่งน่าจะส่งผลชัดในปีหน้า

ด้านนางชูเดียร์ แชตตี้ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ชี้ว่าประเทศกำลังพัฒนาต้องใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาค ด้านการกำกับดูแล และด้านโครงสร้าง เพื่อรับมือปัจจัยลบ ทั้งการลดความผันผวนของค่าเงินตลาดทุน และตลาดเงิน ตลอดจนใช้นโยบายการคลังที่เข้มงวดดูแลระดับหนี้สาธารณะให้มีความยั่งยืน

เน้นเปิดระบบการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศตามกฎเกณฑ์เป็นสองเท่า รวมถึงรวมตัวเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคให้มากกว่าเดิม

การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและเปิดเสรีในภาคส่วนที่สำคัญเช่นการช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่กระตุ้นขีดความสามารถทางการแข่งขันและกระตุ้นผู้ประกอบการในประเทศให้แข่งขันกับต่างชาติ

Scroll to Top