ธ.ก.ส. ประกันภัยข้าวนาปี61 ลดความเสี่ยงภัยธรรมชาติให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ค่าเบี้ยประกัน 90 บาทต่อไร่ทุกพื้นที่

ธ.ก.ส. เดินหน้าโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 ตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ค่าเบี้ยประกัน 90 บาทต่อไร่ทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ เป้าหมาย 30 ล้านไร่ โดยรัฐบาลช่วยอุดหนุน 54 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่ายเอง 36 บาทต่อไร่ พิเศษ สำหรับลูกค้า ธ.ก.ส.จ่ายค่าเบี้ยให้ เพื่อส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกัน

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนผู้เพาะปลูกข้าวหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร(ทบก.)กับกรมส่งเสริมการเกษตร ปีการผลิต 2561/62 ให้ได้รับการคุ้มครองและลดความเสี่ยงจากปัญหาภัยธรรมชาติ อันเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลในระยะยาว กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 30 ล้านไร่ แบ่งเป็นเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. จำนวน 29 ล้านไร่ และเกษตรกรทั่วไป 1 ล้านไร่ ค่าเบี้ยประกันในอัตรา 90 บาท/ไร่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยคุ้มครองความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ 6 ประเภท ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้งฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ และไฟไหม้ วงเงินคุ้มครอง 1,260 บาท/ไร่ กรณีเสียหายจากภัยศัตรูพืชและโรคระบาด วงเงินคุ้มครอง 630 บาท/ไร่ ทั้งนี้ รัฐบาลให้การอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยกับเกษตรกรในอัตรา 54 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 36 บาท/ไร่

นายอภิรมย์กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. มีความเข้าใจในเรื่องการทำประกันภัยและสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างทั่วถึง ธ.ก.ส. จึงพร้อมรับภาระจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยในอัตรา 36 บาทต่อไร่สำหรับลูกค้าที่กู้เงินกับ ธ.ก.ส. ส่วนการประเมินความเสียหายเป็นไปตามหลักเกณฑ์การประกาศภัยของทางราชการ กรณีพื้นที่เอาประกันภัยเสียหายแต่ไม่อยู่ในเกณฑ์การประกาศภัยของทางราชการ มีคณะกรรมการประเมินความเสียหายรายแปลง ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรที่ประสบความเสียหายได้รับประโยชน์จากการทำประกันภัยมากที่สุด

สำหรับเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ธ.ก.ส. call center 02 555 0555 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ยกเว้นพื้นที่ภาคใต้เกษตรกรสามารถขอเอาประกันภัยได้ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2561

Related Posts

Scroll to Top