นักวิเคราะห์ชี้ตุรกีกำลังเผชิญปัญหาเหมือนไทยในยุคปี 40

นักวิเคราะห์ชี้ ตุรกีกำลังจะเจอปัญหาเหมือนไทยเมื่อยุควิกฤตต้มยำกุ้ง หลังหนี้ต่างประเทศสูงขณะที่ค่าเงินดิ่งกว่า 40% แนะจับตาการผิดนัดชำระหนี้ และหนี้เสียที่อาจเกิดขึ้นในธนาคารยุโรป

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุหลังประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก, อะลูมิเนียม จากตุรกีเพิ่มเป็น 50% 20% ตามลำดับ จนกดดันให้ค่าเงิน Lira อ่อนค่าเป็นประวัติการณ์ลงกว่า 40 % ทำให้ขณะนี้นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกต่างชี้ว่า ตุรกีกำลังเผชิญกับ “วิกฤตทางการเงิน” คล้ายประเทศไทยเมื่อ 20 ปีก่อน

นั่นเพราะปัจจุบันหลายบริษัทในตุรกีมีการกู้ยืมเป็นสกุลเงินต่างประเทศ กว่า 70 % เป็นดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เจ้าหนี้เป็นหลายธนาคารชื่อดังในยุโรป โดยการอ่อนค่าของเงิน Lira มากระดับนี้ จะส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืม และชำระหนี้สูงขึ้นมาก หลังจากนี้จะต้องจับตาการผิดนัดชำระหนี้ และการเกิดหนี้เสีย หรือ NPL ของธนาคารชั้นนำในยุโรป ทั้งใน อิตาลี,สเปน,ฝรั่งเศส ที่เป็นเจ้าหนี้ตุรกี

 

ปัจจัยดังกล่าวถือเป็น Sentiment ลบต่อการลงทุน อีกทั้งเรื่องสหรัฐ-จีน ที่เตรียมขึ้นวงเงินภาษีเป็น 2 แสนล้าน และ 6 หมื่นล้าน จะเพิ่มความกดดันผ่านการอ่อนค่า ของค่าเงินในเอเชีย และตลาดเกิดใหม่

โดยฝ่ายวิเคราะห์เมย์แบงก์ แนะนำว่าในช่วงครึ่งเดือนหลัง ต้องเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน โดยคาดว่ากรอบการลงทุนหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,680-1,705 จุด

Related Posts

Scroll to Top