พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อม ครม. แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ออกมาตรการรับมือโควิด-19 โดยยืนยันสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เข้าสู่การระบาดระยะที่3 แต่มีแนวโน้มกระจายมากขึ้น
ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ได้ เสนอ ให้ ครม. ออกมาตรการ 6 ด้าน โดยยืนยันไม่มีการปิดเมืองหรือปิดประเทศ
โดยแบ่งออกเป็น ด้านสาธารณสุข มีการป้องกันเเละสะกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งชาวต่างชาติที่เดินทางจากพื้นที่เขตติดโรคติดต่ออันตราย 4 ประเทศ และ2 เขตปกครองพิเศษ ต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน มีประกันสุขภาพ และยินยอมให้ใช้แอปพลิเคชั่นของรัฐติดตาม
โดยมาตรการนี้จะใช้กับการเดินทางเข้าประเทศทุกทางทั้ง ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และตม.จะต้องดูประเทศสุดท้ายก่อนเดินทางเข้าเมืองว่า เป็นเขตติดโรคหรือไม่ และแจ้งกระทรวงมหาดไทย โดยจะมีการกักกันคุมตัว ไว้ดูอาการ 14 วัน ซึ่งจะรวมถึงการเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดต่อเนื่องที่ยังไม่ประกาศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย และห้ามข้าราชการ พนักงานรัฐ วิสาหกิจ เดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น พร้อมแนะนำให้คนไทยที่พำนักในต่างประเทศชะลอการเดินทางกลับไทย จนกว่าสถานการณ์ระบาดในไทยจะดีขึ้น
ด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน จะเร่งผลิตหน้ากากอนามัย และส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปใช้หน้ากากผ้าและจะนำหน้ากากอนามัยของกลางที่ยึดได้มากระจายให้ประชาชน จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอสำหรับรับมือระยะที 3
ด้านข้อมูลต้องมาจาก 2 แหล่ง คือ สธ. และ ศูนย์โควิด-19 ด้านต่างประเทศตั้งทีมไทยแลนด์เพื่อดูแลคนไทยในต่างประเทศ
ด้านมาตรการป้องกันปิดสถานที่ ที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นที่อาจติดเชื้อได้ง่ายแม้จะป้องกันแล้ว เช่น มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชาทุกสถาบัน ให้ปิดชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค.63 เป็นเวลา 2 สัปดาห์
ส่วนสนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ปิดชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาบ ขณะสถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ โรงหนัง ในพื้นที่ กทม.ปิด 14 วัน
ส่วนการจัดคอนเสิร์ต การแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรงติดต่อจังหวัด พิจารณาให้ความเห็นชอบ
สำหรับสถานที่ ที่มีประชาชนไปใช้บริการ เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ให้ดำเนินการตามมาตราการ ป้องกันที่กระทรวงสาธาณสุขกำหนด ขณะเดียวกันเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ ให้เลื่อนวันสงกรานต์ 13-15 มี.ค.63 ออกไปก่อน และชดเชยช่วงเวลาที่เหมาะสม เพิ่มความถี่ของการเดินรถขนส่งสาธารณะในประเทศ เพื่อลดความแออัด ป้องกันการแพร่ระบาด งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด เช่น ค่ายทหาร เรือนจำ หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ต้องมีมาตราการป้องกัน การแพร่ของโรค รวมถึงจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
พร้อมกันนี้ ให้หน่วยงาน พิจารณามาตราการเหลื่อมเวลาทำงาน โดยให้ทำงานที่บ้าน และให้หน่วยงานราชการ ทำแผนงานเสนอศูนย์โควิด-19
ด้านมาตราการเยียวยา ได้เสนอให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมจากเจ้าของกิจการ โรงงาน ช่วยเหลือการลดราคาห้องพัก ธุรกิจโรงแรม และในสัปดาห์หน้ากระทรวง ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา หามาตราการ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…
China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…
AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…
ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…
ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…
ยุคสมัยที่โรงแรมเป็นเพียง "ที่นอน" ได้ลาจากไปแล้ว! นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ที่มากกว่าการพักผ่อน พวกเขาต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และใส่ใจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เทรนด์ "Conscious Travel" หรือการเดินทางอย่างมีสติกำลังมาแรง สะท้อนผ่านพฤติกรรมการพักผ่อนที่ยาวนานขึ้นในโรงแรม พร้อมแสวงหาประสบการณ์สุดพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล เจาะลึกเทรนด์นักท่องเที่ยว จากรายงาน Changing…