Categories: EnergyNews Update

บางจากฯ เผยผลการดำเนินงานปี 2564 EBITDA กว่า 25,000 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 20 ปี รับผลดีจากการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำที่นอร์เวย์ (OKEA)

กลุ่มบางจากฯ รายงานผลการดำเนินงานปี 2564 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 199,417 ล้านบาท EBITDA 25,818 ล้านบาท กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 7,624 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.25 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี รับผลดีจากการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำอย่างธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติที่นอร์เวย์ (OKEA) ตลอดจนกระบวนการ Business Process Redesign (BPR) เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2553 ที่ช่วยเพิ่ม EBITDA ให้กับกลุ่มบริษัทฯ มากกว่า 1,600 ล้านบาทในปี 2564 พร้อมเร่งลงทุนในนวัตกรรมสีเขียวเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่องค์กรยั่งยืน ช่วยนำพาโลกสู่เป้าหมาย Net Zero ภายใต้เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) ในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2050 ของกลุ่มบริษัทฯ

Aerial view of Petroleum’s oil refinery in industrial engineering concept. Oil and gas tanks industry at sunset. Modern factory

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจากฯ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของในปี 2564 ว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและยาวนานตลอดทั้งปี บางจากฯ และบริษัทย่อย สามารถสร้างผลดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 199,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 จากปี 2563 คิดเป็น EBITDA 25,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 529 จากปี 2563 และกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 7,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,591 ล้านบาทจากปี 2563 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.25 บาท นับเป็นผลการดำเนินงานที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี นับจากปี 2544 เป็นต้นมา
สำหรับรายได้จากการขายและการให้บริการเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2564 มียอดรวม 66,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลกส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันเกิดขึ้น และสถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายประเทศเริ่มคลี่คลายลง
โดยผลการดำเนินงานในปี 2564 ของแต่ละกลุ่มธุรกิจมีดังนี้
กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผลการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้น 11,532 ล้านบาทจากปี 2563 โดยหลักมาจากในปี 2564 มี Inventory Gain 5,966 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2563 มี Inventory Loss และค่าการกลั่นพื้นฐานอยู่ที่ 4.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปี 2564 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน 1.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ UCO (Unconverted Oil) ซึ่งช่วยหนุนค่าการกลั่นและลดผลกระทบจากความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ปรับลดลงแม้ในไตรมาส 1 มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามวาระ แต่สามารถทำให้มีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 99,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 83% ของกำลังการผลิตรวมของโรงกลั่น และปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ UCO ปรับเพิ่มเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน
กลุ่มธุรกิจการตลาด ผลการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปี 2563 โดยหลักมาจากในปี 2564 มี Inventory Gain จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรวมของธุรกิจการตลาดปรับลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันใสผ่านสถานีบริการน้ำมันในอันดับ 2 ตามข้อมูลของกรมธุรกิจพลังงาน (16.2%) โดย ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนสถานีบริการน้ำมัน 1,277 สถานี
กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นร้อยละ 15 จากปี 2563 โดยหลักมาจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าโดยรวมเพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในประเทศไทยใหม่ 4 โครงการและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam San B ใน สปป.ลาว ที่รับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประเทศอินโดนีเซีย 577 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 344 ล้านบาท เนื่องจากอัตราค่าไฟเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มีการรับรู้กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานยังคงใกล้เคียงกับปีก่อน แม้จะได้รับผลกระทบจากธุรกิจไบโอดีเซลที่ปริมาณการจำหน่ายปรับลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 และมาตการการปรับลดสัดส่วนการผสม B100 เพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ และธุรกิจเอทานอลที่มีความต้องการใช้ปรับลดลง
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีผลการดำเนินงานในปี 2564 มี EBITDA เพิ่มขึ้น 9,254 ล้านบาทเทียบจากปี 2563 โดยหลักมาจากการที่ในปี 2564 กลุ่มบริษัทฯ เปลี่ยนวิธีการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย เปลี่ยนวิธีการรับรู้ผลการดำเนินงานจากวิธีรับรู้ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) เป็นวิธีการจัดทำงบการเงินรวมตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 มีการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนใน BCPE (สุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยน) ประมาณ 120 ล้านบาท ส่งผลให้ปีนี้กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติมี EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 464 เทียบจากปี 2563 จากความต้องการสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวของยุโรป และการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ในขณะที่ยุโรปมีปริมาณก๊าซในคลังสำรองอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ OKEA มีรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันและก๊าซสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการลงทุนใน OKEA นี้สร้างรายได้จากการขายและการให้บริการคิดเป็นร้อยละ 16 ของรายได้จากการขายและการให้บริการส่วนที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ของกลุ่มบริษัท ในขณะที่ EBITDA ของ OKEA คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของ EBITDA ของกลุ่มบริษัทโดยรวม
สำหรับผลกำไรของไตรมาส 4 ปี 2564 นั้น สถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางของประชาชนในประเทศฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มี EBITDA 9,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 1,756 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.20 บาท ภายหลังความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ปรับลดลงมาโดยตลอดก่อนหน้านี้เริ่มกลับมา ส่งผลให้ยอดจำหน่ายผ่านตลาดค้าปลีกเดือนธันวาคม 2564 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 432 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งเป็นปีแรกที่ยอดขายสูงกว่ากำลังการกลั่นของโรงกลั่นบางจาก นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจตลาดผลักดันยอดขายน้ำมันเครื่องอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปในประเทศของบริษัทฯ เพิ่มเป็นร้อยละ 9.9 จาก 9.4 ในปีก่อน และธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลก็สามารถทำยอดจำหน่ายแก้วขายต่อวัน New High ได้เช่นกันในเดือนธันวาคม
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ไม่เพียงแต่ปัจจัยตามสภาวะตลาดเท่านั้นที่หนุนให้รายได้จากการขายและให้บริการดีขึ้น แต่ความสามารถในปรับตัวและเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายในมีส่วนสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำไรในกลุ่มบางจากฯ อย่างการจัดทำ Business Process Redesign (BPR) เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย โดยมีทั้งโครงการที่ทำมาต่อเนื่องและโครงการที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งช่วยเพิ่ม EBITDA ให้กับกลุ่มบริษัทฯ มากกว่า 1,600 ล้านบาทในปี 2564 รวมถึงการเร่งผลักดันผลิตภัณฑ์ UCO เพื่อขายทดแทนน้ำมันเครื่องบินที่หยุดชะงัก สะท้อนถึงการปรับตัวภายใต้วิกฤตและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2565 กลุ่มบางจากฯ ตั้งเป้าเดินหน้าขยายธุรกิจโดยมุ่งเน้นการลงทุนโดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสีเขียวเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) ในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2050 โดยในปีนี้ บางจากฯ ได้รับ S&P Global Sustainability Award 2022 ระดับ Silver Class เป็นอันดับ Top 3 ของโลก จากการประเมินโดย S&P Global ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI ตอกย้ำแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งครอบคลุมไปถึงการดำเนินธุรกิจสีเขียวผ่านบริษัทในกลุ่มอย่าง BCPG และ BBGI โดย BBGI ที่มีแผนยุทธศาสตร์รุกธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง พร้อมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 17 มีนาคม 2565 นี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 อนุมัติให้นำเสนอจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลังของปี 2564 ในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น จะรวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายในปี 2564 ในอัตรา 2 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวมประมาณ 2,715 ล้านบาท โดยวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลเป็นวันที่ 3 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 เมษายน 2565

BizTalk NEWS

Recent Posts

AI+Robotic สู่เทคโนโลยี Humanoid Robot ก้าวข้ามขีดจำกัดโลกของหุ่นยนต์ที่เราเคยรู้จัก

จากภาพจำของแขนกลในโรงงาน หรือหุ่นยนต์ส่งของในคลังสินค้า สู่ระบบอัจฉริยะที่สามารถรับรู้ เรียนรู้ วางแผน และลงมือกระทำได้อย่างอิสระ เตรียมพบกับยุคใหม่ของ AI ผสาน Robotic กำเนิดเป็น Humanoid Robot ที่พร้อมแทรกซึมทุกองคาพยพของชีวิต ตั้งแต่ห้องผ่าตัด…

10 hours ago

จากผู้นำสู่ผู้ตาม! Intel เผชิญหน้าวิกฤติครั้งใหญ่ อาจต้องขายกิจการบางส่วนเพื่อความอยู่รอด

Intel เคยเป็นชื่อที่ใครๆ ก็รู้จักในวงการเทคโนโลยี เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของนวัตกรรมและความก้าวหน้า แต่ในปัจจุบัน Intel กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของบริษัทอย่างรุนแรง จุดเริ่มต้นของวิกฤติ Intel เคยครองตลาดชิป CPU สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) มายาวนาน…

10 hours ago

5G-Advanced ก้าวกระโดดแห่งเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย สู่ยุคแห่งการเชื่อมต่ออัจฉริยะ

โลกกำลังหมุนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยี 5G ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอนาคต กำลังจะกลายเป็นอดีต เมื่อ 5G-Advanced หรือ 5.5G คือวิวัฒนาการขั้นต่อไปของเทคโนโลยี 5G เป็นบันไดสำคัญที่เชื่อมโยง 5G สู่ 6G…

11 hours ago

Dusit Central Park เดินหน้าสู่แลนด์มาร์กระดับโลก เตรียมเปิดเฟสใหม่ปี 68

บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างโครงการ Dusit Central Park แล้วเสร็จกว่า 70% โดยในปี 2568…

11 hours ago

ก้าวสู่ยุค 5G-Advanced! China Unicom จับมือ Huawei เปิดตัวเครือข่ายอัจฉริยะเต็มรูปแบบครั้งแรกของโลก

กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน - ไชน่า ยูนิคอม ปักกิ่ง (China Unicom Beijing) และ หัวเว่ย (Huawei) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการโทรคมนาคม ด้วยการเปิดตัวเครือข่ายอัจฉริยะ 5G-Advanced…

11 hours ago

Honda เดินหน้าเต็มสูบ! ชูไฮไลต์ “HR-V e:HEV ใหม่” พร้อมทัพรถยนต์ครบครันในงาน Motor Expo 2024

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเดินหน้าเต็มกำลัง ส่งท้ายปี 2567 ด้วยการขนทัพรถยนต์ครบครันทุกไลน์อัปเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 (The 41st Thailand International Motor…

12 hours ago