บีทีเอส ร่วมหารือ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เข้าหารือ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อร่วมตรวจสอบกรณีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) วันที่ 28 ส.ค. 2563 ได้ทราบมติของคณะกรรมการตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชนเป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการฯ โดยให้นำคะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคมาเป็นเกณฑ์ประเมินรวมกับการเงิน ในสัดส่วนด้านเทคนิค 30 คะแนน และด้านการเงิน 70 คะแนน จากเดิมที่มีการพิจารณาเฉพาะข้อเสนอด้านการเงิน หากเอกชนรายใดเสนอราคาต่ำสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่ให้โอกาสมาแลกเปลี่ยนความรู้ และขอบคุณ พี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความสนใจเรื่องนี้ วันนี้ที่ทางบีทีเอสได้มาพบองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อปรึกษา และร่วมกันตรวจสอบการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

“ ประเด็นหลักคือขายซองไปแล้ว และมีการปรับเปลี่ยนทีโออาร์สาระสำคัญหรือการประเมินผู้เสนอ บีทีเอสมองว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องยื่นศาลปกครองในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ใช้กติกาในการประเมินอย่างเดิม เพราะกติกาเดิมเรามองว่าเป็นกติกาที่โปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งเป็นกติกาที่ใช้ในโครงการอื่นมาตลอด โดยบีทีเอสก็เป็นหนึ่งผู้เข้าร่วมการประมูลมาตลอดเช่นกัน และโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ใช้การประมูล โดยการให้คะแนนเทคนิคมารวมกับราคา ประเด็นนั้นบีทีเอสมองว่าขึ้นอยู่กับวิธีการให้คะแนน พอรวมกับคะแนนเทคนิคก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจค่อนข้างเยอะอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันครบกำหนดที่ จะต้องมีการยื่นซองประมูลแล้ว อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่ทันได้” นายสุรพงษ์ กล่าว

​ด้าน ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ไม่ได้มีอำนาจทางกฎหมายที่จะเข้าไปดำเนินการเรื่องนี้โดยตรง แต่เราให้ความสนใจในเรื่องของความโปร่งใสในการดำเนินการประมูลโครงการต่างๆ ของรัฐซึ่งโครงการที่เกี่ยวกับการประมูลเมกะโปรเจคต์ต่างๆ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันก็ได้มีส่วนร่วมมาหลายโครงการสำหรับโครงการนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีผลประโยชน์สูงสุด ในบรรดาเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นๆ เมื่อมีการปรับเปลี่ยนกติกา เราจำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้

ดร.มานะ กล่าวต่อว่า “สำหรับรถไฟฟ้าที่ผ่านมา 3 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ทั้ง 3โครงการนี้รัฐบาลกำหนดให้ใช้ข้อตกลงคุณธรรมในการประมูลและสร้างความโปร่งใส ถ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รัฐบาลประกาศใช้ข้อตกลงคุณธรรมเช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ โดยให้ประชาชนเข้ามาเป็นตัวกลาง ร่วมรู้เห็นเพื่อสร้างความโปร่งใส และเป็นธรรมอันนี้ก็จะช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติได้เป็นอย่างมาก”

Scroll to Top