กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เยี่ยมชมพื้นที่นำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก บริษัท โรงไฟฟ้าชุมชนนาบอน จำกัด (โรงไฟฟ้าชุมชนขุนตาลรุ่งเรือง) และวิสาหกิจชุมชนปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อจำหน่ายและเลี้ยงสัตว์ในการผลิตไฟฟ้าแก๊สชีวภาพ
ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า พพ.ได้ดำเนินโครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ตามนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนให้บรรลุเป้าหมายตามแผนส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชุมชน วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจข้อมูลองค์ความรู้และผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากชุมชน จึงได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร และกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับวิสาหกิจชุมชน พื้นที่รอบโรงไฟฟ้าในแต่ละภูมิภาค
–หัวเว่ย เปิดตัว Huawei FusionSolar Residential Smart PV ส่งเสริมพลังงานสะอาดในประเทศไทย
–realme เปิดตัวแฟล็กชิป GT 2 SERIES นำเสนอนวัตกรรมกระดาษสู่วงการสมาร์ทโฟนเพื่อโลกยั่งยืน
สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในภาคเหนือจังหวัดเชียงราย โดย พพ.ได้นำคณะสื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้าเยี่ยมชมพื้นที่นำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากพร้อมพบปะพูดคุยกับประธานวิสาหกิจชุมชน,กรรมการวิสาหกิจชุมชน,ชุมชนและสมาชิกปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อจำหน่ายและเลี้ยงสัตว์ และตัวแทนโรงไฟฟ้าชุมชนกลุ่มบริษัท ACE ในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้จัดกิจกรรมเสวนา และนิทรรศการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับวิสาหกิจชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพลังงาน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่ช่วยให้ชุมชนมีรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าและลดภาระค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน ซึ่งภายในงานมีการเสวนาสร้างความรู้ความเข้าใจ “โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก” จากผู้เกี่ยวข้อง อาทิ โรงไฟฟ้าชุมชนในพื้นที่,ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต1(เชียงใหม่) โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน
ดร.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า โครงการนำร่อง โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก มีเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้ารวม 150 เมกะวัตต์ โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่ได้จากการปลูกไม้โตเร็ว และก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 16 โครงการ และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 27 โครงการ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 149.50 เมกะวัตต์ กระจายทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมีค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย
หญ้าเนเปียร์ พืชพลังงาน
สำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล ใน จ.เชียงราย ครั้งนี้นั้น จะใช้หญ้าเนเปียร์ ในการผลิตไฟฟ้า (พันธุ์ที่ใช้ในพื้นที่ จ.เชียงราย จะเป็นพันธุ์ ปากช่อง 1) เพราะมีต้นทุนการผลิตต่ำ ใช้น้ำน้อย และไม่ต้องใช้สารเคมี มีโอกาสได้ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 6-10 ตัน โดยใช้เวลาเก็บเกี่ยวต่อรอบอยู่ที่ 2-3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และ 1 ท่อนพันธุ์ สามารถปลูกได้ประมาณ 7-8 ปี
ซึ่งทางบริษัท ACE จะรับซื้อในราคาที่ 550-850 บาทต่อตัน (ขึ้นอยู่กับค่าความชื้น) ส่วนถ้าให้โรงงานไฟฟ้ามารับถึงที่ จะอยู่ที่ราคา 300 บาทต่อตัน
ด้านโรงงานไฟฟ้าที่ ACE รับผิดชอบนั้น จะมีพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ 9 โรงงาน และมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเเป็นแปลงทดสอบาำหรับให้เกษตรกรเข้ามาดูงานได้ ต้องการหญ้าเนเปียร์ 120 ตัน ต่อการผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ และผลิตได้สูงสุดต่อวันประมาณ 28 เมกะวัตต์ มีแนวโน้มจะส้างเสร็จภายในปี พ.ศ. 2567