นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงงานสัมมนา หัวข้อ “แนวทางการจัดตั้งกองทุน FTA” เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ว่า ปัจจุบันประเทศไทย ได้ทำความตกลงการค้าเสรี 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งกลุ่มที่แข็งแรงแข่งขันได้ก็จะได้รับประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มที่มีศักยภาพน้อย ที่ได้รับผลกระทบและยังต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเฉพาะในภาคการเกษตร และ เอสเอ็มอี เพื่อเยียวยาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการให้มากขึ้น
ที่ผ่านมากองทุน FTA ต้องใช้เงินงบประมาณเป็นรายปี เพื่อเป็นกลไกช่วยเหลือตามที่ได้รับการร้องขอจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ / ขณะที่กองทุนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเยียวยากลุ่มเกษตรกรก่อนหน้านี้ก็อาจไม่ตอบโจทย์ ขณะเดียวกันพบว่ารัฐมีกองทุนช่วยเหลือภาคเกษตร และ เอสเอ็มอี จำนวนมาก เพียงแต่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอ
ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอ โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ไปศึกษาว่าจะดำเนินการกองทุนอย่างไร กรมเจรจาจึงให้หน่วยงานภายนอกมาศึกษาวิจัยเรื่องนี้ ซึ่งหากผลสรุปออกมาเห็นควรให้มีการพัฒนากองทุน ก็จะดำเนินการเสนอกระทรวงการคลังเพื่อขอเงินงบประมาณ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการวางกรอบวงเงินที่ชัดเจน แต่ที่สำคัญคือต้องการให้มีการยกร่างกฎหมายกองทุนเอฟทีเอ ขึ้นมารองรับ รวมถึงรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ควบคู่กับการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในพฤศจิกายนนี้