พาณิชย์เรียกเอกชนประเมินสถานการณ์ส่งออกวันนี้ หลังเผชิญผลกระทบรอบด้าน “บาทแข็ง-สหรัฐส่อ ขึ้นภาษีนำเข้า”เพิ่ม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ลงนามบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษี นำเข้าแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) และเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่สำหรับที่ใช้ใน ที่พักอาศัย มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.2561 เพื่อปกป้องผู้ผลิตสินค้าในสหรัฐ
ประเด็นดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายประเมิน ว่า จะกลายเป็น”ชนวน” ทำให้เกิดโลกเกิด”สงครามการค้า” ระลอกใหม่ ด้วยการดำเนินมาตรการนี้กับสินค้าอื่นๆ โดยสหรัฐซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของโลก เป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทยรองจากจีน คิดเป็นสัดส่วน 11% ของมูลค่าส่งออกรวม กดดันด้วย ค่าเงินบาทที่แข็งค่าในรอบ 5 ปี
โดยภาคธุรกิจไทย กังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าในปีนี้ ที่กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์การเติบโตไว้ที่ 5.5% โตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่ส่งออกเติบโตสูงถึง 9.9 % สูงสุดในรอบ 6 ปี ฉุด การเติบโตของภาพรวมเศรษฐกิจ ที่พึ่งพา รายได้จากการส่งออกมากถึง 60% ของอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าระหว่างประเทศ ติดตามสถานการณ์การค้าโลกที่เกิดขึ้น ทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่า และการที่สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ว่า จะกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไร แม้เรื่องดังกล่าวกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีหน้าที่ติดตามอยู่แล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ก็ต้องประเมินสถานการณ์ไปพร้อมกันด้วย
สำหรับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า มองว่า จะส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตร ค่อนข้างมาก จึงต้องหารือไปพร้อมกับ เตรียมหามาตรการบริหารจัดการเพื่อ ตั้งรับมาตรการทางการค้าของสหรัฐ
โดยในวันนี้ (26 ม.ค.) กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับภาคเอกชน ผู้ส่งออกในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์การส่งออกปีนี้ จากผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้น และในเร็วๆนี้จะเรียกทูตพาณิชย์ 63 แห่งทั่วโลก มาร่วมกันประเมินสถานการณ์ส่งออกปีนี้ จากปัญหาการค้าที่เกิดขึ้น
สรท.หวั่นบาทแข็งป่วนเป้าส่งออก
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธาน ผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก มองปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกปีนี้ว่า ที่เริ่มมีมากขึ้นทั้งการแข็งค่าของค่าเงินบาท และมาตรการปกป้องตลาดที่เริ่มเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ต้องประเมินสถานการณ์แบบติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางสรท.จะประชุมหารือกันในคณะกรรมการถึง ผลกระทบต่อเป้าหมายการส่งออกในปี 2561 ไว้ตั้งไว้ที่ 5.5%
“การแข็งค่าของค่าเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าในรอบ 3 ปี ต้องประเมินสถานการณ์ เพราะไทย เริ่มติดอันดับต้นๆ ที่แข็งค่าที่สุดอันดับ 2 อาเซียน และอันดับ 4 ของเอเชีย สะท้อนให้เห็นว่าขีดการแข่งขันของสินค้าโภคภัณฑ์ของไทย มีราคาแพงกว่าคู่แข่ง โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อจากคู่แข่งก็มีสูง”
ทั้งนี้ เห็นว่าภาครัฐควรศึกษาแนวทางการสร้างเสถียรภาพเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้แกว่งตัวผันผวนตามสถานการณ์โลก ไม่ให้เป็นอย่างเกาหลีที่ค่าเงินแข็งค่า อันดับที่ 3-4 ของเอเชีย ทำให้ได้รับผลกระทบเพราะเศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกจำนวนมาก
รัฐแนะแปลงวิกฤติเป็นโอกาส
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนต้องประเมินผลกระทบ นอกจากต้องหาตลาดใหม่ชดเชยแล้ว ยังควรปรับตัวจากการผลิตสินค้าทั่วไป(แมส) ไปเป็นการผลิตสินค้าเฉพาะที่มีจุดเด่น มีมูลค่าสูง เป็นที่ต้องการตลาดสหรัฐ “ทูตพาณิชย์ในสหรัฐได้แจ้งเตือนให้ติดตามมาตรการที่ส่งผลกระทบกับไทย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องก็ให้มองหาโอกาสในการทำ ตลาดในพื้นที่ ในสินค้าที่สหรัฐต้องการ โดย อาจจะต้องวางแผนการการทำตลาดร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์)”
คลังคาดกระทบไทยไม่มาก
นายศรพล ตุลยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า นโยบายการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าแผงโซลาร์เซลล์และเครื่องซักผ้าของสหรัฐ เบื้องต้นยังไม่น่ากระทบกับการส่งออกของไทยมากนักเนื่องจาก เราไม่ได้ส่งออกสินค้าดังกล่าวมากนัก เข้าใจว่าผลกระทบน่าจะเกิดขึ้นกับจีนมากกว่าและยังไม่ทราบว่า จะขยายวงไปยังสินค้าอื่นอีกหรือไม่
ทั้งนี้ เท่าที่ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐยังเติบโตได้จากเศรษฐกิจภายใน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการขาดดุลการค้า ดังนั้น จึงมองว่า นโยบายการขึ้นภาษีดังกล่าว เป็นเรื่องที่ทางผู้นำสหรัฐดำเนินการเพื่อเป็นการโยนหินถามทางใน การดำเนินนโยบายอย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่า
จับตาภาษีสินค้าโภคภัณฑ์
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การกีดกันการค้าเกิดเฉพาะในสินค้าบางชนิด เชื่อว่าสหรัฐจะใช้การกีดกันรายสินค้าต่อไป ที่ต้องระวังคือกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าอุตสาหกรรม เช่นยางพารา หรือ เหล็ก
แต่โดยรวมจะส่งผลต่อเศรษฐกิจใน วงแคบๆเท่านั้น ต่างจากการตั้งกำแพงภาษี รายประเทศ จึงเชื่อได้ว่า เงินทุนต่างชาติยัง ไหลเข้าและการแข็งค่าของสกุลเงินทั่วเอเชียจะเป็นแนวโน้มหลักในปีนี้
ส่งสัญญาณเปิด’”สงครามค้า”
นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (ดับเบิลยู อีเอฟ) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ว่า สหรัฐจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของสงครามการค้าโลก อีกต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณว่า รัฐบาล สหรัฐอาจปรับขึ้นภาษีศุลกากรอีกในอนาคต หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งได้ลงนามบังคับใช้ มาตรการเรียกเก็บภาษีโซลาร์เซลล์และเครื่องซักผ้า
รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ทางการสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนจีนในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อหา มาตรการจัดการกับจีนต่อไป ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่ง ของการประกาศสงครามการค้า และปกป้องสหรัฐจากการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากชาติอื่นๆ
“สงครามการค้าได้เกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่ง แล้ว ส่งผลให้วันนี้สหรัฐต้องหามาตรการปกป้องตนเองจากการค้าที่ไม่เป็นธรรม หนึ่งในนั้นคือการปรับขึ้นภาษีศุลกากร ซึ่งไม่ได้เป็นการกีดกันทางการค้า แต่เป็นการทำตามกฎระเบียบที่ควรจะเป็นเท่านั้น”
นายรอสส์ ระบุด้วยว่า การที่สหรัฐต้องดำเนินมาตรการทางการค้าต่างๆ เป็นผลมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในส่วนของประเทศคู่ค้าสหรัฐ
ด้านนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐ ได้ออกมากล่าวปกป้องนโยบาย “อเมริกันต้องมาก่อน” ของนายทรัมป์ว่า การใช้นโยบายอเมริกันต้องมาก่อนไม่ได้หมายความว่า จะต้องนำนโยบายนี้ไปใช้กับประเทศอื่น ในโลก แค่หมายความว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังมองถึงผลประโยชน์สำหรับอเมริกัน และแรงงานอเมริกัน ซึ่งไม่แตกต่างอะไร จากผู้นำชาติอื่นๆ ที่มองหาประโยชน์ให้กับประชาชน และประเทศของตัวเอง
นายมนูชินกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีความมุ่งมั่น ที่จะจัดการกับนโยบายการค้าของประเทศใดก็ตาม “ที่ไม่เป็นธรรม” ต่อสหรัฐ ถือเป็นการส่งสัญญาณเป็นนัยว่ารัฐบาลวอชิงตันอาจเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าอีกหลายรายการ

BizTalk NEWS

Recent Posts

เซ็นทรัลพัฒนา เปิด “The Little Campus 2025” เสริมทักษะครบทุกด้าน จัดเต็มโปรโมชั่นสุดคุ้ม

ปิดเทอมนี้ไม่มีเบื่อ! เซ็นทรัลพัฒนาจัดแคมเปญ "The Little Campus 2025" ชวนน้องๆ หนูๆ และผู้ปกครอง ร่วมเปิดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ Personalized Learning ผ่านกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ เสริมทักษะรอบด้าน ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย…

1 hour ago

AI Revolution Unleashed: 2025 Smart City Summit & Expo to Redefine Global Industries

The future of urban living is here, and it’s powered by artificial intelligence. The 12th…

2 hours ago

ไต้หวัน เปิดตัว Smart City Summit & Expo 2025 ยกระดับเมืองอัจฉริยะด้วย AI ดึงดูดนานาชาติร่วมขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัล

ไต้หวันเตรียมจัดงานแสดงเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะครั้งยิ่งใหญ่ "Smart City Summit & Expo (SCSE) 2025" ครั้งที่ 12 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 มีนาคม พ.ศ. 2568…

2 hours ago

บำรุงราษฎร์ เปิดตัว Photon-counting CT สู่ยุคใหม่วินิจฉัยโรคแม่นยำ ลดเสี่ยงอันตรายจากรังสี

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จับมือ ซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส เปิดตัวเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยภาพถ่ายรังสีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก "Photon-counting CT" ก้าวสำคัญของการแพทย์แม่นยำที่ยกระดับการวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มต้นไปอีกขั้น ชูจุดเด่นความละเอียดของภาพที่เหนือกว่า ลดปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับ และเปิดประตูสู่การรักษาเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง การเปิดตัวครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน "Unlock the Future…

9 hours ago

หาดทิพย์ “HTC” ตั้งเป้ารายได้ 8,700 ล้านปี 68 มั่นใจปันผล 6% ต่อปี พร้อมลุยขวดแก้วรักษ์โลก

"หาดทิพย์" ตั้งเป้ารายได้ปี 68 พุ่ง 8,700 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลจุใจ 6% ต่อปี ตอกย้ำความเป็นหุ้นปันผลแกร่ง เดินหน้าขยายตลาดเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ ชูโรงนวัตกรรม "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา…

9 hours ago

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผนึก คีนัน เปิดตัว “Conserve my Planet” ปั้นเยาวชนสู่โลกพลังงานยั่งยืน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์กับมูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย เปิดตัวโครงการ "Conserve my Planet" หลักสูตรสุดล้ำที่มุ่งยกระดับการศึกษาไทยสู่มิติใหม่แห่ง STEM และพลังงานยั่งยืน เปิดประตูสู่โลกอนาคต: STEM และพลังงานยั่งยืน หัวใจหลักการศึกษาไทย ในยุคที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนทุกสิ่ง…

9 hours ago