Categories: educationNews Update

มรภ.กลุ่มภาคใต้ ชู 5 ศูนย์อัจฉริยะ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ พร้อมขับเคลื่อนการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยอย่างเป็นรูปธรรม สร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง

กลุ่ม มรภ.ภาคใต้ ผนึกตั้งศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ เพื่อการขับเคลื่อนการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยอย่างเป็นรูปธรรม สร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง ชูด้านการบริการองค์ความรู้ นวัตกรรม แก่ชุมชนท้องถิ่น พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน ท้องถิ่น สร้างองค์ความรู้และทักษะสอดคล้องตามความต้องการหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น สู่การสร้างอาชีพ-รายได้ มุ่งให้ นศ. ร่วมพัฒนาท้องถิ่นและรักถิ่นฐาน พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อชุมชนท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรมและพึ่งตนเองได้ พร้อมเตรียมรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาคึกคักและตลาดฮาลาลที่เติบโตสูง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เปิดเผยว่า สำหรับ “โครงการพัฒนาศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้” ภายใต้การดำเนินโครงการของมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ได้รับการคัดเลือกในโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย “Reinventing University” ของกลุ่ม 3 ที่มุ่งยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ (Area-Based & Community) ทั้งนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ 5 แห่งจึงได้ร่วมกันทำโครงการพัฒนาศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ขึ้น

สรรพากรแจงชัด ไม่เคยเก็บภาษีจากโครงการคนละครึ่ง
ยอดขาย-เช่าที่ดินพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 6 เดือนแรก โต 31.% อีอีซี ยังเป็นทำเลทองดึงดูดการลงทุน

“สำหรับภารกิจหลักของศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ คือ การให้บริการด้านองค์ความรู้ นวัตกรรม แก่ชุมชนท้องถิ่นในการศึกษาตลอดชีวิต (Lifelong learning) ด้วยการพัฒนาหลักสูตรระยะสั้น ทั้งที่เป็น non-degree และ degree ที่สามารถนำผลการเรียนเก็บสะสมไว้ในระบบคลังหน่วยกิต (Credit Bank) และการให้บริการวิชาการและการพัฒนางานวิจัย สร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม และการยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ระดับสากลตามความต้องการของชุมชน/ท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหา สร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ให้มีความเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ โดยจะมีการบูรณาการการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ นวัตกรรม และบุคลากร ร่วมกัน เพื่อใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาศักยภาพในระดับภูมิภาคศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ทั้งนี้มี 5 ศูนย์ใน 5 แหล่งที่ตั้งตามความเชี่ยวชาญของแต่ละมหาวิทยาลัย ดังนี้

1) ศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ด้านการพัฒนานวัตกรรมท้องถิ่นและโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
2) ศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ด้านการเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
3) ศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ด้านการเกษตรและอาหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
4) ศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
5) ศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช”

ทั้งนี้เป้าหมายและผลการดำเนินโครงการฯ จะทำให้มีศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ จำนวน 5 ศูนย์ ในการให้บริการด้านองค์ความรู้ นวัตกรรม แก่ชุมชนท้องถิ่น พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน ท้องถิ่น พื้นที่และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการวิจัย และบริการวิชาการ เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ พัฒนาบุคลากรในชุมชน/ท้องถิ่น มีองค์ความรู้และทักษะสอดคล้องตามความต้องการหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น มีอาชีพ มีรายได้ และมีการพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งให้นักศึกษามีทักษะชีวิตตามจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษา ตระหนักรู้ในความสำคัญของการพัฒนาท้องถิ่นและรักถิ่นฐาน มีความรู้และทักษะต่าง ๆ และสามารถประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหา และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อชุมชนท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังสร้างชุมชนนวัตกรรม ที่มีความสามารถในการพัฒนาการพึ่งตนเองและจัดการตนเองเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

“สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด 2 ปีที่ผ่านมา การสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพบุคลากรจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ โดยได้ยกตัวอย่างของศูนย์พัฒนาสมรรถนะและฝึกอาชีพตามมาตรฐานการท่องเที่ยวและบริการ กิจกรรม PKRU CMAS One Star Diver ซึ่งจากข้อมูลด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ในส่วนของสถานประกอบการสอนดำน้ำเกินกว่า70% ดำเนินการโดยชาวต่างชาติ ทำให้เม็ดเงินไม่ได้อยู่ในประเทศ ดังนั้นหากเราสามารถพัฒนาบุคลากรในพื้นให้ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองระดับสากล จะเป็นการสร้างอาชีพและเม็ดเงินให้กับเศรษฐกิจประเทศได้ปีละหลายร้อยล้านบาท สำหรับในกลุ่มวิชาชีพนี้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หิรัญ ประสารการ กล่าว

พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี หัวหน้ากลุ่มภารกิจบริหารยุทธศาสตร์ สำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ ในการติดตามการดำเนิน “โครงการพัฒนาศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้” ครั้งนี้มีการดำเนินโครงการฯ รุดหน้าเต็ม 100% พร้อมเป็นโมเดลต้นแบบในการพัฒนาด้านการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ (Area-Based & Community) ของการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยอีกหนึ่งพื้นที่ โดยจะเห็นได้จากศูนย์แต่ละแห่งมีความสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิต และตอบโจทย์จุดแข็งแต่ละพื้นที่ อาทิ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลอันดามัน ซึ่งปัจจุบันประชากรมุสลิมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของประชากรโลกที่มีกว่า 7,871 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่า 2,000 ล้านคน ส่งผลให้ตลาดอาหารฮาลาลเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง โดยมีมูลค่าตลาดทั่วโลกประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลก อีกทั้งยังมีพร้อมและความได้เปรียบในด้านโลจิสติกส์ รวมทั้งมีกลุ่มสินค้าที่มีความหลากหลายตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันไทยมีบริษัทที่ได้รับรองมาตรฐานอาหารฮาลาลประมาณ 5,000 บริษัท มีผลิตภัณฑ์ที่ขอรับการรับรองฮาลาลมากกว่า 160,000 รายการ (ข้อมูลของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย) นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ ยังเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มสินค้าฮาลาล พร้อมแนะนำผู้ประกอบการศึกษาและให้ความสำคัญกับตลาดสินค้าฮาลาลที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นการดำเนินการศูนย์จะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอร์ที่สำคัญที่ผลักดันให้เกิดความเข้มแข็งให้กับตลาดนี้

supersab

Recent Posts

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

1 hour ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

1 hour ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

2 hours ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

2 hours ago

เปิดเทรนด์ “Conscious Travel” สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ยุคสมัยที่โรงแรมเป็นเพียง "ที่นอน" ได้ลาจากไปแล้ว! นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ที่มากกว่าการพักผ่อน พวกเขาต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และใส่ใจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เทรนด์ "Conscious Travel" หรือการเดินทางอย่างมีสติกำลังมาแรง สะท้อนผ่านพฤติกรรมการพักผ่อนที่ยาวนานขึ้นในโรงแรม พร้อมแสวงหาประสบการณ์สุดพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล เจาะลึกเทรนด์นักท่องเที่ยว จากรายงาน Changing…

2 hours ago

ไชน่า ยูนิคอม ผนึกกำลัง หัวเว่ย เร่งเครื่อง 5G-Advanced ทั่วเอเชีย

ไชน่า ยูนิคอม ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการพัฒนาเครือข่าย 5G ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวแผนปฏิบัติการ 5G-Advanced อย่างเป็นทางการ ในงานแถลงข่าว "Powering the Asian Winter Games with…

2 hours ago