นายกมลภพ วีระพละ รองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการดูแลเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการสานต่อโครงการ “ก้าวต่อไปเราไม่ทิ้งกันสู้ภัยโควิด-19” และนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการ ธอส. ได้มีนโยบายให้ ธอส. เร่งขยายความช่วยเหลือดูแลลูกค้าของ ธอส. ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 อย่างเร่งด่วน ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 จึงได้มีมติเห็นชอบให้ ขยายความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใต้“มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)” และ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” ซึ่งครอบคลุมทั้งลูกค้า ที่เคยและไม่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการของธนาคารได้มีโอกาสนำเงินไปใช้จ่ายในด้านอื่นที่จำเป็น ต่อการดำรงชีวิต ฟื้นฟูรายได้ และยังมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและครอบครัวได้ต่อไป ส่วนลูกค้าที่มีรายได้กลับมาเป็นปกติแล้ว สามารถชำระเงินงวดปกติตามจำนวนในสัญญาเงินกู้เดิม หลังจากครบกำหนดตามระยะเวลาของมาตรการ โดยแบ่งการขยายความช่วยเหลือของ ธอส. ออกเป็น 2 ด้าน ดังนี้
1. สำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการแล้ว : ธอส. ขยายระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการเป็นวันที่ 31 ตุลาคม 2563 โดยอัตโนมัติ จำนวน 7 มาตรการ ครอบคลุมลูกค้าของ ธอส.ที่ได้ลงทะเบียน เข้ามาตรการไปแล้ว ให้ได้รับการขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือต่อไปอีก จำนวนถึง 168,530 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 128,590 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.1 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
มาตรการที่ 1 : ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยภายหลังจากครบ 6 เดือนตามระยะเวลาของมาตรการเดิมแล้ว ธอส. ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.75% ต่อปี
มาตรการที่ 2 : ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน สำหรับลูกค้าที่รายได้ต่อเดือนได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยง ภายหลังจากครบ 4 เดือน ตามระยะเวลาของมาตรการเดิมแล้ว ธอส. จะลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.75% ต่อปี
1.2 โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ
มาตรการที่ 1 : พักชำระเงินต้น 3 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท
มาตรการที่ 3 : พักชำระเงินต้น 6 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 3.90% ต่อปี
มาตรการที่ 4 : พักชำระเงินต้น 6 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรืออยู่ในสถานะกฎหมาย
มาตรการที่ 6 : พักชำระเงินต้น 4 เดือน และลดดอกเบี้ย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานด้านสาธารณสุขและสถานพยาบาล หลังจากครบ
4 เดือนตามระยะเวลาของมาตรการเดิมแล้ว ธอส. จะลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.75% ต่อปี
มาตรการที่ 8 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ เข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6
2. สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการ : ธอส. ขยายระยะเวลาโดยเปิดให้ลงทะเบียนเข้า “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” จำนวน 3 มาตรการ ประกอบด้วย
มาตรการที่ 3 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนพร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ โดยแสดงหลักฐานที่สะท้อนให้เห็นว่าได้รับผลกระทบด้านรายได้
มาตรการที่ 4 : พักชำระเงินต้น 6 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรืออยู่ในสถานะกฎหมาย
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 3 และ 4 ได้ที่ Application : GHB ALL หรือ www.ghbank.co.th ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2563 หรือภายใต้กรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท
มาตรการที่ 8 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย โดยขยายความช่วยเหลือไปยังลูกค้า
ทุกวัตถุประสงค์การกู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการใดๆและลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ทั้ง 2 มาตรการ และโครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ มาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ส่วนดอกเบี้ยที่ให้พักชำระไว้ลูกค้าสามารถ ทยอยผ่อนชำระให้หมดภายในระยะเวลาของสัญญาเงินกู้ ลงทะเบียนผ่าน GHB ALL หรือ www.ghbank.co.th ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 28 กันยายน 2563
เซ็นทรัลพัฒนา ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Beauty Destination จัดแคมเปญบิวตี้แห่งปี "The Unlimited Beauty 2025 – Summer Edition" รับกระแสความงามช่วงฤดูร้อนอย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31…
True สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับการเดินทางต่างประเทศ เปิดตัวบริการโรมมิ่งสุดล้ำ "GO Travel MyPlan" eSIM ที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อที่สมาร์ทกว่าเดิม ไม่ว่าคุณจะใช้เครือข่ายใด ก็สามารถซื้อ eSIM ออนไลน์และใช้งานได้ทันที ไม่ต้องยุ่งยากกับการถอดหรือเปลี่ยนซิมอีกต่อไป! รับซัมเมอร์นี้ให้สุดเหวี่ยงกับ "GO…
Garnier Color Naturals ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญสุดสร้างสรรค์ "Summer Palette by Garnier Color Mix" ซึ่งเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ พร้อมดึง…
ซีพี-เมจิ เดินหน้าพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยล่าสุดได้เปิดตัว "เมจิ โพรไบโอติก ดริ้งค์" เครื่องดื่มแนวใหม่ที่มุ่งเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงในอนาคต ซีพี-เมจิ เล็งเห็นถึงไลฟ์สไตล์และอินไซต์ของกลุ่ม Gen Z ที่มักทำกิจกรรมหลากหลายและให้ความสำคัญกับสุขภาพ…
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับ AIS ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ มุ่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากภัยมิจฉาชีพออนไลน์ให้แก่ประชาชนชาวไทยอย่างเข้มข้น ผ่านการส่งเสริมทักษะดิจิทัลและความรู้เท่าทันภัยทางการเงิน เพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งในการใช้งานบนโลกออนไลน์และการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลระบบการเงินของประเทศ และผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างเกราะป้องกันภัยทางการเงินดิจิทัลให้แก่ประชาชนในวงกว้าง หัวใจสำคัญของความร่วมมือนี้คือ การดำเนินงานเชิงรุกในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจนี้…
BizTalk x Sunny Horo กับคอลลัมน์ ดวงธุรกิจ Weekly ชวนมาอัพเดต ดวงประจำวันที่ 7 - 13 เมษายน 2568 กัน ใครเกิดตรงกับวันไหน มาดูกันเลย…
This website uses cookies.