วิจัยกรุงศรี ปรับคาดการณ์จีดีพี 63 ขยับตัวดีขึ้นมาเป็น -6.4% จากคาดการณ์เดิมที่ -10.3% ลุ้นส่งออกฟื้นดันเศรษฐกิจปีหน้าโต 3.3% ขณะที่ภาคท่องเที่ยว ภาคบริการและแรงงานภาคบริการยังไม่ฟื้น เน้นรัฐบาลคงมาตรการดูแลเศรษฐกิจต่อเนื่อง
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยทิศทางเศรษฐกิจไทย ในงาน Thailand Economic Outlook 2020-2021 ว่า วิจัยกรุงศรี ได้ปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตของจีดีพีไทยในปี 63 เป็น -6.4% จากเดิมที่คาดไว้ -10.3% ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 เติบโตดีกว่าที่คาด การใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออกเริ่มฟื้นตัว พร้อมคาดการณ์ แนวโน้มจีดีพีไทยในปีหน้า (2564) จะเริ่มกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด-19 และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.3% ดีขึ้นกว่าคาดการณ์เดิมที่ประเมินไว้ 2.9% ปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจในต่างประเทศเริ่มดีขึ้น ส่งผลดีต่อกิจกรรมภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการลงทุนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกจะค่อยๆ ฟื้นตัว ทั้งนี้คาดว่าส่งออกไทยจะขยายตัวดีขึ้นจาก -12.5% เป็น -7.5% และปีหน้าจะเติบโตได้ที่ 4.5%

สำหรับการบริโภคภาคเอกชนในปี 63 ปรับตัวดีขึ้น จาก -4.2% มาอยู่ที่ -1.1% และจะกลับเป็นบวกที่ 2.5% ในปี 64 ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปีนี้อยู่ที่ -11% ปีหน้าคาดว่าโต 3.2% ขณะที่การลงทุนภาครัฐปีนี้ อยู่ที่ 12.5% และคาดว่าจะเติบโต 10.5% ในปีหน้า
แต่อย่างไรก็ตามภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวช้ากว่าภาคอื่น ๆ โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยปีหน้าจะอยู่ที่ 4 ล้านคน จาก 6.7 ล้านคนในปี 63 แม้จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนโควิด แต่การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังไม่เกิดขึ้นจนถึงไตรมาส 4 ของปีหน้า ทำให้ภาคการท่องเที่ยว ภาคบริการและการจ้างงานภาคบริการจะยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่กำลังซื้อของคนไทย มองว่าดีขึ้น แต่ยังไม่เท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 ดังนั้นมองว่ารัฐบาลยังจำเป็นต้องออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะปกติ

ส่วนสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในประเทศปีหน้า ลดลงราว 0.6-1.1% พร้อมมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังจำเป็นต้องมีรัฐบาลเป็นตัวขับเคลื่อน
นอกจากนี้ ยังเสนอให้ไทยปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงกฎระเบียบที่เอื้อต่อการเข้ามาลงทุนของต่างชาติและการค้าขายส่งออก เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์จากการเข้าร่วม RCEP อย่างเต็มที่