เมื่อพูดถึงเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน หลายคนอาจยังไม่รู้จักเท่ากับเมืองใหญ่อย่าง เซียงไฮ้ ปักกิ่ง แต่เมืองฉงชิ่ง เป็นเมืองที่มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศจีน เพราะเป็น 1 ใน 12 เมืองใหญ่ ที่ขึ้นตรงกับรัฐบาลกลาง และเป็น 1 ใน 4 เมืองสำคัญของจีน เซี่ยงไฮ ปักกิ่ง ฉงชิ่ง เทียนจิน ที่รัฐบาลกลางจีนตั้งให้เป็นมหานครปกครองโดยตรง และเพื่อไม่ให้ ฉงชิ่ง เติบโตอย่างไร้ทิศทาง (Urban Sprawl) รัฐบาลจีนจึงได้นำแนวคิดการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะ ตามแนวทาง TOD (Transit Oriented Development) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบรับการพัฒนาเส้นทางรถไฟภายในเมือง
เมืองฉงชิ่ง เป็นเมืองต้นทางในการส่งสินค้าไปยังทวีปยุโรป ตามโครงการที่รัฐบาลจีนต้องการจะทำให้สำเร็จคือ “One belt one road” หรือ เส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 ทำให้ช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาฉงชิ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตของประชากรอย่างก้าวกระโดด
ทางรัฐบาลจีนจึงได้ว่าจ้างบริษัทต่างชาติ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะเมืองฉงชิ่ง โดยปกติแล้วหากนำแนวทาง TOD ไปพัฒนาในเมืองใหญ่ มักจะมีปัญหาติดขัดในเรื่องการเวนคืนที่ดินเพื่อการพัฒนา ข้อกำหนดกฎหมายการวางผังเมือง และกฎเทศบาลเมือง ที่อาจไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะตามแนวทาง TOD แต่ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ใช่ปัญหาของเมืองฉงชิ่ง
–ทางเดินเชื่อมชีวิตจากแนวคิด TOD
–การพัฒนาพี้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะแบบ TOD ต่างกับ TAD อย่างไร
พวกเขาเลือกทางแก้ไขปัญหาของโจทย์นี้ด้วยการเน้นเรื่องบริหารจัดการพื้นที่แบบผสมผสาน (Mixed use) ร่วมกับการใช้รถไฟฟ้าระบบรางเดี่ยว ที่มีความยืดหยุ่น ต้นทุนไม่สูงมากนัก เหมาะสมกับพื้นเมืองฉงชิ่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง มาเป็นแนวทางบริหารจัดการระบบขนส่งสาธารณะหลักของเมืองนี้
ความสำเร็จของเมืองฉงชิ่งที่ใช้แนวทาง TOD ปรากฏบน สถานีหลีจื่อป้า (Liziba station) ในเส้นทาง CRT สายที่ 2 (Chongqing Rail Transit) สถานีแห่งนี้มีเส้นทางรถไฟวิ่งผ่านทะลุตัวอาคาร ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า และสถานีรถไฟ เข้ากับหลักการบริหารจัดการพื้นที่แบบผสมผสาน ตามแนวทาง TOD อย่างมาก
เย่ เทียนยี่ (Ye Tianyi) หัวหน้าทีมออกแบบของสถานีหลีจื่อป้า และอาจารย์สอนวิชาวิศวกรรมโยธามหาวิทยาลัยฉงชิ่ง เล่าถึงการออกแบบสถานีแห่งนี้ว่า หลายคนคิดว่าสถานีหลีจื่อป้าแห่งนี้ สร้างภายหลังจากอาคารที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จแล้ว แต่ที่จริงแล้วเราออกแบบและสร้างทั้งตัวสถานีและอาคารที่อยู่อาศัยทั้งหมดในเวลาเดียวกัน
โดยความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในการออกแบบคือ การจัดการความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างราง กับโครงสร้างอาคารที่อยู่อาศัย แม้ว่าภายนอกรางรถไฟกับตัวอาคารดูเหมือนจะถูกรวมเข้าด้วยกัน แต่ที่จริงแล้วมีการแยกโครงสร้างรางรถไฟ ออกจากโครงสร้างอาคารที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน
5 ชั้นแรกของสถานีหลีจื่อป้า ออกแบบให้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสำนักงาน ชั้นที่ 7 เป็นชั้นสถานี ชั้นที่ 8 เป็นชั้นชานชาลา และจากชั้นที่ 9 ถึง 19 เป็นอาคารที่พักอาศัย ผู้พักอาศัยสามารถเดินจากห้องพักลงมาขึ้นสถานีรถไฟไปทำงานได้ที่ชั้น 7 หรือเดินมาซื้อของที่ร้านค้าในชั้น 1 – 5 ก็ได้
ภายในตัวอาคารจะมีเสาสำหรับรางรถไฟทั้งหมด 6 เสา ระหว่างเสารางรถไฟกับผนังอาคารที่อยู่อาศัย ได้เว้นช่องว่างไว้อย่างน้อย 20 ซม. เพื่อลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากรถไฟถึงตัวอาคารที่พัก นอกจากนี้รถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยวนั้นขับเคลื่อนด้วยล้อยางแบบสูบลม ซึ่งจะส่งเสียงดังเพียง 75 เดซิเบลเท่านั้น ประชาชนที่อยู่อาศัยในตัวอาคารจึงไม่ถูกรบกวนด้วยเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากรถไฟฟ้าเวลาวิ่งผ่าน สามารถใช้ชีวิตในพื้นที่สถานีได้อย่างมีความสุข
“สถานีหลีจื่อป้า ไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองฉงชิ่ง แต่ยังเป็นโมเดลการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างสถานีรถไฟกับที่อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัดให้กับเมืองต่างๆ ในประเทศจีนและทั่วโลกได้อีกด้วย” เย่ หัวหน้าทีมออกแบบกล่าว
ปัจจุบันเมืองฉงชิ่ง มีเส้นทางรถไฟภายในเมืองทั้งหมด 10 เส้นทาง 198 สถานี มีระยะทางรวม 402 กม. จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 2 ล้านคน จากประชากรในเมืองทั้งหมด 30 ล้านคน มีเส้นทางรถไฟจะครอบคลุมพื้นที่ราว 80 เปอร์เซ็นต์ของเมือง
มีแผนขยายเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินและบนดินอีกหลายสายจนถึงปี พ.ศ.2578 รวมทั้งการนำระบบการจัดการอัจฉริยะ เพื่อจูงใจประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น ตามแผนการพัฒนาระบบขนส่ง 3 มิติครอบคลุมเมืองฉงชิ่ง ที่ชื่อว่า Chongqing Mega Transportation 2021 – 2035
คาดการณ์ว่าหลังจากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าเสร็จสิ้นจะช่วยดึงดูดให้ชาวฉงชิ่งหันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ตามแนวทาง TOD เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองที่จะกลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของเอเชียแห่งศตวรรษที่ 21 ต่อไป
ข้อมูลจาก www.ichongqing.info, www.cqmetro.cn
ในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจในแบรนด์ที่สะท้อนรสนิยมและความสนใจของตัวเองมากขึ้น "Lifestyle Brand" หรือ "แบรนด์ไลฟ์สไตล์" จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสร้างความผูกพันอันแข็งแกร่งกับลูกค้า โดยนำเสนอมากกว่าแค่สินค้าหรือบริการ แต่เป็นการนำเสนอ "วิถีชีวิต" ที่ลูกค้าใฝ่ฝัน จากรายงาน Business of Fashion (BoF)…
AIS จับมือ OPPO เปิดตัว OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิป รุ่นล่าสุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 18,999 บาท พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้า AIS…
ออเนอร์ กรุ๊ป เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู "Once Wongamat" บนทำเลทองวงศ์อมาตย์ ชูจุดเด่นการออกแบบที่ผสานความหรูหรา และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ออเนอร์ กรุ๊ป (Honour Group)…
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มอบประกันอุบัติเหตุจากกรุงไทย แอกซ่า ฟรี 30 ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม - 31 ธันวาคม 2567…
พฤกษา โฮลดิ้ง ไม่หยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์สังคมแห่งโอกาสที่เท่าเทียม เดินหน้าสู่ปีที่ 6 ของโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” โดยผนึกกำลังร่วมกับ โรงพยาบาลวิมุต และ อินโนโฮม คอนสตรัคชัน ในเครือ…
บาร์บีคิวพลาซ่า จับมือ วิตอะเดย์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการน้ำดื่มผสมวิตามิน ส่ง "วิตอะเดย์ กะหล่ำปลี วอเตอร์" รสชาติสุดว้าว พร้อมดึงพี่ GON ร่วมสร้างสีสัน เอาใจสายเฮลท์ตี้ แถมโปรโมชั่นสุดคุ้มชุดประหยัดหมู 2…