นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณที่ ภาครัฐรับฟังเสียงผู้ประกอบการและประชาชน ที่ ยกเลิกตรวจ RT-PCR ทั้งหมดในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เชื่อว่าส่วนนี้จะช่วยดึงบรรยากาศการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักได้ ภาคการค้าและบริการจะได้กลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งภาคเอกชนก็จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการช่วยทำตามมาตรการต่างๆ ที่ช่วยดูแลและป้องกันการระบาดเพิ่ม รวมถึงรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย เพื่อให้เป็นการสนับสนุนการประกาศให้
โควิดเป็นโรคประจำถิ่นในระยะต่อไป
สำหรับประเด็นกระตุ้นเศรษฐกิจต่อนั้น ที่ได้เสนอมาตรการ คนละครึ่งเฟส 5 ไปนั้น แม้ว่าประชาชนจะเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น แต่ก็ยังต่ำกว่าสถานการณ์ตามปกติ ซึ่งควรเร่งกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโมเมนตัมทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น จากการคำนวน คนละครึ่งเฟส 5 รอบนี้หากมีการให้ คนละ 1,500 บาท อีกรอบ รัฐบาลก็จะใช้งบประมาณ ประมาณ 45,000 ล้านบาท (30 ล้านคน) ซึ่งส่วนนี้ ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเงินเข้าระบบ 90,000 ล้านบาท ตรงนี้จากการคำนวนแล้วจะมีการทำให้ GDP ตัวเลขดีขึ้นได้ถึง 0.63-0.65% ในปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้การเติบโตของ GDP ประเทศไทยนั้นได้อยู่ช่วงเกิน 3% แน่นอน
“หอการค้าฯ เข้าใจดีกว่าภาครัฐเองต้องพยายามรักษาวินัยทางการเงินการคลัง เพราะที่ผ่านมามีการใช้เงินในมาตรการต่าง ๆ ไปมากพอสมควร แต่หากมีการกระตุ้นต่อเนื่องไปอีกสักระยะ จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะช่วยให้มีเม็ดเงินเติมเข้าไปในระบบเศรษฐกิจแล้ว ยังช่วยประคองให้ภาคธุรกิจรายย่อยอยู่ได้ รวมถึงประคองการจ้างงานให้ยังอยู่ต่อไป นอกจากนั้น ต้องไม่ลืมว่าในเดือนหน้ายังมีความท้าทายอีกหลายอย่างที่รออยู่ โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมันดีเซล ที่จะกระตุกให้เศรษฐกิจของประเทศชะงักลงไปอีก” นายสนั่น กล่าว
นอกจากนั้น ในเดือนพฤษภาคมนี้ มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาท/ลิตร จะสิ้นสุดลง ดังนั้น หากราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศสูงขึ้นมาเป็น 35-36 บาทต่อลิตร จากการวิเคราะห์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า หากนำมันดีเซล มีการขยับราคาขึ้น 10% ธุรกิจจะยังสามารถประคองธุรกิจ ตรึงราคาต่อไปได้อีกประมาณ 3 เดือน และเมื่อราคาขยับเข้าใกล้ 35 บาท อาจจะเริ่มเตรียมตัวปรับขึ้นราคาสินค้า ดังนั้น ภาครัฐต้องเร่งออกมาตรการ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว สำหรับการรับมือในสถานการณ์ครั้งนี้ เพื่อชะลอและลดผลกระทบต่อสถาการณ์เศรษฐกิจ รวมถึงที่สำคัญที่ต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย
“ที่ผ่านมา หอการค้าฯ พยายามผลักดันให้มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการจับจ่ายใช้สอย และเกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสร้างแรงเหวี่ยงทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หากเราไม่สามารถหลุดพ้นจากจุดนี้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจคงเกิดได้ยาก ดังนั้น หอการค้าฯ ยังคงยืนยันว่า ภาครัฐต้องทบทวนการนำโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 มาใช้ เพราะถือว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นในสถานการณ์ที่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติเช่นนี้ นอกจากนั้น เรื่องมาตรการ เราเที่ยวด้วยกันที่สิทธิ์หมดไปแล้วก็น่าจะนำมาช่วยภาคท่องเที่ยวและบริการต่อด้วย” นายสนั่น กล่าวทิ้งท้าย
กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…
China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…
AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…
ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…
ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…
ยุคสมัยที่โรงแรมเป็นเพียง "ที่นอน" ได้ลาจากไปแล้ว! นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ที่มากกว่าการพักผ่อน พวกเขาต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และใส่ใจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เทรนด์ "Conscious Travel" หรือการเดินทางอย่างมีสติกำลังมาแรง สะท้อนผ่านพฤติกรรมการพักผ่อนที่ยาวนานขึ้นในโรงแรม พร้อมแสวงหาประสบการณ์สุดพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล เจาะลึกเทรนด์นักท่องเที่ยว จากรายงาน Changing…