สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยผลการวิเคราะห์นโยบายพรรคการเมืองหลัก พบว่า แทบทุกพรรคให้ความสำคัญด้านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอนาคตที่มีศักยภาพ (S-curve) โดยนโยบายส่วนใหญ่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ยกระดับฝีมือแรงงาน สร้างอุตสาหกรรมสีเขียว และปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการลงทุน ซึ่งเชื่อว่าทุกภาคส่วนจะสามารถเดินหน้าทำงานเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศได้ทันที
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา สศอ. ได้ติดตามการแถลงนโยบายของพรรคการเมือง ทั้งพรรคใหญ่ และพรรคเล็ก ซึ่งทุกพรรคมีแนวนโยบายที่ดีแตกต่างกันไป โดยมีอุดมการณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมถือเป็นกำลังสำคัญส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้นโยบายเหล่านี้บรรลุผลสำเร็จ ดังนั้น มุมมองและทิศทางนโยบายเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของพรรคการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศในอนาคตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
สศอ. ได้วิเคราะห์เชิงนโยบายเบื้องต้น พบว่า พรรคการเมืองหลักส่วนใหญ่มีพื้นฐานแนวคิดด้านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่มีความคล้ายคลึงกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของภาคเอกชน ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน ทั้งภายในและภายนอกประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้พัฒนาสินค้าและบริการ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ เช่น Big Data ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น การปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยและไม่จำเป็น การปฏิรูปบทบาทภาครัฐให้เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน และการพัฒนาทักษะกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ หรือระบบการศึกษาทวิภาคี ซึ่งสามารถสรุปนโยบายที่น่าสนใจของพรรคการเมืองหลักเรียงตามลำดับตัวอักษรชื่อพรรค ได้ดังนี้
• พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ผ่านโครงการประกันรายได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรค โดยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ เช่น รถไฟความเร็วสูง
• พรรคพลังประชารัฐ ชูนโยบาย 7 เศรษฐกิจประชารัฐ เน้นการต่อยอดนโยบายรัฐบาลเดิม เช่น มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และนวัตกรรมอุตสาหกรรมสีเขียว ยกระดับเอสเอ็มอี ปฎิรูประบบราชการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการรถไฟทางคู่
• พรรคเพื่อไทย เน้นการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายของประชาชนในประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร ยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ การนำเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมมาใช้สร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริมสินค้า Made in Thailand
• พรรคภูมิใจไทย ให้ความสำคัญกับพืชเศรษฐกิจใหม่ อย่าง กัญชา โดยเน้นนโยบายการปลูกเสรี เพื่อการแพทย์ทางเลือก นอกจากนี้มีนโยบายการลงทุนแบบกระจายทุกพื้นที่ทั่วไทย การปฏิรูปการทำงานภาครัฐ โดยเฉพาะระบบการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการชี้นำประเทศ
• พรรคอนาคตใหม่ เน้นการสร้างเศรษฐกิจของประเทศด้วยอุตสาหกรรมรถไฟ โดยมีนโยบายผลักดันการขนส่งแบบ Hyperloop และให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งมีการส่งเสริมการใช้ Open Data เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างงาน และสร้างธุรกิจ
นอกจากพรรคหลักที่ได้คะแนนเสียงจำนวนมากแล้ว ยังมีพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีนโยบายผลักดันภาคอุตสาหกรรมที่น่าสนใจเช่นกัน เช่น นโยบายพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของพรรคเสรีรวมไทย นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรของพรรคชาติพัฒนา ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระจายรายได้สู่ระดับท้องถิ่นมากขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อประเมินการจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เกิดผลเชิงบวกสูงสุดต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ภายใต้บริบทต่าง ๆ ที่เป็นกระแสอยู่ในปัจจุบันและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ แม้พรรคส่วนใหญ่จะมีประเด็นนโยบายที่ใกล้เคียงกัน ยกตัวอย่างเช่น นโยบายด้านค่าแรง ซึ่งเกือบทุกพรรคให้ความสำคัญกับนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่และปากท้องของประชาชน แต่ในความคล้ายกันเชิงนโยบาย ก็ยังมีความแตกต่างกันบ้างในแง่ของวิธีการ เช่น บางพรรคเลือกใช้วิธีการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่บางพรรคอาศัยวิธีการประกันรายได้ บางพรรคใช้นโยบายโครงข่ายความปลอดภัยทางสังคม (Social Safety Net) หรือ การสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า อย่างไรก็ตาม จุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับนโยบายค่าแรง คือ การผลักดันระบบการจ่ายค่าแรงตามทักษะ (Pay by Skill) ของบรรดาพรรคหลัก ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ในอนาคตทิศทางแรงงานภาคอุตสาหกรรมจะมีการยกระดับทักษะ (Up skill) และการเสริมทักษะ (Re-skill) มากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการยกระดับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่อไป
True สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับการเดินทางต่างประเทศ เปิดตัวบริการโรมมิ่งสุดล้ำ "GO Travel MyPlan" eSIM ที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อที่สมาร์ทกว่าเดิม ไม่ว่าคุณจะใช้เครือข่ายใด ก็สามารถซื้อ eSIM ออนไลน์และใช้งานได้ทันที ไม่ต้องยุ่งยากกับการถอดหรือเปลี่ยนซิมอีกต่อไป! รับซัมเมอร์นี้ให้สุดเหวี่ยงกับ "GO…
Garnier Color Naturals ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญสุดสร้างสรรค์ "Summer Palette by Garnier Color Mix" ซึ่งเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ พร้อมดึง…
ซีพี-เมจิ เดินหน้าพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยล่าสุดได้เปิดตัว "เมจิ โพรไบโอติก ดริ้งค์" เครื่องดื่มแนวใหม่ที่มุ่งเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงในอนาคต ซีพี-เมจิ เล็งเห็นถึงไลฟ์สไตล์และอินไซต์ของกลุ่ม Gen Z ที่มักทำกิจกรรมหลากหลายและให้ความสำคัญกับสุขภาพ…
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับ AIS ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ มุ่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากภัยมิจฉาชีพออนไลน์ให้แก่ประชาชนชาวไทยอย่างเข้มข้น ผ่านการส่งเสริมทักษะดิจิทัลและความรู้เท่าทันภัยทางการเงิน เพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งในการใช้งานบนโลกออนไลน์และการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลระบบการเงินของประเทศ และผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างเกราะป้องกันภัยทางการเงินดิจิทัลให้แก่ประชาชนในวงกว้าง หัวใจสำคัญของความร่วมมือนี้คือ การดำเนินงานเชิงรุกในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจนี้…
BizTalk x Sunny Horo กับคอลลัมน์ ดวงธุรกิจ Weekly ชวนมาอัพเดต ดวงประจำวันที่ 7 - 13 เมษายน 2568 กัน ใครเกิดตรงกับวันไหน มาดูกันเลย…
Biztalk ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 พาไปนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ติดตามโอกาสทางการค้าไทย ผ่านโครงการเชื่อมต่อการขนส่งทางรางในเส้นทาง สิงคโปร์-คุนหมิง ที่จะนำพาสินค้าไทยไปยังจีนและส่งต่อไปยังสหภาพยุโรป พร้อมอัพเดทความเคลื่อนไหวโครงการตั๋วร่วมและรถไฟ 20 บาทตลอดสาย ทุกสายกันยายนนี้…
This website uses cookies.