อินเทลมุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ทั่วโลกภายใน พ.ศ. 2583

อินเทล คอร์ปอเรชัน ได้ประกาศแผนการที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมเดินหน้าพัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ให้คำมั่นที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gas) สุทธิเป็นศูนย์ในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2583 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มต่างๆ ของอินเทล โดยมีเป้าหมายที่จำเพาะและชัดเจน และเพื่อทำงานร่วมกับลูกค้าและคู่ค้าในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโซลูชันที่จะช่วยลดค่ารอยเท้าก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gas footprint) ของระบบนิเวศทางเทคโนโลยีทั้งหมด

“ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามระดับโลกที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน การปกป้องโลกของเราจำเป็นต้องมีการดำเนินการในทันที และต้องมีความคิดใหม่ๆ ในการรับมือกับวิธีการทำงานของโลก ในฐานะหนึ่งในบริษัทออกแบบและผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของโลก อินเทลอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครที่จะสร้างความแตกต่าง ซึ่งไม่เฉพาะในด้านการดำเนินงานของเราเองเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้า คู่ค้า และห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของเราดำเนินการอย่างมีความหมายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย” แพท เกลซิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินเทล กล่าว

CMMU ผนึก EXIM BANK เคาะ 3 กลไกสำคัญ หนุนเด็กไทยสร้างธุรกิจหลังเรียนจบ พร้อมขยายโอกาสทำการค้าในต่างประเทศ
ดีพร้อม ปล่อยสินเชื่อระยะสั้น อุ้มผู้ประกอบการฝ่าทางตันธุรกิจ พร้อมเดินหน้าแก้หนี้ ด้วยหลักสูตร Financial Literacy

ความหมายของการดำเนินงานทั่วโลกของอินเทล: อินเทลมุ่งมั่นที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตลอดการดำเนินงาน หรือที่เรียกว่าการปล่อยมลพิษในขอบเขตที่ 1 และ 2 ภายในปี 2583 ลำดับความสำคัญของอินเทลคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแข็งขันให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ โดยจะใช้การชดเชยคาร์บอนที่น่าเชื่อถือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายก็ต่อเมื่อตัวเลือกอื่นๆ หมดลงเท่านั้น

เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว อินเทลได้กำหนดเหตุการณ์สำคัญชั่วคราวต่อไปนี้สำหรับปี 2573:

-บรรลุการใช้ไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ในการดำเนินงานทั่วโลก
-ลงทุนประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการอนุรักษ์พลังงานที่โรงงานของอินเทล เพื่อให้ประหยัดพลังงานสะสมถึง 4 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
-สร้างโรงงานและสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ U.S. Green Building Council® LEED® ซึ่งรวมถึงการลงทุนที่เพิ่งประกาศในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
-เปิดตัวความคิดริเริ่มการวิจัยและพัฒนา (Research & Development: R&D) แบบข้ามอุตสาหกรรม เพื่อระบุสารเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมทั้งส่งผลต่อภาวะโลกร้อนได้น้อยลง และเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใหม่ๆ ได้มากขึ้น

เป้าหมายเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความมุ่งมั่นของอินเทลในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เช่น กลยุทธ์ RISE การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมของอินเทลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้นต่ำกว่าที่เคยเป็นมาเกือบ 75% หากเปรียบเทียบกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อไม่มีการลงทุนและการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว

คีย์แวน เอสฟาร์จานี รองประธานบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการระดับโลกของอินเทล กล่าวว่า “อินเทลเป็นผู้นำด้านผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และเราทราบดีว่า ความเป็นผู้นำย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มากขึ้น เรากำลังยกระดับมาตรฐานและเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ในการดำเนินงานทั้งหมดของเราภายในปี 2583 สิ่งนี้จะต้องใช้นวัตกรรมและการลงทุนเป็นจำนวนมหาศาล แต่เรามุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่จำเป็น และจะทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมเพื่อบรรลุภารกิจที่สำคัญนี้ให้สำเร็จ”

ความหมายของการปล่อยมลพิษในขอบเขตที่ 3 ของอินเทล: อินเทลมุ่งมั่นที่จะจัดการกับผลกระทบต่อสภาพอากาศตลอดห่วงโซ่คุณค่าต้นน้ำและปลายน้ำทั้งหมด หรือที่เรียกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 โดยกลยุทธ์ขอบเขตที่ 3 ของอินเทล มุ่งเน้นไปที่การเป็นพันธมิตรกับซัพพลายเออร์และลูกค้าในการดำเนินการเชิงรุกเพื่อลดการปล่อยมลพิษโดยรวม

สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับซัพพลายเชนของอินเทล: อินเทลมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับซัพพลายเออร์แต่ละราย เพื่อระบุพื้นที่ต่างๆ ที่มีความจำเป็นด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการให้ความสำคัญกับซัพพลายเออร์ที่เพิ่มขึ้นในด้านการอนุรักษ์พลังงานและการจัดหาพลังงานหมุนเวียน การเพิ่มประสิทธิภาพทางเคมีและทรัพยากร และกลุ่มอุตสาหกรรมข้ามสายชั้นนำเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ห่วงโซ่มูลค่าการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่มีก๊าซเรือนกระจกสุทธิศูนย์ ทั้งนี้ เพื่อเร่งความก้าวหน้า อินเทลมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในซัพพลายเชนให้ลดลงอย่างน้อย 30% ภายในปี 2573 เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อไม่มีการลงทุนและการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว

สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของอินเทล: เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนของลูกค้า และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ในขอบเขตที่ 3 อินเทลจะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์ และยังคงขับเคลื่อนการปรับปรุงประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาดต่อไป ทั้งนี้ อินเทลกำลังตั้งเป้าหมายใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้สูงขึ้นถึง 5 เท่าสำหรับ CPU-GPU รุ่นต่อไปที่มีชื่อว่า Falcon Shores นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในปี 2573 ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์ถึง 10 เท่าสำหรับไมโครโปรเซสเซอร์สำหรับลูกค้า และเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ

เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุการลดคาร์บอนของแพลตฟอร์ม อินเทลได้ขยายขอบเขตนวัตกรรมในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้

-การจัดวาง การเลือก และโมดูลของส่วนประกอบภายในทั้งหมดเพื่อลดขนาดของเมนบอร์ด
-เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของระบบและประสิทธิภาพการแสดงผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้พลังงานโดยรวมลงอย่างมาก
-การใช้แผงวงจรพิมพ์ชีวภาพเพื่อช่วยในการแยกวัสดุและส่วนประกอบเมื่อรีไซเคิล และเพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยรวม

นอกจากนี้ อินเทลยังได้ตั้งเป้าหมายใหม่เพื่อลดการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบแพลตฟอร์มอ้างอิงสำหรับฟอร์มแฟคเตอร์ของลูกค้าลงไป 30% หรือมากกว่านั้นภายในปี 2573 ความพยายามเหล่านี้กำลังเป็นรูปเป็นร่างด้วยอุปกรณ์ดีไวซ์ต้นแบบ Concept Luna ของเดลล์ ซึ่งพัฒนาร่วมกับอินเทล เพื่อแสดงความเป็นไปได้ในอนาคตในการออกแบบเครื่องพีซีอย่างยั่งยืน

เกล็น ร็อบสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีสำหรับลูกค้า กลุ่มโซลูชัน จากเดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า “ความร่วมมือเป็นกุญแจสำคัญในการหาทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมสำคัญต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ อินเทลเป็นพันธมิตรที่สำคัญในเรื่องนี้ ที่ช่วยให้เราขับเคลื่อนนวัตกรรมร่วมกัน ซึ่งสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพของมาเธอร์บอร์ด การพัฒนาแผงวงจรพิมพ์แบบชีวภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานของระบบในอุปกรณ์ Concept Luna ของเรา ความทะเยอทะยานเบื้องหลังการทำงานอย่างต่อเนื่องนี้คือการทดสอบ พิสูจน์ และประเมินโอกาสในการนำเสนอแนวคิดการออกแบบที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ในวงกว้างทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอของเรา ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่เราจะเร่งเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เพียงพอและปกป้องโลกของเราสำหรับคนรุ่นต่อไป ”

เกี่ยวกับการสร้างโซลูชั่นที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น: อินเทลกำลังประสานความร่วมมือกับลูกค้าหลายร้อยรายและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโซลูชั่นที่ตอบสนองความต้องการด้านพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมอบประสิทธิภาพการทำงานที่มากขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง เช่น อินเทลกำลังผนึกกำลังกับพันธมิตรในการเปิดตัวการนำร่องการระบายความร้อนด้วยการแช่ของเหลวสำหรับดาต้า เซ็นเตอร์ ของผู้ให้บริการระบบคลาวด์และการสื่อสารอย่างทั่วถึง ตัวอย่างบริษัท เช่น Submer ซึ่งรวมถึงการยอมรับหลักการใหม่ๆ เช่น การดึงความร้อนกลับคืน และการนำกลับมาใช้ใหม่ ผ่านการทำความเย็นแบบ immersion cooling

แดเนียล โป๊ป ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ Submer กล่าวว่า “99% ของความร้อนที่เกิดจากอุปกรณ์ไอทีสามารถถูกดักจับได้ในรูปของน้ำอุ่น ซึ่งแทบไม่เกิดการสูญเสียและถูกดักจับที่อุณหภูมิที่สูงขึ้น การเป็นพันธมิตรกับอินเทล ช่วยให้ Submer สามารถเพิ่มโซลูชันการระบายความร้อนที่ได้รับมาตรฐานการรับรองแล้ว ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานในขณะที่กำลังดักจับความร้อนแล้ว ยังสามารถนำพลังงานจากความร้อนกลับมาใช้ใหม่ได้ สิ่งนี้จะเปลี่ยนวิธีการสร้างและดำเนินการของดาต้า เซ็นเตอร์ไปอย่างสิ้นเชิง”

การเพิ่มการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียน เป็นขั้นตอนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก อินเทลได้พัฒนาโซลูชันที่สามารถรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของโครงข่ายพลังงานที่มีอยู่แล้ว เพื่อสร้างกริดที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น โดยสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการและแหล่งที่มาของพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้อินเทลและผู้ให้บริการสาธารณูปโภครายใหญ่ของโลกบางรายได้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตร Edge for Smart Secondary Substations Alliance เพื่อปรับปรุงสถานีไฟฟ้าย่อยของกริดพลังงานให้ทันสมัยและรองรับแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัท Enedis ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส เพิ่งเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรเพื่ออัปเกรดสถานีไฟฟ้าย่อยจำหน่ายกว่า 800,000 สถานี ด้วยโซลูชันที่สามารถควบคุมเครือข่ายได้แบบเรียลไทม์

โดยฮาร์ดแวร์ที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ของอินเทลและซอฟต์แวร์แบบเปิด ยังมอบความสามารถในการช่วยให้โซลูชันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสำหรับลูกค้า ช่น ภายในดาต้า เซ็นเตอร์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสาร 5G ของผู้ให้บริการโทรคมนาคมของประเทศญี่ปุ่นอย่าง KDDI ลดการใช้พลังงานโดยรวมลง 20% ในการทดลองใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Scalable นอกจากนี้ การจัดการพลังงานที่ครอบคลุมและความสามารถ AI ของอินเทลยังช่วยให้สามารถปรับขนาดการบริโภคพลังงานได้ตามความต้องการอีกด้วย

บริบทเพิ่มเติม: อินเทลจะยังคงให้การอัปเดตเกี่ยวกับแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ และกลยุทธ์การใช้คอมพิวเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งปี

supersab

Recent Posts

vivo V50 เปิดตัวแล้ว มาพร้อมกล้อง ZEISS 50MP ในราคาเริ่มต้น 15,999 บาท

เปิดตัว vivo V50 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล V Series ที่มาพร้อมคอนเซปต์ "ถ่ายที่รักอย่างโปร" ชูจุดเด่นกล้อง ZEISS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลรอบด้าน อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI…

51 minutes ago

LINE MAN เผยเทรนด์ “ชาไทย Specialty” แรงจัด! ยอดสั่งพุ่ง 81% ร้านใหม่ผุด 205%

กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…

4 hours ago

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

6 hours ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

6 hours ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

6 hours ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

6 hours ago