ในงาน CES 2022 หรือ Consumer Electronics Show 2022 อินเทลได้ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยนำสถาปัตยกรรมไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงมาสู่แพลตฟอร์มโมบายล์เป็นครั้งแรกด้วยโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ใหม่ล่าสุดที่เร็วเร็วแรงกว่าโปรเซสเซอร์โมบายล์รุ่นก่อนหน้าสูงสุดถึง 40 เปอร์เซนต์ โดยอินเทลได้นำเสนอโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 รุ่นใหม่ จำนวน 28 ตัว ที่มอบฟีเจอร์ทรงประสิทธิภาพมากมายในการสร้างแล็ปท็อปเพื่อให้ผู้คนสามารถเปิดใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อพวกเขาต้องการ และตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างเต็มที่
–Sony เผย PlayStation VR2 รองรับ 4K HDR พร้อมระบบเลียนแบบความรู้สึก
–การ์มิน เปิดตัว “VENU 2 PLUS” จีพีเอสสมาร์ทวอทช์ มาพร้อมฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียง
ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 อย่างเต็มรูปแบบ ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ยังถือเป็นตัวแทนของไลน์อัพผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่สามารถปรับขนาดได้มากที่สุดของอินเทล โดยเป็นการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์การออกแบบสำหรับทั้งผู้บริโภค องค์กร อินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) และแอปพลิเคชันอื่นๆ
Gregory Bryant รองประธานกรรมการบริหาร และผู้จัดการทั่วไป ของ Intel Client Computing Group กล่าวว่า “สถาปัตยกรรมไฮบริดอันทรงประสิทธิภาพใหม่ล่าสุดของอินเทล จะช่วยเร่งความเร็วของนวัตกรรมและอนาคตของการประมวลผลไปอีกระดับ และด้วยการเปิดตัวของโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 เรากำลังปลดล็อกประสบการณ์ใหม่ๆ และกำหนดมาตรฐานด้านประสิทธิภาพด้วยโปรเซสเซอร์สำหรับแล็ปท็อปที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
อินเทลยังคงเดินหน้านำเสนอประสิทธิภาพการทำงานของโปรเซสเซอร์โมบายล์ชั้นนำในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 รุ่นใหม่ล่าสุด นำโดย Intel Core i9-12900HK ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มเกมโมบายล์ที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นโปรเซสเซอร์โมบายล์ที่เร็วแรงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาอีกด้วย
ด้วยการจับคู่ของสถาปัตยกรรมไฮบริดของอินเทลอย่าง Performance-cores (P-cores) และ Efficient-cores (E-cores) ร่วมกับการจัดลำดับของการทำงานเวิร์กโหลดและการกระจายงานผ่าน Intel® Thread Director ส่งผลให้ Intel Core i9-12900HK ใหม่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชั่นแบบซิงเกิลเธรดและมัลติเธรดให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีประมวลผล Intel 7 โปรเซสเซอร์ Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 ใหม่ ประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12 ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเล่นเกม นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ และวิศวกรมืออาชีพที่ต้องการยกระดับประสิทธิภาพของแล็ปท็อปให้เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น โปรเซสเซอร์โมบายล์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มอบประสิทธิภาพการทำงานระดับเดสก์ท็อปแม้ในขณะเดินทาง โดยจะมีระบบไฟฟ้าพร้อมใช้งานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ที่ขยายครอบคลุมทุกการใช้งาน ยังรวมถึงโปรเซสเซอร์โมบายล์ U-series และ P-series ใหม่ โดยโปรเซสเซอร์ Intel Core P-series มาพร้อมกับจำนวนคอร์สูงสุด 14 คอร์ และเธรดสูงสุด 20 เธรด รองรับกราฟิกแบบครบวงจร Intel® Iris® Xe และใช้พลังงานพื้นฐาน 28 วัตต์ โปรเซสเซอร์ P-series ได้รับการออกแบบมาสำหรับแล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงที่มีความบางและเบา ในขณะที่โปรเซสเซอร์ U-series ใช้พลังงานพื้นฐาน 9-15 วัตต์ เหมาะสำหรับแล็ปท็อปที่บางและเบาที่มีการปรับแต่งฟอร์มแฟคเตอร์ (form factor) เรียบร้อยแล้ว โปรเซสเซอร์โมบายล์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่จำเป็นสำหรับแล็ปท็อปที่บางและเบาหลากหลายรุ่นโดยเฉพาะ รวมไปถึงฟอร์มแฟคเตอร์ล้ำสมัยที่บริษัทผู้รับจ้างผลิตและประกอบสินค้าหรือ OEM (Original Equipment Manufacturer) จะส่งมอบในปี 2565 นี้ เช่น แล็ปท็อปแบบพับได้ แล็ปท็อป 2-in-1 และแล็ปท็อปที่สามารถแยกหน้าจอและแป้นพิมพ์ออกจากกันได้ ฯลฯ
โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core U-series และ P-series เจนเนอเรชั่น 12 เหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับปริมาณเวิร์กโหลดในเวลาเดียวกันได้พร้อมๆ กัน ช่วยเสริมประสิทธิภาพการผลิตของธุรกิจ และแม้กระทั่งการเล่นเกมด้วยประสิทธิภาพความคมชัดสูงแบบ Full HD โดยโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core U-series และ P-series จะวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ดีไวซ์ที่ออกแบบมาสำหรับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ Chrome
การเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 ในครั้งนี้ ยังรวมถึงการอัปเดตใหม่ล่าสุดของมาตรฐานแพลตฟอร์ม Intel Evo สำหรับแล็ปท็อปและฟอร์มแฟคเตอร์แบบพกพาตัวอื่นๆ ที่ผ่านการรับรองคุณสมบัติครั้งที่สามและคุณสมบัติที่บ่งชี้ประสบการณ์หลักของอินเทลในโครงการนวัตกรรม Project Athena ของอินเทล ด้วยการดีไซน์ออกแบบและพัฒนาร่วมกันกว่า 100 รุ่นที่ใช้งานโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 รวมถึงจอแสดงผลแบบพับได้แบบใหม่ และโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-series, U-series และ P-series ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งคาดว่าแล็ปท็อปและฟอร์มแฟคเตอร์เหล่านี้จะเริ่มผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน Intel Evo โดยส่วนใหญ่จะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565
นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องประสิทธิภาพความรวดเร็วในการตอบสนอง อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์โลกการใช้งานจริง การเปิดใช้งานได้ทันทีและการชาร์จไฟอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีชุดข้อกำหนดของระบบและการทดสอบเพิ่มเติมที่เรียกว่า “การทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด” (intelligent collaboration) ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเงื่อนไขการรับรองคุณสมบัติครั้งที่สาม คุณสมบัติการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดจะช่วยสร้างความมั่นใจถึงประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้งาน เมื่อทำงานร่วมกันผ่านแอปการประชุมวิดีโอออนไลน์บนเครื่องพีซี ด้วยเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนที่ใช้ AI รวมถึง Intel Wi-Fi 6E (Gig+) แบบผสานรวม, Intel® Connectivity Performance Suite, และเอฟเฟกต์การถ่ายภาพด้วยกล้องที่เร่งประสิทธิภาพด้วย AI
เพื่อเป็นการขยายประสบการณ์ผ่านอุปกรณ์เสริม อินเทลได้ประกาศเปิดตัวโปรแกรม Engineered for Intel® Evo™ และ Intel® Evo™ vPro® ในการสร้างประสบการณ์แบบครบวงจรผ่านการออกแบบทางวิศวกรรมร่วมกันและการทดสอบของอินเทลสำหรับ Thunderbolt™ และอุปกรณ์เสริม Bluetooth ต่างๆ
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ในอุตสาหกรรม อินเทลขอนำเสนอมาตรฐานแพลตฟอร์ม Intel vPro® เวอร์ชันใหม่ เพื่อมอบแนวทางที่ปรับให้เหมาะกับธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพระดับองค์กรของโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจโดยเฉพาะ
-Intel vPro Enterprise คือแพลตฟอร์มที่มีคุณสมบัติครบถ้วน พร้อมการประมวลผลระดับองค์กร การรักษาความปลอดภัยระดับพรีเมียม ความสามารถในการจัดการที่ทันสมัย และความเสถียรด้านการจัดการสำหรับธุรกิจทุกขนาด ซึ่งในขณะนี้รองรับระบบปฏิบัติการ Chrome กับ Intel vPro® Enterprise for Chrome เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
-Intel vPro an Intel Evo Design รวบรวมประโยชน์ต่างๆ ของ Evo และ vPro ไว้ด้วยกันสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์พกพาระดับมืออาชีพที่ต้องการประสบการณ์ที่เหนือชั้นไปอีกขั้น
-Intel vPro Essentials ตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลพื้นฐานของธุรกิจขนาดเล็กด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยในตัว รวมถึงคุณสมบัติการจัดการพีซีขั้นพื้นฐาน
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดงาน JOB EXPO THAILAND 2024 มหกรรมหางานสร้างรายได้ที่สนุกที่สุด โดยมี นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน นายอารี…
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผนึกกำลังกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ผ่าน DIPROM CONNECTION หนุนความร่วมมือ “การพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสทางการตลาดเพื่อยกระดับขีดความสามารถวิสาหกิจไทยอย่างยั่งยืน” เพื่อเสริมแกร่งชุมชน-วิสาหกิจไทย…
บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (“Gulf Edge”) และ Google Cloud ได้ประกาศข้อตกลงระยะเวลายาวสำหรับการให้บริการ Sovereign Cloud ในประเทศไทยตามข้อกำหนดที่เข้มงวด ด้านถิ่นที่อยู่ของข้อมูล ความปลอดภัย…
โรงพยาบาลวิมุต เดินหน้าสร้างสังคมไทยที่อยู่ดี-มีสุข สอดรับกับนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดโครงการ "วิมุตอาสา ผ่าตัดต้อกระจก" ร่วมกับทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ และสำนักงานเขตพญาไท มอบการผ่าตัดต้อกระจกจำนวน 30 ดวงตา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ให้กับชุมชนและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตพญาไท โดยโรงพยาบาลวิมุต…
ในโลกปัจจุบันของการใช้แรงงาน ความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equality) และการไม่แบ่งแยก (Inclusion) ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่บริษัทต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญสูงสุดและจริงจัง ด้วย DE&I มีผลต่อความสำเร็จขององค์กรมากมาย จากรายงานของ McKinsey ระบุว่า…
“สหรัฐอเมริกา” เป็นประเทศที่มีอัตราการใช้ไฟฟ้าและแนวโน้มความต้องการไฟฟ้าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก สอดรับกับเทรนด์การใช้พลังงานไฟฟ้า (Electrification) ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยี AI และธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ต้องใช้พลังงานสูงในการจัดเก็บและ บริหารข้อมูลจำนวนมหาศาล บริษัท บ้านปู เพาเวอร์…